อื่นๆ

ดูแลใจอย่างไรในวันที่ถูกเลิกจ้าง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ดูแลใจอย่างไรในวันที่ถูกเลิกจ้าง

.........ข่าวร้ายของมนุษย์เงินเดือน ในช่วงนี้  ก็คงไม่พ้นเรื่อง การเลิกจ้าง ที่มีข่าวให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เพราะเศรษฐกิจที่ซบเซามาก่อนหน้านี้ ประกอบกับเจอเหตุการณ์ Covid 19 เข้าไปอีก จึงอาจทำให้หลาย ๆ คน ในช่วงนี้ทำงาน  ด้วยอาการหวั่น ๆ ว่าใครจะเป็นรายต่อไป แต่หากเหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นกับเรา อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ล่ะ เราจะรับมืออย่างไร ..................

ถึงแม้ว่า สถานการณ์ การติดเชื้อ covid 19ในประเทศไทยจะอยู่ในภาวะเกือบเป็นปกติ   มาตรการต่าง ๆ  จากทางภาครัฐก็ดูจะผ่อนปรนไปบ้าง  แต่ใช่ว่าเศรษฐกิจของประเทศจะฟื้นตัวได้รวดเร็ว ตามการหายไปของเชื้อโรค

menหลังจากการปลดล็อคมาตรการของทางภาครัฐ หลาย ๆ  ธุรกิจ ก็กลับมาเดินเครื่องกันอีกครั้ง   แต่ก็ยังมีอีกหลายธุรกิจ ที่สู้ต่อไม่ไหว จนต้องมีการลดขนาดธุรกิจ หรือ เลวร้ายที่สุดคือ ปิดกิจการลง และสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย สำหรับทั้ง 2 กิจกรรม คือ การเลิกจ้างพนักงาน

Advertisement

Advertisement

สำหรับคนที่ได้รับข่าวร้าย อย่างการเลิกจ้าง ย่อมเกิด ความรู้สึกตกใจ  ผิดหวัง  เสียใจ  แต่สิ่งที่เรากลับพุ่งความสนใจเป็นอันดับแรก เลยก็คือ สิทธิ์ที่เราพึงได้รับในกรณีที่ถูกเลิกจ้าง หรือ ที่เรียกกันว่า เงินชดเชยเลิกจ้าง ที่จ่ายตามอายุการทำงาน  และสิทธิ์การรับเงินว่างงานจากสำนักงานประกันสังคม   แต่ความรู้สึกผิดหวัง เสียใจ ที่เกิดขึ้นกับเราก่อนหน้านั้น  เรากลับละเลย ที่จะดูแล ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เราต้องให้ความสนใจด้วยเช่นกัน

สำหรับบทความนี้  จะชวนมาดูแลใจในวันที่ถูกเลิกจ้าง ตามหลัก ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว เพื่อไม่ให้การถูกเลิกจ้างในครั้งนี้ ส่งผลต่อชีวิตเราไปตลอดชีวิตjob

