อื่นๆ

ค่าแรง...วิทยากร

2.5k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ค่าแรง...วิทยากร

TrueID In-Trendฉบับที่ 10 ค่าแรง...วิทยากร

คราวนี้ก็มาถึงเรื่องการมีบริษัทรับจัดฝึกอบรมเป็นของตัวเองบ้าง  เคยแต่รับงานจากผู้อื่นจัดสรรมาให้  เขาจะให้เท่าไหร่ เราก็ไม่รู้  เคยไปบรรยาย บริษัทที่เป็นผู้จัดฝึกอบรมแห่งหนึ่ง ทำโบรชัวร์ออกเป็นภาษาอังกฤษ จัดที่โรงแรมหรู  อาหารเลิศรส เป็นเวลา 2 วัน คิดผู้เข้าสัมมนาคนละ 15,000.- มีเออรี่เบิร์ด ด้วยนะครับ ลด 5% เขาก็มาติดต่อลุง ซึ่งลุงเห็นว่าเป็นการบรรยายเพียง 1 ชั่วโมงแค่นั้นเอง และเป็นบริษัทต่างชาติ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก ตกปากรับคำเขาไป   พอถึงวันบรรยายจริง ๆ ลุงก็ไปเริ่มเปิดฉากการสัมมนา ซึ่งเขาก็ให้เป็นผู้ดูแลในรอบเช้าของวันนั้นด้วย ตกลงพอเราบรรยายเสร็จ และต้องทานอาหารเบรก ก็ได้ดูแลวิทยากรท่านที่สอง ซึ่งก็เป็นคนไทยเหมือนกัน พอคนที่สองพูดเสร็จ ลุงก็ขอตัวกลับ เสร็จหน้าที่แล้วนี่  เขาก็ขอบอกขอบใจเป็นประการใหญ่ พร้อมยื่นซองให้  เราก็รับใส่กระเป๋า  กลับถึงบ้าน เปิดซองออกดู ปรากฏว่า เขา (บริษัทฝรั่ง) ให้มา 1,000.-บาทถ้วน ก็โทรถามไปที่สำนักงานของเขาว่า  ใส่ซองให้อาจารย์ผิดหรือเปล่า เห็นมีแบงก์ 500.- แค่สองใบ  เสียงตามสายก็ตอบกลับมาว่า “ถูกแล้วละคะ...ทางบริษัทฯ ก็จ่ายอย่างนี้ให้กับวิทยากรทุกคนแหละค่ะ...”

