ไลฟ์แฮ็ก

คิดได้ ทำได้ แล้วชีวิตจะดีขึ้น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
คิดได้  ทำได้  แล้วชีวิตจะดีขึ้น

เคยมั้ยที่คุณรู้สึกว่าชีวิตเรากำลังทำอะไรอยู่และเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร เราต้องพบเจอและผ่านอะไรมาบ้าง ถึงประสบกับความสำเร็จ  ความสำเร็จแต่ละคนไม่เท่ากัน  บางคนแค่เรียนจบมีงานทำก็ได้แล้ว  แต่สำหรับบางคนชีวิตต้องสมบูรณ์แบบ  ต้องร่ำรวยมีเงินเป็นร้อยล้าน จึงจะถือว่าประสบความสำเร็จ  ความสำเร็จของแต่ละคนวัดได้ไม่เท่าและไม่เหมือนกัน กว่าจะเป็นเราในวันนี้ต้องผ่านเหตุการณ์ต่างๆ  ต้องล้มลุกคุกคลาน  มีอุปสรรค์ขวากหนามแต่ละอย่างที่ก้าวเดิน บนทางชีวิตสายนี้  เส้นทางนี้ ใครเป็นคนกำหนด ย่อมต้องเป็นตัวเรานี่แหละค่ะ

วันนี้ดิฉันจึงอยากจะนำเอาประสบการณ์ ที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการทำงานและการใช้ชีวิตมาแชร์แก่เพื่อนผู้อ่านทุกคน  เผื่อชีวิตใครที่กำลังขมๆจะได้หวานขึ้นมาบ้างค่ะ

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%ab%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%99-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%98%e0%b8%b5%e0%b9%83%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%88-3842467/

1.ชีวิตนี้เป็นของเรา เราเป็นคนเลือก และเราเป็นคนใช้ บางครั้งในสถานการณ์ที่เราต้องเลือก ไม่ว่าจะการเรียน การทำงาน คู่ชีวิต  หรือแม้แต่เรื่องง่ายๆอย่างการเลือกร้องเท้าเสื้อผ้า เราก็ต้องเป็นคนตัดสินใจและเลือกเอง บางคนอาจบอกว่าโดนพ่อเเม่บังคับ อย่างโน้นอย่างนี้ แต่ก็เป็นตัวเราที่ยอมเดินตามทางที่เขาเลือกให้เองไม่ใช่หรือค่ะ ลองคิดดูค่ะ เมื่อเลือกเเล้วย่อมต้องยอมรับเหตุและผลที่จะตามมา จะสุขหรือทุกข์คุณเป็นคนเผชิญค่ะ  ไม่ใช่คนอื่น  เพราะมันคือชีวิตคุณค่ะ สำหรับดิฉันก็เคยผ่านการตัดสินใจอะไรมาหลายๆอย่างในชีวิต เช่น การเลือกเรียนในสิ่งที่เราชอบ สำหรับพ่อแม่ดิฉันมองว่าควรเลือกเรียนในคณะที่จบมาแล้วมีงานรองรับแล้วดีกว่าการเรียนในคณะที่ชอบ แต่สำหรับดิฉันที่สำคัญว่าความมั่นคงในอาชีพ อาจคือการได้ทำในสิ่งที่ดิฉันรัก ณ ขณะนี้ดิฉันได้ทำงานในอาชีพตามที่พ่อแม่ต้องการ แต่ในความเป็นจริง อาชีพนี้ไม่ได้เป็นงานที่ดิฉันชอบ100% แต่ดิฉันสามารถที่อยู่กับมันได้ แต่ดิฉันก็หาโอกาสและเวลายามว่างมาทำงานในส่วนที่ดิฉันรัก ซึ่งก็มีความสุขได้ไม่ต่างกัน  กลับกันดิฉันเคยคิดย้อนหลังว่าหากว่าวันนั้นทำตามใจตนเองและเลือกเรียนในคณะที่ชอบ ยื่นยันในความคิดและเหตุผลว่าต่อไปเมื่อจบเเล้วดิฉันจะสามารถหางานทำและรับผิดชอบทุกอย่างที่จะมีผลเกิดขึ้นหลังจากที่ได้ตัดสินใจแล้วมันอาจจะดีกว่าในวันนั้นที่เราไม่กล้าตัดสินใจและเลือกทำในสิ่งที่เราชอบจริงๆ หลังจากเกิดเรื่องนี้ขึ้นชีวิตที่ผ่านมาของดิฉันนอกจากเรื่องเรียนแล้วก็ผ่านการตัดสินใจทุกอย่างโดยดิฉันเอง เพราะดิฉันโตขึ้นและมีเหตุผลมากพอในการที่จะคุณกับพ่อแม่ว่า เรามีเหตุผลอะไรถึงเลือกทำแบบนี้และเราจะยอมรับกับผลทุกอย่างที่ตามมา เพราะไม่อยากมีความรู้สึกว่าต้องเสียใจที่หลังอีกค่ะ

