ไลฟ์แฮ็ก

คิดอย่างไร หากถูกเปรียบเหมือน “ควาย”

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คิดอย่างไร หากถูกเปรียบเหมือน “ควาย”

Photo: Herriest from https://pixabay.com/photos/cow-riding-man-asia-vietnam-old-519246/ Cover Creation: Canva

หากผู้เขียนตั้งคำถามว่า ในชีวิตของทุกคนนั้น เคยไหมที่ถูกเปรียบเทียบเหมือน ”ควาย” คำถามต่อมาคือ แล้วรู้สึกกับคำพูดนั้นอย่างไร แน่นอนว่า”คำ”ตามแนวคิดของคนไทยที่ใช้กันมาเนิ่นนานนั้นมีพลังทำลายล้างจิตใจสูงมาก โดยเฉพาะผู้ที่ถูกเปรียบเทียบ อาจส่งผลให้ผู้นั้นหมดกำลังใจ ท้อถอยจนไปต่อไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้น หากบุคคลนั้นยังไม่มีวุฒิภาวะ ความคิด ความรู้สึกที่หนักแน่นเพียงพอแล้ว มีแนวโน้มที่คำกล่าวนั้นจะส่งผลต่อพฤติกรรมและการใช้ชีวิตในทางลบเป็นแน่ เพื่อให้ผู้อ่านหรือเยาวชนทั่วไปมองเห็นภาพ ให้ทุกคนลองคิดตามจากเหตุการณ์ที่ผู้เขียนจะกล่าว  ต่อไปนี้

ความเครียดที่เกิดจากความคาดหวังของคนในครอบครัว Cr. TheDigitalArtist from pixabayCr. TheDigitalArtist from https://pixabay.com/photos/stress-anxiety-depression-unhappy-2902537/

Advertisement

Advertisement

ประสบการณ์ตรงอยู่ในช่วงวัยเรียนมัธยมปลาย ทุกครอบครัวอาจพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่มักจะใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ  ในเรื่องต่างๆ ซึ่งสามารถส่งผลได้ทั้งในทางที่ดีหรือตรงกันข้าม ช่วงเวลานั้น ผู้เขียนจำได้ไม่ชัดเจนนักว่าขณะนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ครู่หนึ่งผู้เขียนได้ยินคำถามแว่วมาว่า......

"…short กับ long แปลว่าอะไร "

เป็นอย่างไรหละ เรียนศิลป์-ภาษา ความรู้แน่นมาก เมื่อได้ยินคำถามนั้น ทำให้สั่นไปถึงหัวใจ เพราะผู้ถามทำสีหน้าจริงจัง ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดเพราะตอบคำถามนั้นไม่ได้ ช่วงนั้นต้องยอมรับว่าเป็นเด็ก “เปรี้ยว” คือดื้อและเกเรียนมาก ใช้พลังวัยรุ่นในทางที่ผิดโดยเป็นผู้นำเก๋าโจ๋    ปีนกำแพงโรงเรียนข้างห้องสมุด ทั้งที่ใส่กระโปรง เท่ห์ไหมหละ…วัยรุ่น ย้อนกลับมา ผู้เขียนได้แต่นั่งหน้าซีดเป็นไก่ต้มเหมือนทำอะไรผิดแสนสาหัส ในขณะเดียวกันผู้ที่รอฟังคำตอบอย่างอดทนนั้น คงคิดได้ว่าถึงเวลาต้องพูดตรงๆ เปิดอกเปิดใจคุยกันแบบลูกผู้ชาย เพราะช่วงนั้นเราก็ออกจะแมน  จากนั้นผู้เขียนก็ได้ยินคำพูดที่ไม่เคยคาดคิด นั่นก็คือ

Advertisement

Advertisement

"….…นี่ทำงานหนักเพื่อส่งคนเรียนนะ ไม่ได้ส่งควายเรียน"

ขณะนั้นเอง ผู้เขียนได้แต่ OMG อยู่ในใจ สมองมึนตื้อ พูดอะไรไม่ออก น้ำตารื้น พยายามกลั้น จากนั้นจำรายละเอียดอะไรไม่ได้มากเพราะนานเหลือเกิน จากเหตการณ์ครั้งนั้น ผู้เขียนมิอาจมองภาพตนเองออกได้เลยว่า หากเลือกที่จะตอบโต้ด้วยการประชดประชัน ปฏิบัติตัวแย่ลงเพื่อเป็นการตอกย้ำคำพูดที่ถูกกล่าวมา ชีวิตของผู้เขียนจะออกมาในรูปแบบใด จะพิสดารแค่ไหนก็สุดรู้ แต่ด้วยเหตุเพราะอาจจะโชคดี ความคิดที่      ถูกต้องแล่นเข้ามา ทำให้ผู้เขียนเลือกที่จะสู้กับคำพูดนั้น เพียงเพื่อที่จะเอาชนะโดยการพิสูจน์ตนเองว่าสามารถดีขึ้นได้ จากนั้นจึงกลับมาตั้งใจเรียนจนจบ และมีงานทำจนถึงปัจจุบันใช้สติก่อนตัดสินใจทำอะไรลงไป Cr. Johnhain from https://pixabay.com/illustrations/dualism-contrast-judgment-conflict-1197153/

Cr. Johnhain from https://pixabay.com/illustrations/dualism-contrast-judgment-conflict-1197153/

Advertisement

Advertisement

จากประสบการณ์ครั้งนี้ หากผู้อ่านยังอยู่ในวัยเรียน เป็นนักเรียน นักศึกษา หรือบุคคลทั่วไป ทุกคนคิดเห็นอย่างไรหากเกิดเหตุการณ์เช่นเดียว        กันนี้ แน่นอนว่าคนเรานั้นไม่ได้เก่งมาตั้งแต่เกิด ทุกคนเกิดมาเพื่อเรียนรู้ เรียนรู้จากความผิดพลาด บางครั้งเราอาจจะละเลยหน้าที่ของตนเองเพราะอยากจะทำอะไรตามใจวัยรุ่นอยู่บ้าง ก็มิได้เห็นว่าเป็นเรื่องใหญ่โตหรือหนักหนาอะไร แต่เมื่อใดก็ตามที่เรารู้ตัว ไม่ว่ารู้ด้วยตนเอง หรือ        มีใครตำหนิด้วยคำพูดแรงๆต่อเรา ผู้เขียนอยากให้ผู้อ่านลองฉุกคิด ให้เลือกวิธีการปรับมุมมองในเชิงบวก ปรับความคิดด้วยการใช้สติ ไม่ใช้อารมณ์ มองเหตุผลในเชิงลึกว่าคำตำหนิหรือคำดูถูกนั้นสะท้อนภาพตนเองในทิศทางใด หากเป็นจริงควรอุดช่องโหว่ที่ขาดหายด้วยการปรับปรุงตัวใหม่ แต่หากไม่จริงเราวางเฉยได้ ไม่เลือกวิธีตอบโต้คำเหล่านั้นด้วยการหลงผิดและประพฤติผิด เช่น เหลวไหลมากจนทำให้เรียนไม่จบและดับอนาคตของตนเองไป ลองคิดดูว่าได้คุ้มเสียหรือไม่ ผู้เขียนไม่อยากให้ใครต้องเสียใจในภายหลังกับการตัดสินใจที่ผิดพลาด ดังนั้น....

“ค.ควายอาจฟังดูร้ายแต่สร้างคนได้ อยู่ที่ปรับมุมมอง ”

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์