Advertisement

Advertisement

_MG_0514 (3).JPG () ทำเอาเรามึนเซ่อไปเลย เสียเวลาไปครึ่งวัน ได้ค่าตัวแค่พันบาท แต่จ่ายค่าตัววิทยากร ทั้งเป็นผู้บรรยายด้วย ดูแล Session ด้วย ลองคิดเล่น ๆ จัด 2 วัน เป็น 8 Session จ่ายวิทยากร ทั้งหมด 8,000.-บาท  รวมกับค่าอาหารเที่ยงและของว่าง ค่าเอกสาร รวมแล้วไม่เกิน 10,000.- ต่อวัน มีคนเข้า 20 คน รวมรายได้ 300,000.- บาท  แต่ค่าต้นทุนในการจัดไม่เกิน 30,000.- บาท  ได้กำไร 270.000.- ต่อการจัดหนึ่งครั้ง  เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนฟัง  เขาบอกว่า “พวกบริษัทฝรั่งที่มาจัดสัมมนาในเมืองไทย ก็อย่างนี้ละ เห็นว่า ทำได้ เลยทำกันใหญ่ รวยกันเละเลย...นี่เขาก็ติดต่อมาเหมือนกัน  แต่เคยโดนหลอกใช้มาแล้ว ก็ไม่ไป  นี่โดนครั้งแรกใช่ไหมละ...5555” วันหลัง บริษัทฝรั่งเหล่านี้ ก็เชิญมาอีกหลายรอบ (แต่แปลกแฮะ...ชื่อเปลี่ยนไป  คอร์สในการเทรนนิ่งก็เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่โบรชัวร์ที่ส่งมาเหมือนกันเป๊ะ เปลี่ยนแต่ชื่อวิทยากร หน้าใหม่ ๆ ไม่เคยรู้จักมาก่อน)IMG_7676_0.JPG ก็เลยปฏิเสธเขาไป พลางต่อว่าไปเจ็บ ๆ ด้วยว่า “ขอความกรุณาไปเชิญท่านผู้อื่นเถิดขอรับ  กระผมไม่มีความรู้พอที่จะบรรยายให้ท่านในราคา 1,000.-บาท  แต่ท่านไปเก็บผู้เข้าสัมมนาคนละตั้ง 15.000.- มันค้ากำไรเกินควรนะครับ  นี่ผมคิดว่าจะแจ้ง สคบ. หรือแจ้งสรรพากรให้ไปตรวจสอบภาษีว่าคุณจ่ายให้รัฐบาลไทยครบหรือเปล่า” โดนเข้าแบบนี้  ก็เลยหายหน้าหายตาไปเลย  นี่ตอนนี้ ก็ชักโผล่เข้ามารายสองรายแล้ว  เรื่องค่าตัวของผู้เข้าสัมมนานี่นะครับ  ถ้าเป็นบริษัท คนไทยที่มือโปรฯ เขาจะถามนิ่ม ๆ ว่า ”จะให้หนูจ่ายค่าตอบแทนของอาจารย์เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมคะ” วิทยากรก็ตอบหนูนิ่ม ๆ ว่า “ก็แล้วแต่หนูละครับ  อาจารย์ก็ไม่ได้เรียกแพงนะครับ แต่ส่วนมากที่ไปบรรยายกันเต็มวัน นั้นเขาให้อาจารย์ 30,000.-บาท เน็ท ไม่หักภาษี ณ ที่จ่ายนะครับ” เสียงปลายสาย เงียบไปอึดใจ  ก็มีเสียงตอบมาอ่อย ๆ ว่า “แฮะ ๆ ของหนูมีงบประมาณไม่ถึงนั้นคะ และที่หนูเคยจ่ายมาก็ไม่เกิน 15,000,- เพราะคิดค่าใช้ผู้เข้าสัมมนาไม่แพงค่า อาจารย์ช่วยกรุณาหนูหน่อยได้ไหมคะ”

Advertisement

Advertisement

146.JPG ส่วนมากก็ต่อรองกันได้ เพราะถ้าเป็นบริษัทจัดสัมมนาชั้นดี เขาต้องเลือกโรงแรมอย่างดี มีอาหารถูกปากผู้เข้าสัมมนา ซึ่งสนใจเรื่องอาหารที่โรงแรมจัดให้ บางที มากกว่าเนื้อหาสาระที่จะบรรยายเสียอีก  ต้องจ่ายมัดจำค่าโรงแรม  ต้องแจกโบรชัวร์ไปก่อน และต้องคอยลุ้นว่า เมื่อถึงวันสัมมนา จะมีคนเข้ากี่คน บางบริษัทจองมา 10 คน ก็ดีใจ จะขอเงินมัดจำก็ไม่จ่าย อ้างว่าเป็นบริษัทใหญ่ ไม่เคยได้ยินชื่อหรือไง พอจะหาผู้เข้าสัมมนารายอื่นอีกสัก 10 คน ก็คิดว่าจัดได้แน่  ก็คอนเฟิร์มอาจารย์ที่จะบรรยายเขาไป  พอใกล้ถึงวันจริง ๆ มีเสียงตามสายมาบอกเลิกการเข้าสัมมนา (ก็จากบริษัทใหญ่นั่นแหละ) ทั้ง 10 คน อ้างว่าผู้ใหญ่สั่งมาบ้างละ  มีประชุมเซลล์ด่วนบ้างละ พร้อมพูดให้กำลังใจว่า “คราวหน้า ส่งอีกแน่ ๆ ไม่พลาด คราวนี้ต้องขออภัย” แล้วก็วางสายกริ๊ก ปล่อยให้บริษัทผู้จัดอบรมนั่งกุมขมับต่อไปว่า "แล้วจะไปหาลูกค้าที่ไหนทันนะนี่"