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%a2-%e0%b9%83%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%98%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b8%b0-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%a7%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%b2%e0%b9%83%e0%b8%9a-2003650/

2.หัดยิ้ม  หัวเราะ  ร้องไห้  เสียใจ  ท้อแท้  สิ้นหวัง ผิดหวัง โลกนี้มันไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่เราเข้าใจหรอกค่ะ ชีวิตมันไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ เคยได้ยินมั้ยค่ะ “ของฟรีไม่มีในโลก” กว่าเราจะทำอะไรบางอย่างสำเร็จเราต้องเอาทั้งเรี้ยวแรง  กำลังกาย กำลังใจ กำลังสมอง  สองมือออกไปใช้  ออกไปต่อสู้ค่ะ ถึงจะได้มา  การนอนรอให้สวรรค์ประทาน นอนไปอีก 10 ปีขอบอกเลยว่าไม่มีทางเป็นไปได้  ทำเเล้วล้มเหลวก็ยังดีกว่าไม่เคยลองที่จะลงมือทำ ใครบ้างจะรู้บางที่ทำแล้วล้มเหลวมา100ครั้ง ครั้งที่101 อาจสำเร็จก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่ากลัวที่จะล้มเหลว สำหรับดิฉันในชีวิตผ่านเหตุการณ์ที่ต้องเหน็ดเหนื่อย กับความพยายามในหลายๆเรื่อง อาทิเช่น การลองไปทำงาน part time ในสถานทีอื่นคู่กับการทำงานประจำ ก่อนจะสมัครเข้าไปทำงานได้ ครั้งเเรกเขาอาจะไม่เลือกเรา แต่ครั้งต่อๆมาดิฉันก็ได้รับเลือกและเข้าไปทำงาน ซึ่งในการทำงานในสถานที่ใหม่เริ่มแรกก็มีเป็นธรรมดา ความรู้สึกแปลกแยกกับคนอื่น การต้องเรียนรู้อุปกรณ์เครื่องมือใหม่ การต้องศึกษากฏระเบียบและแนวทางการทำงานในที่ใหม่ ย่อมเกิดความรู้สึกท้อแท้ รู้สึกอยากจะร้องให้ในบางครั้งในตอนที่เราคิดว่าเราพยายามพัฒนาตนเองมามากแล้ว แต่ทำไมเรายังทำไม่สำเร็จหรือยังทำพลาด  แต่เมื่อเวลาผ่านไปมองย้อนกลับไปก็เคยคิดว่าทำไมตอนนั้นโง่จัง ทำไมตอนนั้นถึงร้องให้ได้ขนาดนั้น แต่ก็ไม่ผิดหวังที่ความพยายามที่มีมาประสบความสำเร็จในวันนี้ เพราะความพยายามในวันนั้นแท้ๆ ถ้าตอนนั้นเราคิดได้ว่ามันคือเหตุที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้ว แล้วหัดที่จะเผชิญหน้ากับมัน ยิ้มให้ได้  หัวเราะให้ได้ คงมีความสุขได้ไม่น้อย

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%a9-%e0%b8%95%e0%b9%88%e0%b8%b3-photoshop-%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b8%95%e0%b8%b2-2904876/