  1. ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น  ทำความเข้าใจใจเขาใจเรา เพราะสถานการณ์เช่นนี้ นายจ้างก็ลำบากไม่น้อย แต่กระบวนการยอมรับความจริงของแต่ละคนย่อมใช้เวลาและ ขั้นตอนแตกต่างกันไป  และการพยายามควบคุมอารมณ์เกรี้ยวกราดก็เป็นสิ่งที่ดี  ถ้าหากอยากระบาย แนะนำให้ออกห่างจากพื้นที่สาธารณะ รวมถึง Social Media
  2. หยุดการเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น  ในวันที่เราถูกเลิกจ้าง ขณะที่เพื่อนร่วมงาน คนอื่นได้ทำงานต่อ เราคงรู้สึก เศร้าใจยิ่งนัก เราคงอดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นไม่ได้  เพียงแค่หยุดเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะเหตุผลว่า ไม่ว่าจะเป็นคนที่ได้อยู่ต่อ หรือ คนที่ต้องถูกให้ออกจากงาน ทุกคนก็ต้องสถานการณ์ที่ถูกกดดันไม่ต่างกัน
  3. สร้าง Self Esteem ให้ตัวเอง ในวันที่ถูกเลิกจ้าง เก็บของออกจากโต๊ะทำงาน ก็เป็นช่วงเวลาที่ อดคิดไม่ได้ ว่า ตัวเราไม่มีคุณค่า แล้วหรือเปล่า ถ้ารู้ตัวให้หยุดความคิด แบบนั้น ทันที คุณค่าของคนไม่ได้อยู่ที่ผลของงานเสมอไป แล้วงาน บนโลกนี้ ก็ไม่ได้มี ที่ใดที่หนึ่งเท่านั้น  ยังมีงานอีกมากที่รอให้ตัวเราได้แสดงความสามารถ เพียงแค่เราเชื่อว่า เรามีความสามารถเพียงพอ และพัฒนาตัวเองได้
  4. บอกความในใจให้เพื่อนร่วมงานรับรู้ รวมถึงลูกค้า และเจ้านายด้วยโดย เป็นการบอกกล่าวความรู้สึกว่าที่ผ่านมาว่าเรายินดีที่ได้ร่วมงาน และอยากขอบคุณเรื่องต่างๆ ที่เขาเคยให้ความช่วยเหลือ แม้ว่าเราจะต้องออกจากงาน แต่พวกเขาจะจดจำความสัมพันธ์ และความรู้สึกที่เคยเกิดขึ้นอยู่เสมอ
  5. ส่งต่องานอย่างมืออาชีพ: การทำเรื่องยาก ๆ อย่างการส่งต่องานให้กับตนอื่นได้ดูแลต่อจากเรา นั้น ถือเป็นเรื่อง ที่มืออาชีพ ทำกัน  ไม่ว่าเหตุผลที่เราจะถูกให้ออกจากงานนั้นเป็นอะไรก็ตาม  การส่งต่องาน อย่างครบถ้วน ถูกต้อง ทำให้เราดูเป็นคนมีคุณภาพ ไม่แน่ว่า อาจมีคนกำลังแนะนำเราให้กับนายจ้างคนใหม่อยู่ก็ได้pro
  6. ถึงเวลามองหางานใหม่  โดยแจ้งให้คนรอบตัวทราบว่า เรากำลังมองหาโอกาสใหม่ ๆ อาจจะไม่ใช่เพื่อนที่ทำงานเดียวกัน อาจจะเป็นสายงานอื่น หรือใครก็ตามที่ยังคงเชื่อมต่อกับเราอยู่ หากเขาเคยร่วมงานกับเรา หรือรู้ว่าเรามีทักษะอะไร เขาอาจจะเชิญเราไปร่วมงานด้วย หรือการฝากประวัติไว้กับ เว็บไซต์หางาน  จริงอยู่ที่การหางานในช่วงวิกฤตแบบนี้จะหายากยิ่งนัก แต่ขอให้เชื่อว่า ยังคงมีอีกหลายบริษัท ที่กำลังฟื้นตัวจากวิกฤต และกำลังต้องการบุคลากร สำหรับการขยายกิจการ
  7. พัฒนาทักษะการทำงาน อยู่เสมอทั้งการพัฒนาทักษะสายงานเดิม หรือ สายงานใหม่ ๆก็สามารถเพิ่มโอกาสในการหางานในอนาคตได้

Advertisement

Advertisement

การถูกให้ออกจากงาน  อาจเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยากสำหรับใครหลายๆ คน แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว “จงยอมรับ” และก้าวออกมาอย่างน่าชื่นชมที่สุด  จงอย่าท้อแท้ และสิ้นหวังที่จะเริ่มต้นใหม่  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การดูแลจิตใจเราให้ดี เพราะหากเรามีจิตใจที่เข็มแข็ง ก็จะสามารถผ่านทุกอุปสรรค และเห็นโอกาสได้ง่ายกว่า คนที่มีจิตใจเศร้าหมอง

สุดท้ายแล้วเมื่อเวลาผ่านไป  Covid 19 และการถูกเลิกจ้างในครั้งนี้  ก็จะกลายเป็นแค่เรื่องหนึ่งในชีวิตที่เราสามารถผ่านพ้นไปได้ เหมือนทุก ๆ เรื่องที่เราเคยผ่านมา

เป็นกำลังใจให้ทุกคนค่ะ

ภาพปก / freepik1 / freepik2 / freepik3

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์