อื่นๆ
“ ซ่าส์พอมั้ย สาววัยเลขสี่ ฝึกขี่มอเตอร์ไซค์ สุดซิ่งครั้งแรก ”
ภาพโดย unsplash.com
ผู้หญิงกับมอเตอร์ไซค์ !!! ปัจจุบันสภาพจราจร รถติดหนักมาก การเดินทางใช้เวลานานขึ้นเยอะ ทำให้เกิดความเครียด อารมณ์เสียหงุดหงิดโมโหง่าย การไปถึงที่หมายให้เร็วที่สุดเป็นเรื่องยากและช้าจัง ตอนนี้คงปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวช่วยที่ดีที่สุด คือ รถมอเตอร์ไซค์ นั่นไง !! เจ้านี่กลายเป็นขวัญใจซุปเปอร์ฮีโร่บนท้องถนนไปซะแล้ว คุณคิดว่า ผู้หญิงควรขี่มอเตอร์ไซค์ให้เป็นกันมั้ย?
ภาพโดยนักเขียน
สาว ๆ ใครยังขี่มอเตอร์ไซค์ไม่เป็นบ้างคะ? ผู้เขียนอยู่กลุ่มนี้ด้วยค่ะ อายุเข้า "เลขสี่ " แล้วยังขี่ไม่เป็น ปั่นจักรยานมาตลอด เร่งสุดฤทธิ์ก็แซงเขาไม่ได้ กว่าจะถึงก็ช้าเหลือเกิน ปวดขา 2 ข้างเข้าไปอีก เริ่มคิดหนักละ ถ้าขี่มอเตอร์ไซค์ได้ก็คงดี วิ่งฉิวเร็วด้วย แต่อายุขนาดนี้เพิ่งเริ่มเรียนฝึกขี่ จะไหวรึ? ส่วนใหญ่เขาฝึกขี่กันตั้งแต่เด็ก ๆ ถึงวัยรุ่น ขี่คล่องออกถนนใหญ่กันได้แล้ว มองแล้วอิจฉาอยากขี่ได้แบบเขามั่ง
Advertisement
Advertisement
ภาพโดยนักเขียน
จนวันนึงแฟนพาไปฝึกขี่มอเตอร์ไซค์ แนะนำว่า มือใหม่ ควรเริ่มฝึกด้วยรถระบบออโต้ ก่อน รถสามารถแบ่งง่าย ๆ 2 ระบบ คือ
ระบบ เกียร์ (โซ่) กับ ออโต้ (สายพาน) จุดแตกต่างที่ชัดเจน คือ
1. โซ่ - ข้อดี : มีเฟืองเกียร์ คันเกียร์ ทนทานกว่าสายพาน ซ่อมได้ง่าย อะไหล่ไม่แพง
แต่ข้อเสีย : ใช้ความเข้าใจทักษะสูง เกียร์มีหลายระดับเบอร์ เปลี่ยนเกียร์ตามสภาพพื้นถนน ต้องคอยดูแลปรับตั้งความตึงโซ่
2. สายพาน - ข้อดี : ขับขี่เข้าใจง่ายกว่าเพราะไม่ต้องเปลี่ยนเบอร์เกียร์ บิดเร่งกับเบรค ประคองรถเท่านั้น
แต่ข้อเสีย : สายพานอายุการใช้งานที่สั้นกว่าโซ่ ราคาอะไหล่จะแพงกว่าโซ่
ภาพโดย unsplash.com
จากประสบการณ์ตรงเลย คือ เริ่มฝึกด้วยรถแบบมีเกียร์ จะมีระดับเบอร์ 1 , 2 , 3 , 4 , ว่าง ซึ่งต้องคอยเปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับพื้นถนน ทางตรง ทางโค้ง จะใช้เบอร์เดียวตลอดไม่ได้ค่ะ เป็นไงคะ เริ่มยากขึ้น ขี่ไปเปลี่ยนเกียร์ไป โอ้โหอะไรกันนี่ สมองไม่แล่น เปลี่ยนเกียร์ไม่ทัน รถไม่วิ่ง เครื่องก็ร้อง ทั้งสั่น ทั้งเกร็ง ความเร็วสปีดสุดที่ 20-30 km. รถหลังก็รอ บทสรุปจบที่ ... ล้ม ... เกือบตกคลองน้ำทั้งรถทั้งคนแถมซ้อนแฟนมาด้วย จบแบบได้เลือดเจ็บ ๆ มาจ้า ดั่งคำว่า “นักรบ ย่อมมีบาดแผล" จากนั้นหยุดการฝึกขี่ไปนาน ใจมันกลัว ๆ น่ะสิไม่กล้าซะแล้ว รู้สึกว่า การขับขี่ควบคุมรถมันยากจัง
Advertisement
Advertisement
ภาพโดยนักเขียน
เวลาผ่านไปหลายเดือนเริ่มทบทวนความคิดใหม่ ให้ดิฉันกลับสู่การเรียนฝึกขี่อีกครั้ง ทุกคนลงความเห็นว่า ฝึกขี่รถระบบ Auto ดีกว่า อายุก็เยอะจะมาฝึกระบบเกียร์มันเข้าใจช้า จากการเข็ดขยาดครั้งที่แล้ว ทำให้ดิฉันตัดสินใจเร็วมาก เลือกซื้อ ระบบ Auto รุ่นนี้ ราคาเบากระเป๋า ขนาดรถไม่ใหญ่เกินไป แถมมีสีแดงถูกโฉลกด้วย