3.ไม่มีใครไม่เคยโดนนินทา “เธอคนนั้นนินทาว่าเธอเป็นอย่างนั้น  อย่างนี้  อย่างโน้น..”  เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็ต้องเผชิญ  ตั้งแต่เกิดจนตาย เรื่องเหล่านี้ถ้าคิดดีๆจะรู้ว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาของเรามันเป็นปัญหาของคนอื่นค่ะ การที่คุณแคร์และสนใจเก็บเอาคำพูดของคนทั้งโลกมาขบคิดและโทษตัวคุณเอง  บอกเลยว่าคุณคิดผิดค่ะ แค่ทำชีวิตในแต่ละวันของเราให้ดี และเป็นไปอย่าปกติสุข ใจเราสุข ใครจะพูดจะว่าจะด่าอะไร เราแค่ตอบกลับไปว่า “ออ..เหรอ..อือ..” แค่นี้ใครจะพูดอะไรต่อได้  และถ้าใครที่ชอบฟังคำนินทาว่าร้ายคนอื่นเเล้ว เก็บเอาไปคิดอคติกับตัวคนที่คนอื่นกล่าวถึง คุณก็คิดผิดเหมือนกันค่ะ เพราะการจะตัดสินใครว่าเป็นคนยังไงเราต้องเอาตัวเรานี่แหล่ะ เป็นคนไปศึกษาและเรียนรู้เกี่ยวกับเขาอย่าตัดสินใจคนอื่นแค่เรื่องที่คุณได้ยินมาค่ะ สำหรับดิฉันที่ทำงานในสังคมที่มีเพื่อนร่วมงานเป็นผู้หญิงเป็นส่วนใหญ่ ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการนินทาเป็นธรรมดา ซึ่งได้ยินไม่ว่าจากเพื่อนที่มาบอกหรือที่ได้ยินกับหูตัวเอง ในตอนแรกดิฉันก็คิดมากว่าทำไมเขาถึงเอาเรื่องเราไปพูดไม่ดีแบบนั้นด้วย แต่ต่อมาก็เห็นเขาพูดเรื่องคนอื่นอีกหลายคนจึงมองผ่านและคิดว่าสงสัยมันเป็นนิสัยเขาแล้วที่พอได้พูดเรื่องคนอื่นเขาก็มีความสุข ในเมื่อเขามีความสุขก็อย่าไปขัดเขาเลย ส่วนในเรื่องที่คนอื่นจะคิดว่าเราเป็นอย่างที่เขาพูดหรือไม่  มันก็เป็นเรื่องของคนๆนั้นค่ะ ไม่ได้มีผลกับการทำงานและการใช้ชีวิต ดิฉันยังคงทำงานทุกวันและไม่ได้มีปัญหาในส่วนนี้เพราะคิดว่ามันไม่ได้เป็นปัญหาของดิฉันค่ะ

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%a5%e0%b8%a5%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%8d-%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%82%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%8d%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%87%e0%b8%b4%e0%b8%99-%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-3313761/

4.อย่ามองงานเป็นเงินเสียทุกอย่าง บางครั้งเราก็ควรมีเวลาอยู่กับตัวเอง  ครอบครัว  มีเวลาที่จะได้ใช้ชีวิต  เพราะบางครั้งชีวิตมันสั้นเหลือเกิน  คนที่เรารักพร้อมที่จะจากเราไปได้ทุกเมื่อ  เพราะฉะนั้น “จงใช้ชีวิตเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย  ทำทุกวัน  ทุกวินาทีที่มีอยู่ ให้ตายไม่เสียใจ  อยู่ต่อก็ไม่ผิดหวัง” เพราะเราย้อนเวลากลับไปไม่ได้ค่ะ อะไรที่เสียไปแล้ว ก็เหมือนแจกันเมื่อแตกไปเเล้วก็ไม่สามารถประกอบเป็นแจกันที่สวยงามอย่างเดิมได้ เพราะฉะนั้น “จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด  อย่าหวังถึงวันพรุ่งนี้  เพราะบางทีมันอาจจะสายเกินไป” ในชีวิตของดิฉันก็มีในบางช่วงจังหวะที่ดิฉันคิดว่า รออีกซักเดียว รอเก็บเงิน รอทำงานก่อนค่อยกลับไปหาพ่อแม่ หรือค่อยไปเที่ยว  ในบางทีจังหวะชีวิตก็ไม่ได้เอื้ออำนวยให้เป็นไปดั่งใจเราได้ทุกอย่าง  เพราะบางที่ในวันที่เรามีเงิน ก็อาจไม่เหลือพ่อเเม่ให้ดูแลเเล้วในวันนั้น หรือไม่ลูกเราอาจจะโตจนรับรู้แค่ว่าคนที่ดูแลเขาคือคนอื่นไม่ใช่ตัวเราที่หาเงิน เพราะเราไม่ได้อยู่เป็นเพื่อนดูแลหรือใกล้ชิดเขาในช่วงเวลาสำคัญของชีวิต เพราะติดตรงที่ต้องทำงานหาเงิน เพราะฉะนั้นเราก็ควรมีความสมดุลในชีวิตการทำงาน วันที่ควรหยุดก็ควรหยุด วันไหนที่ทำงานก็ทำงาน อย่ารอแล้วทำในวันที่สายไปแล้ว เพราะชีวิตนี้เวลาไม่สามารถย้อนกลับมาได้ค่ะ

https://pixabay.com/th/photos/search/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%B2/?pagi=2

