ตัวเราเข้าใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน?

เหมียวอินเตอร์

25 พ.ย. 2022|3 min read

อ่านบทความอื่นจาก เหมียวอินเตอร์

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

ตัวเราเข้าใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน

คำถามที่ว่า "เราเข้าใจตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน" ฟังดูแล้วประโยคนี้อาจจะดูเป็นประโยคคำถามง่าย ๆ อาจถูกตั้งคำถามจากจิตใต้สำนึกของเราเอง ที่อยากจะรู้จักตัวเองให้มากขึ้น ว่าตัวของเราตอนนี้นั้น จริง ๆ แล้วเรารู้จักหรือเข้าใจความเป็นตัวเราไหม ยอมรับในสิ่งที่ตัวเองเป็นหรือเปล่า หรือแค่สร้างตัวตนของเราอีกเวอร์ชั่นขึ้นมา เพื่อให้อยู่ในสังคมได้ ต้องการการยอมรับจากสังคมนั้น ๆ เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความแตกต่างหรือเป็นจุดสนใจของคนกลุ่มนั้น เพราะเหตุนี้ คุณถึงเกิดความเคยชินกับการอยู่กับตัวคุณเวอร์ชั่นที่สร้างขึ้นมานี้ จนลืมตัวตนจริง ๆ ของคุณไปแล้ว เช่น ลืมไปแล้วว่าเราเคยมีความสุขกับอะไร เป้าหมายของเราในตอนนั้นคือสิ่งไหน ทุก ๆ อย่างที่ทำอยู่ทุกวันนี้ ใช่ความต้องการของเราจริง ๆ หรือเปล่า แล้วถ้าเรารู้แล้วว่าเราไม่ได้อยากเป็นแบบนี้จริง ๆ อะไรล่ะคะคือความเป็นตัวเรา เราละเลยความรู้สึกของตัวเองไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ

เนื่องจากในบางครั้งคำถามเหล่านี้อาจถูกถามขึ้นจากบุคคลอื่น ที่เราหลีกเลี่ยงที่จะไม่ตอบไม่ได้ เราจะตอบคำถามง่าย ๆ นี้ได้ไหม? ซึ่งหากมองอีกมุมหนึ่งมันจะเป็นคำถามที่เกิดจากใครก็ไม่สำคัญ แต่สำคัญที่ว่า เราตอบคำถามเหล่านี้กับตัวเราเองได้หรือเปล่าในเวลานี้ ดังนั้นเรามาค้นหาและสังเกตความเป็นตัวเรา อยู่กับตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวคุณเองกันเลยดีกว่า ในหัวข้อที่ว่า "ตัวเราเข้าใจตัวเองมากน้อยแค่ไหน"

การค้นหาตัวเอง เราสามารถสังเกตตัวเองได้ ดังนี้

ตัวของคุณมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนี้ไหม

ตัวอย่างเช่น การทำงานที่คุณเข้ามาทำมันเพราะคนอื่น คนอื่นบอกว่าเหมาะกับคุณ คนอื่นบอกว่าดี คนอื่นบอกว่ามั่นคง ซึ่งการที่คนที่มีอิทธิพลทางความคิดมาชี้แนะให้คุณ ตัวคุณอาจจะกำลังหลง หลงกับคำพูดและความคิดของคนอื่น ตัดสินใจโดยที่ไม่ได้ถามตัวคุณเองซ้ำ ๆ เลยว่านี่ใช่สิ่งที่คุณอยากทำมันจริง ๆ ใช่หรือเปล่า คุณตัดสินใจเพียงเพราะคนอื่นคอนเฟิร์มว่านี้คือทางของคุณ แต่ลืมคิดไปเลยว่าตัวคุณคือของคุณ ในวันหนึ่งการที่ชีวิตของคุณเกิดข้อผิดพลาด หรือล้มเหลวในการตัดสินใจผิดพลาดกับอะไรบางอย่างในชีวิต ถ้าเกิดว่าการตัดสินใจนั้นมาจากตัวของคุณเป็นคนเลือกเดินทางนี้เองตั้งแต่แรก คุณอาจจะไม่เสียใจกับมันเลย เพราะอย่างน้อยทุก ๆ อย่างในวันนี้ คุณได้เป็นคนเลือกมันเอง คุณได้ถามใจตัวเองแล้วเอา เอาแบบนี้ดีแล้วนะ ซึ่งมันจะไม่มีคำว่า "เราไม่น่าเชื่อคนอื่นมากกว่าตัวของเราเองเลย" คุณจะไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลัง แต่ควรจะบอกตัวเองว่า มันคือประสบการณ์ชีวิตที่อย่างน้อย ๆ เราก็ตัดสินใจด้วยตัวเอง มันอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่สุดท้ายแล้วมันก็ยังมีความชอบของคุณอยู่ในสิ่ง ๆ นั้น ทุกอย่างไม่ได้แย่เสมอ แต่ชีวิตของคุณ คุณสามารถเลือกเองได้ตลอดเวลา ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะยังเป็นของคุณไหม แต่วันนี้เราควรจะมีความสุข ใช้ชีวิตให้คุ้มค่าด้วยความคิดของตัวเอง "ถ้ารู้สึกว่าเหนื่อย ช่วยหยุดถามหัวใจของตัวเองก่อนก้าวเดินต่อไป" แล้วคุณจะไม่เสียใจกับการเปลี่ยนแปลงครั้งต่อไป และเติบโตไปอย่างมีคุณภาพ