Advertisement

Advertisement

045.JPG นี่ก็คอนเฟิร์มวิทยากรไปแล้ว  มัดจำโรงแรมไปแล้ว  ผู้เข้าสัมมนาบางคนก็จ่ายเช็คล่วงหน้ามาแล้ว มันกัดฟันต้องจัดไป และรีบโทรหาบริษัทเจ้าประจำที่เคยซี้กันอยู่ ขอให้ช่วยส่งลูกน้องเข้าอบรมด้วย และจะลดราคาให้เป็นพิเศษ อย่างนี้เป็นต้น  แต่ถ้าเป็นบริษัทใหญ่ ติดต่อมาเอง ลุงจะขอเต็มที่ อย่างบริษัท ใหญ่ที่โตคับฟ้า อยู่แถวบางซื่อ ติดต่อมาให้ลุงไปบรรยาย ลุงก็เรียกไปเต็มเหนี่ยว เพราะถือว่า เขาขายของที่เกือบจะผูกขาดในตลาด มีกิจการมั่นคง และการที่เราไปอบรมเด็กของเขา เราก็ไปให้ความรู้จริงๆ  และเขาได้ใช้ความรู้นั้น ไปต่อยอดให้ยอดขายเขาเพิ่มขึ้น เขาก็ต่อรองอย่างไรอาจารย์ก็ไม่ยอมลด ถือว่า ไม่ได้ก็ไม่เอาจน มีเสียงขู่ทางโทรศัพท์ว่า “ที่นี่.(เอ่ยชื่อบริษัท) นะคะ” แล้วไงครับ  ในที่สุด เขาก็เชิญเราจนได้ (ในราคาที่ไม่ลด) ได้ไปบรรยายคู่กับ อาจารย์สุรศักดิ์  ศิวะนาวินทร์ (ดังภาพข้างล่าง) อยู่หลายปี

อาจารย์สุรศักดิ์ ศิวะนาวินทร์ - ลุงแอ็ด มีอีกเรื่องหนึ่ง คือ เทอมการชำระเงิน มีบริษัทหนึ่ง ขายเครื่องดื่มรายใหญ่ ชื่อเสียงโด่งดัง มีชื่อเป็นฝรั่ง ก็โทรมา รายนี้ไม่ต่อราคา แต่ต่อรองเรื่องการจ่ายเงิน ลุงบอกว่า ตามธรรมเนียม เมื่อบรรยายเสร็จ คุณจะต้องจ่ายเงินสดทันที ที่ไหนเขาก็ทำกันอย่างนี้  และเมื่อก่อนบริษัท คุณก็จ่ายผมเป็นเงินสด (ลุงเคยบรรยายให้บริษัทนี้มาหลายรุ่นแล้ว) แต่พอดี ปีนั้น  เศรษฐกิจตกต่ำ แผนกบุคคลเลยโดนคำสั่งให้รัดเข็มขัด ผู้ติดต่อมาก็โอดครวญว่า “ฝรั่งเขาให้ขอเทอมทุกราย 30 วัน” ลุงก็บอกว่า ไม่ได้ แต่ถ้าจะให้กรุณา ผมให้คุณตีเช็ค 7 วัน เพราะยังถือได้ว่าเป็นเทอม COD เขาก็หายไปหลายวัน กลับมาบอกว่า “ฝรั่งเขาถือเป็นหลักการของบริษัท  การชำระเงินของบริษัททุกชนิดต้องอย่างน้อย 30 วัน” ลุงก็บอกว่า “บริษัทของคุณมีหลักการ ผมก็มีหลักการของผม ในกรณีของคุณผมก็อะลุ่มอล่วยให้แล้ว ผมขอยืนยัน...จะเอาหรือไม่เอาก็แล้วแต่คุณ แต่ผมก็ขอยืนตามหลักการของผม คือ 7 วัน”