5.เกิด  แก่  เจ็บ ตาย พลัดพราก จากลา ไม่อยากเจอก็ต้องเจอ สิ่งเหล่านี้อยากจะบอกว่า เราสามารถที่จะปลอบใจคนที่สูญเสียได้ง่ายๆเพราะมันไม่ใช่ตัวเรา  แล้วถ้าเป็นตัวเรา คงต้องบอกว่า  เวลาเท่านั้นค่ะ ถึงจะช่วยคุณได้  ไม่มีใครเดินออกมาจากความทุกข์เหล่านั้นได้  หากคุณไม่เดินออกมา   ชีวิตเรามันก็แค่นี้ค่ะ จะสุข จะทุกข์ ใครเป็นคนกำหนด ก็ต้องบอกว่าตัวคุณเองนั่นแหละค่ะเป็นตัวกำหนด ความทุกข์ไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลาอย่าปล่อยให้มันกัดกินหัวใจคุณค่ะ สำหรับดิฉันเคยพบเจอกับความสูญเสียครั้งใหญ่ที่เพื่อนที่รักเเละเรียนหนังสือร่วมกันมาได้เสียชีวิตลงในขณะที่อายุได้เพียงแค่15 ปี เพราะอุบัติเหตุ  ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น ความรู้สึกที่เขาเพิ่งคุยเล่นกับเรา เพิ่งหัวเราะ เพิ่งยิ้มให้เรา ยังติดแน่นในจิตใจ ในบางครั้งเราก็ร้องให้ได้เสียใจได้ค่ะแต่ไม่ควรที่จะหมกหมุ่นจนทำให้เป็นความทุกข์ทั้งชีวิต  เวลาจะช่วยบรรเทาให้ความรู้สึกสูญเสียที่เคยมีเจือจางลง  เขาจากไปแล้วแต่ชีวิตเรายังคงต้องเดินหน้ากันต่อ การจมอยู่กับอดีตไม่ได้ทำให้ชีวิตดีขึ้น การที่เราเลือกที่จะก้าวเดินออกมาจากความรู้สึกเสียใจ ไม่ได้แปลว่าเราได้ลืมเขาไปเเล้ว แต่เขายังคงสถิตอยู่ในหัวใจเราในทุกๆเมื่อ ยังคงเก็บทุกรอยยิ้ม ทุกความรู้สึกที่มีร่วมกัน  เพราะฉะนั้นทำใจกับความสูญเสียที่สักวันคุณก็ต้องเจอค่ะ
https://pixabay.com/th/photos/%e0%b9%82%e0%b8%ad%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%ad%e0%b8%94-%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%87-%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2-%e0%b8%ab%e0%b8%94%e0%b8%ab%e0%b8%b9%e0%b9%88-%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-2381652/

สิ่งที่อยากจะบอกคือ หากคุณไม่มีใคร  ไม่เหลือใครและคิดว่าชีวิตนี้ของคุณช่างสิ้นหวัง ทุกข์ทนเหลือเกิน ลองหันกลับไปมองคนรอบข้าง คนอื่นว่าชีวิตเขาเป็นอย่างไร ราบรื่นหรือเปล่า  ไม่มีใครที่จะสุขได้ทุกวันและไม่มีใครที่จะทุกข์ได้ทุกวัน  ลองหันกลับมารักตัวคุณเอง  บอกกับตัวคุณเองในทุกวัน ว่า“คุณเป็นคนที่โชคดีแค่ไหนแล้วที่ได้เกิดมา” เพราะชีวิตเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้แต่เราเลือกจะทำและเลือกที่จะเป็นได้ค่ะ ด้วยสมอง สองมือ  และร่างกายนี้  ไม่มีใครทำอะไรเป็นมาตั้งแต่เกิด ต่างต้องผ่านการหล่อหลอมจนเติบโตและกลายเป็นต้นกล้าที่เเข็งแรงและงดงาม ไม่สายที่จะเปลี่ยน ไม่สายที่จะแก้  และไม่สายที่จะเริ่มเป็นคุณคนใหม่ในเวอร์ชันที่ดีที่สุดค่ะ เพราะชีวิตไม่สามารถย้อนกับไปแก้ในสิ่งต่างๆที่ผ่านมาแล้ว เพราะฉะนั้นอย่าทำอะไรด้วยความรู้สึกที่ว่าสักวันเราจะต้องเสียใจที่หลัง ทำทุกๆวันที่เรายังมีโอกาสในการใช้ชีวิตให้มีคุณค่าและมีความสุขที่สุดที่ตัวเราสามารถทำมันได้กันค่ะ หากไม่เชื่อก็ลองทำดู แล้วคุณจะรู้ว่าความสุขอยู่รอบตัวแค่คุณยื่นมือออกไปไขว่คว้ามันมาค่ะ

เครดิตภาพ

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

trueCover

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์