อื่นๆ

ชีวิตแต่งงานไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดไว้

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ชีวิตแต่งงานไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิดไว้

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวนักอ่านทุก ๆ ท่าน วันนี้เราอยากจะแชร์ประสบการณ์ชีวิตหลังแต่งงาน ที่เราได้ประสบมากับตัวเอง ที่ต่างคนก็ต่างไม่มีทางออก วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาไม่มีวันจบสิ้น ถ้าเราไม่หยุด หรือไม่คิดที่จะเดินทางบนเส้นทางนั้นต่อไป ความเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมารฝังลึกลงที่ใจก็ไม่มีวันลืม อาจจะยาว ๆ ไปนิดหนึ่งนะคะ แต่เราก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังเจอกับเหตุการณ์และปัญหาแบบเราเช่นกันนะคะ

นักเรียนภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2020/02/11/13/53/wallpaper-4839630_960_720.jpg

นับเวลาย้อนหลังกลับไปเมื่อประมาณ 31 ปีที่แล้ว เรากับแฟนเคยเป็นเพื่อนนักเรียน สมัยมัธยมต้นกัน แฟนจะเป็นผู้ชายที่มีรูปร่างสูงโปร่ง ผอม เป็นนักกีฬา นิสัยออกจะกวน ๆ ไม่ได้เกเรอะไรมากมาย พอรับได้ มาจีบเพื่อนสนิทของเรา แต่ผลสรุป คือจีบไม่ติด ฮ่า ๆ กินแห้วไปก่อนนะ ฮ่า ๆ และแล้วพวกเราได้แยกย้ายกันไปเรียนต่อกันที่ใหม่ จนไม่ได้เจอกันนับตั้งแต่นั้นมา

Advertisement

Advertisement

วันเวลาผ่านไปอีกประมาณ 9 ปีต่อมา ทุกคนก็ต่างเรียนจบ ได้ใบปริญญากันคนละใบสองใบ ดังสมตั้งใจในวัยเด็กกันแล้ว มีงานมีการทำ

เรียนจบภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2015/10/18/19/04/graduation-995042_960_720.jpg

ได้ยินข่าวว่าทางโรงเรียนได้จัดงานเลี้ยงรุ่นที่โรงเรียน และได้มีการรวมกลุ่มกัน และได้มาพบเจอกันอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้เราได้เจอเพื่อนเก่า และแก่มาก ฮ่า ๆ ในช่วงเวลานั้น ทุกคนต่างมีเรื่องราวมากมาย มาเล่าสู่กันฟัน 3 เดือนไม่จบ ทุกคนต่างก็ได้แลกเบอร์โทร แลก เฟสบุ๊ก และแลกไลน์ กัน หลังจากคืนนั้นได้จบสิ้นแยกย้ายกันกับบ้าน

งานเลี้ยงรุ่นภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2015/09/02/13/04/marriage-918864_960_720.jpg

อีก 3 วันต่อมา เราได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนชายคนหนึ่งโทรศัพท์มาคุย คุยกันแบบเพื่อน คุยต่าง ๆ นาน ๆ ในการคุยกันแต่ละครั้งก็ใช้เวลานานพอสมควร สรุปคุยแบบแทบจะสิงห์กันได้ ฮ่า ๆ โทรทั้งวันทั้งคืน (ถ้าคุยแบบนี้มาอยู่บ้านพี่เลยก็ได้ จะได้ไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์)  4 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก เขาถามเราว่า อยู่แบบนี้เหงาไหม คิดจะแต่งงานบ้างไหม อายุก็เริ่มเยอะขึ้นทุกวัน ต้องหาคนมาดูแลได้แล้ว รถไฟขบวนสุดท้ายแล้วนะ จะขึ้นไหม เราก็คุยตั้งเป้าหมายในชีวิตขณะนั้นด้วยกันว่า อยากย้ายไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยกัน สร้างตัวให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ด้วยกัน วันนั้นเราก็ตัดสินใจว่า เราไม่ขอลองคบแต่เราจะไปจดทะเบียนสมรสกันก่อน นายโอเคไหม คำตอบที่ได้แบบทันใจแทบจะไม่ต้องคิดออกมาจากปากของแฟนคือตกลงและพร้อมกับ และเขามีการเตรียมซื้อแหวนทองเกลี้ยงวงหนึ่งให้กับเรา แล้วบอกว่า 14 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้เราไปจดทะเบียนสมรสกันนะ (ตกใจและดีใจมากที่ได้คำตอบมาแบบนี้ แล้วรีบยื่นนิ้วนางข้างซ้ายเพื่อสวมใสแหวนนั้น) โรแมนติกมากช่วงเวลาที่ดีในชีวิตที่ไม่เคยลืม และแล้วเราก็พากันไปจดทะเบียนสมรสกันที่เขตบางรัก กทม.