SCC - คุณอมร กำลังหลับหูหลับตาเซ็นเอกสารบนโต๊ะ.jpgแล้วเขาก็หายเงียบไป.....คือ เราก็รู้ว่า เศรษฐกิจมันแย่  ยอดขายตก  แต่บริษัทของคุณเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ขายทั่วประเทศ แล้วจะเอาฝรั่งมาต่อรองเรื่องเงิน  ก็ไม่ใช่ว่าคนไทยไม่ดีหรอกครับ  แต่ลุงว่า ไอ้เจ้าฝรั่งมันออกนโยบายไม่รู้ตาม้าตาเรือ  ถ้าคุณอยากไปดูหนังชื่อดัง ที่ลงทุนสร้างกันเป็นพันล้าน ...  คนอื่นเขาต่อคิว กำเงินสด แย่งกันเข้าไปซื้อตั๋วหนัง แต่คุณอ้างว่า ฝรั่งบอกขอเครดิต 30 วัน...คนขายตั๋วไปเต๊ะคุณออกมาจากช่องขายตั๋วก็บุญแล้ว ไม่รู้แฮะ...เรื่องราคาค่าตัวในการบรรยายแต่ละครั้ง  ลุงคิดว่า เราต่อรองกันได้  ไม่ถึงขนาดเอาเป็นเอาตาย เอาร่ำเอารวยกันเพราะเรื่องนี้  มันเหมือนกับการกุศลอย่างหนึ่ง  บางที  ก็ไปช่วยเพื่อนๆ ที่เพิ่งตั้งบริษัทๆ เงินก็ไม่มี  ลุงก็อาสาบรรยายให้ฟรีเสียอย่างนั้น  และพูดเล่นๆ ว่า “เฮ้ย...ถ้ารวยแล้วค่อยคิดสตางค์”

071.JPG มหาวิทยาลัยหนึ่ง  สถานการศึกษาหนึ่ง  เรารู้ว่า เขามีงบประมาณจำกัด มันก็เงินภาษีจากเรานั่นแหละครับ ให้เท่าไหร่เราก็รับ เรื่องวัด นี่ไม่เคยพูด แต่ทราบว่าวิทยากรชั้นหนึ่งของประเทศ อย่าง อาจารย์ทินวัฒน์ มฤคพิทักษ์ ก็ไปบรรยายให้วัดแห่งหนึ่งฟังทุกปี อาจารย์สุรวงศ์ วัฒนวงศ์ ท่านก็เล่าว่า ไปบรรยายให้วัดฟังฟรีมา 30 ปีแล้ว....นี่เห็นไหมครับ  พวกเราไม่หน้าเลือดหรอกครับ ขอให้มีเหตุผล และอำนวยความสะดวกแก่วิทยากรโดยสมควร ไม่ต้องผาสุขอะไร การไปบรรยายให้พระฟัง ก็ถือเป็นการทำบุญอย่างยิ่งแล้ว  ลุงยังขอนับถือ ท่านวิทยากรเช่นนี้จริงๆ ครับ  นอกจากเรื่องเงินแล้ว....

รูปบรรายา DSCF3340.jpg ความจริง การอำนวยความสะดวกอย่างอื่น ก็เป็นที่น่าชื่นใจของวิทยากรนะครับ  เช่น สถานที่จอดรถ  ไม่ใช่ให้ขับวนหากันจนเวียนหัวตาลาย กว่าจะหาที่จอดได้ก็หมดอารมณ์บรรยายกันพอดี  มิหนำร้าย  พอได้ที่จอดปั๊บ  ตาลีตาเหลือกจะลงจากรถ รีบไปบรรยายเพราะสายแล้ว  เจ้ายาม ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดก็มาเป่านกหวีด ปรี๊ด....ปรี๊ด.......ตรงนี้จอดไม่ได้ครับ...คุณจะต้องไปหาที่จอดที่อื่น มีวิทยากรท่านหนึ่ง ปกติท่านเป็นคนอารมณ์ดี แต่วันนั้น ท่านเกิดเบรกแตกขึ้นมา (เพราะวนเวียนหาที่จอดมาหลายที่) กลับเข้าไปในรถใหม่  สตาร์ทเครื่อง แล้วขับกลับบ้านไปเลย วันนั้น ไม่ต้องบรรยายกันแล้ว แล้วจึงโทรไปเล่าเรื่องที่บริษัทที่เชิญให้ไปบรรยายฟังว่ามันเกิดเรื่องอะไรขึ้น

ลุงแอ็ด ถาวรมาศ (นายอมร  ถาวรมาศ)

152/9 ถนนนนทบุรี 1 อ.เมือง จ. นนทบุรี 11000

E- Mail : [email protected]

Line ID : AMORNTAR   Tel : 081 619 8071

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์