อื่นๆ

จิตตนคร

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
จิตตนคร

การปฏิบัติธรรมตามที่พระศาสดาได้สอนไว้แล้วนั้น อย่านำไปเทียบกับผู้อื่นว่า เขาได้รู้ได้เห็น ได้นุ่นได้นี่จากการปฏิบัติ แล้วเราหละ ไม่เห็นเคยพบเจอเช่นเขาเหล่านั้นเลย หากคิดบ่อยๆเช่นนี้จนเป็นนิสัย อันพาไปคิด จะเป็นสิ่งกั้นขวางการปฏฺิบัติ หากท่านปฏิบัติด้วยเบื่อในสังสารวัฏ เบื่อแล้วที่จะต้องเกิด แก่ เจ็บ ตาย การปฏิบัติจึงเป็นการปฏิบัติที่เป็นไปเพื่อ "ให้ว่าง" มิใช่ปฏิบัติเพื่อ "ให้มี" ก็ขอให้ถอยหลังสักก้าว หยุดมองว่า ท่านปฏิบัติเพื่อสิ่งใด ?

ผู้หญิง แสง สีเหลือง การหยุดคิดพิจารณาในบางครั้ง จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับนักปฏิบัติ โดยเฉพาะผู้ที่พูดในสมมติแบบโลก ๆ ว่า เข้าออกมาแล้วในทุกสำนัก ไปเห็นมาหมดแล้วนรกสวรรค์ ลองทบทวนดูว่าสิ่งเหล่านี้ควรแก่การยึดติดหรือไม่ ท่านอาจจะตอบในทันทีว่าไม่ได้ยึดติดหรอกมันได้มาเอง ก็สุดแท้แต่จิตท่านจะระลึกได้ การจะเดินไปทางเส้นทางแห่งพุทธะ อันเป็นเส้นทางแห่งผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน เปรียบได้กับดอกบัวในตมที่พ้นน้ำขึ้นมาชื่นชมแสงอาทิตย์และหยดน้ำค้างในยามเช้า

Advertisement

Advertisement

สะพาน ดอกไม้ เมฆ แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันคือ การจะโผล่พ้นน้ำขึ้นไปได้ต้องสละ ต้องทิ้ง ทุกอย่างให้มากที่สุดเพื่อให้เกิดความเบา เกิดความว่าง เพื่อที่จะทะยานขึ้นรับแสงแห่งรุ่งอรุณ หากจะเปรียบดั่งจิตของเราเป็นดั่งดอกบัวที่เป็นพืชน้ำที่มีความสวยงามแบบ เรียบง่าย แต่มีกลีบหนาที่ห่อหุ้มก่อนที่บัวจะบานออกมารับแสงอรุณได้นั้น ก็ขอให้รู้ว่ากลีบที่ห่อหุ้มกลีบด้านในที่สวยงามนั้นเป็นดั่งประตูใจที่เฝ้า ระวัง ไม่ให้ปลาหนอน มาชอนไชเข้าไปกัดกินไปทำลายบัวชั้นในได้ กำเนิดในโคลนตมใต้น้ำต้องอาศัยพละกำลังเป็นอย่างมาก ต้องเพียรเพื่อให้พ้นกระแสน้ำอันเชี่ยวกราก การเพียรเพื่อต้านกระแส เป็นเช่นถาดที่พระศาสดาทรงอธิฐานจิต ลอยทวนกระแสน้ำนั่นเอง

พระพุทธรูป พระพุทธเจ้า รู้ให้ทันจิตตนครแห่งตน จิตตนคร เป็นมหานครดั่งละครโรงใหญ่ มีทุกรสชาติทุกสีสันอันปรุงแต่งด้วยตัวท่านเองผ่านสัญญาความจำได้หมายรู้และ สมมุติบัญญัติแบบโลก ๆ อย่าให้จิตตนหลอกตนได้ว่าสิ่งนี้ผิด สิ่งนี้ถูกอันก่อให้เกิดความพอใจ ความไม่พอใจ อันเป็นโมหะ เป็นความหลงใด ๆในโลกนี้ในทางธรรมะนั้นไม่มีสิ่งใดผิด ไม่มีสิ่งใดถูก ทุกสิ่งเป็นเพียงสมมติแบบโลก ๆ เท่านั้น เป็นความจริงมิใช่คำแก้ตัวของผู้ทำตนเช่นบัวในโคลนตม ตัวท่านเท่านั้นปฏฺิบัติไปจะรู้เอง ธรรมะนั้นเป็นปัจจัตตัง หากท่านมาถูกทางแล้ว ขอให้รู้ว่าการปฏิบัติอันเป็นทางสายเอกที่จะว่ายผ่านห้วงน้ำวัฏสงสารได้นั้นต้องทวน กระแสแห่งสมมติที่เราท่านเป็นผู้กำหนดไว้นั่นเอง ละสมมุติได้เมื่อไหร่ ใจเบาเมื่อนั้น ไม่มีถูกไม่มีผิด ไม่มีพอใจไม่พอใจ ทุกอย่างล้วนเป็นสมมติ วางให้ลง ปลงให้ได้ อย่าให้มาหนักเป็นโคลนตมหมักหมมไม่มีโอกาสได้โผล่พ้นน้ำ เรื่อง ก้าวข้ามสังสารวัฏนั้นอย่าหวัง หากท่านยังไม่รู้ว่า สมมุติคืออะไร แล้วจะวางอย่างไร

Advertisement

Advertisement

ดอกบัว ท่านผู้เจริญในธรรมทั้งหลาย ข้าพเจ้าหวังว่า บทความนี้จะกระตุ้นเตือนให้จิตพุทธะแห่งท่านได้ตื่นรู้ ได้พิจารณาเห็นความจริงว่า ไม่มีสิ่งใดยาก ไม่มีสิ่งใดง่าย ไม่มีสิ่งใดผิด ไม่มีสิ่งใดถูก รู้สมมุติ วางสมมุตินั้นเถิดแล้วท่านจะเข้าใจว่า การปฏิบัตินั้น วัดที่ใจวางได้ วางได้ใจก็ว่าง ว่างจากกิเลส ตัณหาความทะยานอยาก ว่างจากโมหะโทสะ ดินแดนแห่งความว่าง คือ แดนแห่งจิตนิพพาน มีแต่ความชื่นเย็นแก่ตนและผู้พบเห็นที่รับรู้และสัมผัสได้จากรอยยิ้ม ุและความเมตตาที่ท่านแผ่ออกมาดั่งแสงจันทร์ในคืนเต็มดวงนั่นเอง

ภาพปกจาก: Gerd Altmann จาก Pixabay

ภาพที่ 1 จาก: Gerd Altmann จาก Pixabay

ภาพที่ 2 จาก: Gerd Altmann จาก Pixabay

ภาพที่ 3 จาก: Pete Linforth จาก Pixabay

ภาพที่ 4 จาก : gen hyung lee จาก Pixabay


เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์