อื่นๆ

ชีวิตเวรเปล : เวรดึก

210
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ชีวิตเวรเปล : เวรดึก

       เรื่องนี้ย้อนกลับไป 10 ปีที่แล้ว เหตุเกิดโรงพยาบาลแห่งหนึ่งชื่อดังย่านอนุเสารีย์  บังเอิญได้รับสายจากหน่วยดูแลผู้ป่วยว่าให้ออกไปรับศพผู้ป่วยที่เสียชีวิตที่หอผู้ป่วยนารีเวช (หอผู้ป่วยหญิง) ชั้น 5 ยามค่ำคืนช่วงนั้นเป็นช่วงเวลา ตี 2 ได้ และหอผู้ป่วยโทรแจ้งขอคนเข็นพร้อมรถเข็นเปลด้วย เพื่อไปส่งผู้ป่วยที่เสียชีวิตแล้ว พอเวรเปลมาถึงที่หอผู้ป่วยเพื่อจะรับศพผู้เสียชีวิตไปส่งที่ห้องสุดท้าย ที่เค้าเรียกกันว่า "ห้องดับจิต" นั้นเอง พอมาถึงเวรเปลก็ได้ถามกับพยาบาลว่า คนไข้ผู้เสียชีวิตไม่มีญาติเลยเหรอครับ

เตียงโรงพยาบาล                                                                                                                 cr : shock.mthai.com

พยาบาลได้ตอบกลับไปว่า พอดีญาติคนไข้เขาอยู่ต่างจังหวัดไม่สะดวกที่จะมาติดต่อตอนนี้ เลยต้องขอให้เอาผู้ป่วยที่เสียชีวิตไปที่ห้องสุดท้ายก่อน ลักษณะศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง อายุประมาณ 45 ปี ป่วยเป็นมะเร็ง รักษาตัวอยู่นาน จนไม่สามารถทนต่อความเจ็บปวดของโรคที่ตัวเองป่วยอยู่ขณะนี้ได้ เขาเลยหมดลมหายใจ ทีมแพทย์ก็ได้ช่วยเหลือเต็มที่แล้ว พอเวรเปลมารับผู้เสียชีวิตขึ้นบนรถเข็นเพื่อจะไปส่งห้องสุดท้าย (ห้องดับจิต) ก็ได้แต่คิดในใจ ตายห่าละ กลัวก็กลัว แถมต้องไปส่งศพคนเดียวอีกต่างหาก ปกติต้องมีบัดดี้เสมอ แล้วมาในช่วงยามวิกาลแบบนี้หาใครสักคนเป็นเพื่อนก็ไม่มี ทำไงละทีนี้ต้องลงลิฟท์ไปด้วยกับร่างที่ไร้วิณญาณ กลัวก็กลัว ปกติเป็นคนไม่ค่อยกลัวผีเท่าไร เพราะทำงานแบบนี้ต้องใจแข็ง  

Advertisement

Advertisement

พอเข็นรถเข็นร่างผู้ไร้วิญญาณมาถึงหน้าลิฟท์ชั้น 5 ลงไปชั้น 1 ซึ่งเป็นห้องสุดท้าย (ห้องดับจิต)อยู่ที่นั่น  ก็ทำใจลำบากเหมือนกันนะ คนเดียวนี่ ในใจก็คิดแต่ว่าจะทำไงดีว้าาาา กดลิฟท์ทันที พอลิฟท์เปิดที่ชั้น 5 เท่านั้นแหละ เวรเปลคนนั้นจึงตัดสินใจว่า ขอนำร่างผู้ไร้วิณญานเข้าไปในลิฟท์ก่อนละกัน  แล้วคิดว่าเราไม่น่าไหว กลัวก็กลัว เมื่ออยู่คนเดียวเพราะถ้าลงมาด้วยกันกับร่างผู้ไร้วิณญานได้ยังไง ร่างนั้นนอนอ้าปาก หน้าซีด ตาก็หลับไม่สนิท นอนแข็งทื้อ ผ้าคลุมร่างก็ไม่ดีเลย ขนลุกไปทั้งตัว ทันใดนั้นตัดสินใจกดเบอร์ชั้น 1 ทันที ทันใดนั้นเวรเปลคนนั้นก็ได้ตัดสินใจออกจากลิฟท์ แล้ววิ่งลงบันไดหนีไฟอย่างเร็วไว้เพื่อจะไปให้ทันลิฟท์เปิดที่ชั้น 1 แต่เขาก็วิ่งลงมาทันได้จังหวะลิฟท์เปิดพอดี ถึงกับหอบเลย รอดตัวไป 

หน้าลิฟท์                                                                                                       cr: peepeestory.blogspot.com

Advertisement

Advertisement

เพราะปกติจะมีเวรเปลคนที่มารับศพติดตามลงไปด้วย กับร่างผู้ไร้วิณญาณ ภายในลิฟท์ ณ ตอนนั้น ใครจะไม่กลัวจะให้ทำใจลงมาด้วยกันกับร่างผู้ไร้วิณญานได้ยังไง ร่างนั้นนอนอ้าปาก หน้าซีด ตาก็หลับไม่สนิท นอนแข็งทื้อ "โอ้ชีวิตเวรเปล เวรดึก" แล้วเขาก็เข็นไปห้องสุดท้ายด้วยความ กลัวก็กลัวแต่เพราะหน้าที่ก็ต้องไปส่งให้ถึงห้องสุดท้าย (ห้องดับจิต) จนได้  จากนั้นส่งต่อใหเจ้าหน้าที่ห้องดับจิตเพื่อเคลื่อนศพไปใส่โรงเย็น เพื่อให้ญาติมารับศพในรุ่งเช้า 

ห้องดับจิต                                                                                                                cr: matichon.co.th


เรื่องนี้มันก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เรื่องจริงไม่ได้คิดขึ้นเอง แต่ท้ายที่สุดแล้วผมขอบคุณช่องทางนี้ที่ทำให้ผมได้เล่าเรื่องของผมให้กับคนอื่นได้อ่าน และเรื่องราวแปลกๆ ที่เกิดขึ้นกับ  ไว้ตอนหน้าผมจะเล่าเรื่องอะไร ฝากทุกคนติดตามด้วยนะครับ ขอบคุณที่อ่านนะครับ 

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์