Advertisement

Advertisement

แต่งงานภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2016/01/01/16/38/wedding-night-1116722_960_720.jpg

หลังจากจดทะเบียนสมรสด้วยกันได้ไม่นาน ก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันขึ้นมา มีผู้หญิงคนหนึ่งติดต่อมาหาเรา แล้วพร้อมบอกความจริงอะไรบางอย่างว่าที่แฟนเราปกปิดเอาไว้โดยที่ไม่ได้บอกเรา เขาเป็นเมียอีกคนหนึ่งซื่งมีลูกชายด้วยกัน 1 คน อายุประมาณ 4 - 5 ขวบได้ แต่แฟนเราไม่ได้รับผิดชอบอะไรเขาเลยแม้แต่นิด ฟังแล้วเกิดอาการอึ้ง คิดอะไรไม่ออก เพราะเราก็กำลังจะจัดงานพิธีแต่งงานกัน ตอนนั้นเราทำงานที่ธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งแถวสาธรใต้ เราแพ้ท้องหนักมาก เราตัดสินใจไม่ย้ายไปทำงานที่ญี่ปุ่นกันเขาแล้ว เราไม่คุยกับแฟนเราเลย แต่เราก็ดำเนินพิธีแต่งงานกันจนได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมาก ๆ เขาดูแลเราเป็นอย่างดี เรามีลูกสาวด้วยกัน 2 คน เขาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายน่ารัก พวกเราย้างกันไปอยู่ต่างจังหวัด ทำธุรกิจส่วนตัว ทุก ๆ 2 เดือนเขาจะขออนุญาติเราไปเยี่ยมหาพ่อที่กรุงเทพ ครั้งและประมาณ 4 - 5 วัน เป็นแบบนี้มาตลอด โดยที่เราไม่ได้แอะใจอะไร

Advertisement

Advertisement

แต่งงานภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2015/09/02/13/04/marriage-918864_960_720.jpg

ต่อมาลูกสาวคนเล็กเราเข้าอนุบาล 1 แฟนเราบอกกับเราว่า ลูกกับเมียน้อยของเขาไม่มีที่อยู่และที่เรียน อยากขอให้เขาย้ายมาอยู่บ้านในไร่ของเขา ตอนนั้นเรารับไม่ได้เราทะเลาะกันแรงมาก สุดท้ายเขาก็ไปรับเข้ามาอยู่บ้านในไร่ด้วยกัน โดยที่เราเป็นคนผิดเองที่ไล่เขาไปในวันนั้น แต่ก็ไม่ได้หย่าขาดกัน แค่แยกกันอยู่ แต่เขาก็ส่งเสียงค่าเทอมให้ลูกของเราเท่าที่เขาจะส่งให้ได้ เราได้ยินข่าวมาว่าผู้หญิงของเขาไม่ทำงานอยู่บ้านเฉย ๆ ไม่ถูกกับใครเลยที่อยู่แถวนั้น และก้าวร้าวยันบุพการี พี่ ป้า น้า อา ไม่ถูกกับใครเลย ถูกกับแฟนของเราคนเดียว และแฟนเราเป็นคนทำเลี้ยงครอบครัวอยู่คนเดียว

แต่งงานภาพโดยhttps://cdn.pixabay.com/photo/2020/01/12/09/33/the-romantic-couple-4759590_960_720.jpg

หลังจากนั้นต่อมาอีก5 ปีเขาก็กลับมาขอคืนดี และเราก็รู้ว่าถ้าเรากลับมาเดินทางร่วมกันต่อ เราต้องพบกับความเจ็บปวด แต่เราก็จะเลือกเดินทางนี้ต่อไป โดยแฟนก็จะไป ๆ มา ๆ เหมือนว่าเรารับบทเป็นเมียน้อย แต่แท้จริงเราเป็นเมียหลวง เขาพาลูกเขามาทำความรู้จักกับลูกเราให้เกิดความคุ้นเคย ระหว่างพี่น้องต่างแม่ พวกเด็ก ๆ เข้ากันได้ดี เหมือนผ้าขาว ในระหว่างที่เรากลับมาครบกันเราก็มีความสุขดีนะ แต่เราก็จะโดนฝ่ายตรงข้างราวีมาตลอดเวลาเพราะแฟนเราเขาไม่เคยที่จะพาผู้หญิงคนนั้นไปไหนด้วย ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยได้กินอะไรดี ๆ ไม่ได้ใช้ของดี ๆ ผิดกับเราแฟนเราให้ทุกอย่างที่เราอยากได้ โดยไม่ต้องร้องขอ แฟนเราแนะนำให้เราไปแจ้งจดบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจ ให้ป้องกันตัวเองจากผู้หญิงคนนั้น แฟนไม่เข้าข้างใคร อยากทะเลาะก็ให้ไปทะเลาะกันเอาเอง ไม่ยุ้งเกี่ยวด้วย เราเกิดความเหนื่อยใจ กับเรื่องที่ไม่รู้จะจบสิ้น ในครั้งนี้ได้อย่างไร เพราะเขาต้องการเก็บผู้หญิงไว้ทั้งสองคน ด้วยกันและหว่งใย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์