พอเริ่มหัดขี่ รถระบบ Auto รู้สึกได้ชัดเจนเลยว่า ขี่คล่อง เข้าใจง่าย สบายกว่าระบบเกียร์มาก ๆ ประคองรถให้ได้ เลี้ยวให้เป็น บิดเบรก แค่นั้น ไม่ต้องเปลี่ยนเกียร์ ไม่ต้องกังวลจดจำเกียร์เบอร์ต่าง ๆ เลย
ภาพโดยนักเขียน
หลังจากซื้อรถใหม่ป้ายแดง เริ่มเปิดสนาม สถานที่ฝึก คือ ถนนในหมู่บ้าน ขี่วนไป ขี่วนมา เพื่อนบ้านก็มองขี่แค่นี้เองเหรอ มาไกลสุดก็ถนนหน้าหมู่บ้านแค่นั้น พอถึงเลี้ยวกลับ ไม่รู้เป็นไง ไม่กล้าที่จะออกไปไกลกว่านั้น ลองหลายครั้งละ พอขี่ถึงหน้าหมู่บ้านทีไร เห็นรถสวนไปสวนมาข้างหน้า ใจมันฝ่อความกลัวก็มา มือกำคันเร่งกับเบรกตามสูตรท่าได้เป๊ะ แต่ได้แค่ยืนมองดูไม่ไปต่อ ฝึกเป็นปีแล้วยังไม่ออกนอกหมู่บ้านเลย อายเด็กจริง ๆ ขี่แซงออกไปแล้ว ผู้เขียนยังอยู่ตรงนี้ กองเชียร์ก็เชียร์จังให้ลองขี่ออกไป หลายเสียงพูดแบบเดียวกัน คือ
Advertisement
Advertisement
" ใจต้องกล้า ต้องบ้า ข้าถึงจะขี่เป็น " ดิฉันก็ได้แค่ยิ้ม ๆ ค่ะ ๆ
ภาพโดยนักเขียน
ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง สำหรับผู้เขียน ขอเรียกวันนี้ว่า “ วันวัดใจ ” เป้าหมาย คือ วัดไผ่เลี้ยง (วัดใกล้บ้าน ผ่านประจำ) และ สนามกีฬาของมหาวิทยาลัยธนบุรี ตัดสินใจอยู่นานมาก ๆ เอาละเริ่มต้นขี่ช้า ๆ จากหน้าบ้านตัวเองมาถึงหน้าหมู่บ้าน แล้วหยุดชะงักไปพักนึง คิดถึงจุดหมายมองทางข้างหน้า ท่องในใจ " เราต้องทำให้ได้ ต้องขี่ออกนอกหมู่บ้านให้ได้ " จากนั้นมองซ้าย มองขวา รถว่าง เอาละ ฮึบ ๆ ฮึด ๆ หรี่ตานิดนึง แล้วพุ่งเลย บิดเร่งเลี้ยวขวาออก เกือบเตลิดไปชนกำแพงกับเสาไฟฟ้า แล้วก็ประคองไปทางตรงไปเรื่อย ๆ ได้ซะงั้น " เฮ้ย ๆ ฉันทำได้ ขี่ออกนอกหมู่บ้านได้แล้ว ใจนี่วี๊ดวิ่วลิ่วลอยไปไกล "
ภาพโดยนักเขียน .
เมื่อประคองทางตรงมาถึงจุดหมาย ค่อย ๆ เลี้ยวซ้ายเข้าวัด จอดหน้าประตูทันที มาถึงแล้ว เย้ ๆ!! ตอนนั้นอยากจะกระโดดร้องกรี๊ดดัง ๆ สุด ๆ ค่ะ เราทำได้ !!! หัวใจเต้นแรงและรัวระทึกมาก โคตรดีใจ ในที่สุดฝันเป็นจริงนี่หว่า อยากมาที่นี่ด้วยตัวเองให้ได้ มาถึงแล้วรู้สึกว่าอย่างกับถูกแจ็กพ็อตล็อตเตอร์รี่รางวัลที่ 1 ไหว้พระแล้วขี่ไปสนามกีฬาต่อเลยจ้า โอ๊ย ๆ ใจนี่ลอยเหมือนบินได้ เอาชนะความกลัวได้แล้ว !!
ภาพโดย unsplash.com
นี่แหละที่เขาเรียกว่า "เอาชนะความกลัว ด้วยความกล้า" ก้าวข้ามทุกอย่างได้ อยู่ที่ใจเรานี่เอง หากใครที่คิดว่า "กลัว" หรือ "อายุเข้าเลขสี่ เยอะแล้ว" ขอบอกว่า ผู้เขียนทำได้แล้วจริง ๆ เริ่มเลย ไม่ได้ยากอย่างที่คิด และ "ไม่มีใครแก่เกินเรียน" แค่ตั้งใจพยายามทำให้ได้ อยากให้คุณลองดูค่ะ
" การเดินทางอันน่าตื่นเต้น แสนสนุก สะดวกสบาย แล้วคุณจะรู้ว่า ชีวิตเรามีสีสันขึ้นมากมายค่ะ "
ขอขอบคุณภาพประกอบจากunsplash.com
ความคิดเห็น