เติบโตบนความชอบของคนอื่น

2. สิ่งนี้คือสิ่งที่ชอบใช่หรือเปล่า

ตัวอย่างเช่น คุณเคยชอบอะไรมาก ๆ มากจนคุณคิดว่านี้แหละ คือที่สุดสำหรับคุณ แล้วในตอนนี้คุณกำลังสานต่อความชอบในวันนั้นอยู่หรือเปล่า ยังมีรอยยิ้มกับมันอยู่ใช่ไหม ตอนนี้พยายามทำหรือฝืนทำมันอยู่ เหนื่อยกับสิ่งที่ชอบก็ยังดีกว่าร้องไห้กับอะไรที่ฝืนอยู่ดี นั่งหัวเราะบนจักรยานคันเก่าก็ยังคงดีกว่านั่งร้องไห้บนรถหรูใช่ไหมคะ เพราะฉะนั้น การมีความสุขกับสิ่งที่มี อาจอยู่ใกล้ความสำเร็จมากกว่าความสะดวกสบาย แล้วแบบนี้ทำไมเราต้องอดทนกับอะไรที่ไม่ได้ชอบขนาดนั้น กลับมาทำสิ่งที่คุณรักมันจริงๆนะคะ แล้วคุณจะได้สัมผัสคำว่าที่สุดอีกครั้ง เราไม่สามารถทำให้คนทั้งโลกนี้ยอมรับในตัวเราได้ แต่เราสามารถยอมรับตัวเองได้ การใส่ใจตัวเองเป็นเรื่องที่ดี เพราะการที่เรายังเปราะบางอยู่ เราก็ไม่มีทางปกป้องใครได้ คุณควรเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวคุณเองเสมอ แล้วเมื่อไหร่ที่คุณสำเร็จแล้ว คุณยังคงสามารถกลับไปช่วยเหลือคนที่คุณรักได้แน่นอน เสียสละเป็นเรื่องที่ดี แต่อย่าลืมไปนะคะว่าเราไม่สามารถเสียสละได้ทุกเรื่อง ไม่มีใครรักคุณมากกว่าตัวเขาเอง ถ้าหากวันนี้คุณรู้ตัวแล้วว่าทางนี้ไม่ใช่คุณ กลับไปหาสิ่งที่คุณรักนะคะ เพราะสิ่งนั้นก็ยังคงรักคุณเหมือนเดิม เนื่องจากมันยังคงสร้างรอยยิ้มให้คุณได้อยู่ ในยุคนี้ใครสร้างความสุขให้ตัวเองได้ มันคงดีกว่าการมีเงินทองมากมาย แต่หาซื้อความรักและความสุขไม่ได้ เงินน่ะใช้แล้วก็มีวันหมดไป แต่การมีความสุขกับสิ่งที่ชอบ รอยยิ้มคุณจะไม่มีวันหมดไปแน่นอน หากวันนี้คุณเลือกเดินในทางที่ถูกต้องแล้ว ก็อยากให้คุณตั้งใจทำมันต่อไปเรื่อย ไม่เดือดร้อนตนเองและผู้อื่น "เรามาใช้ชีวิตบนความชอบของตัวเอง โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับสังคมกันนะคะ"

ความสุขที่เกิดจากความชอบ

การรู้จักและเข้าใจตัวเองเป็นเรื่องสำคัญที่หลายคนมองข้าง จนอาจเกิดการมีความคิดเป็นพิษกับตนเอง หาจุดเด่นของตัวเองไม่เจอ คิดว่าตัวเองไม่มีความพิเศษ นี้อาจทำให้คุณไม่ต้องประเชิญหน้ากับโรคซึมเศร้าหรือคิดด้อยค่าตัวเอง คิดบวกให้ได้มากกว่าความคิดที่เป็นพิษ Toxicกับตัวเองและคนรอบตัว บางทีการมีข้อแตกต่างที่ดี ข้อแตกต่างเหล่านั้นอาจเป็นเสน่ห์ในตัวเรา การมีความคิดเป็นของตัวเองแล้วกล้าที่จะแสดงความคิดและความรู้สึกของตัวเองออกมา เป็นตัวของตัวเอง ไม่เอาแต่ตามเสียงข้างมากเพราะแค่ไม่มั่นใจในความคิดและความรู้สึกของตัวเอง จนสุดท้ายเสียความเป็นตัวเองไปโดยไม่รู้ตัว ความคิดเห็นของเราอาจดีกว่าหลาย ๆ คน แต่เราไม่แสดงออกไปก็สูญเปล่า และทุกข้อที่กล่าวมานี้ บางครั้งมันอาจจะสายไปที่จะย้อนกลับมา "ถ้าคนจะรักเรา เราจะเป็นยังไงเขาก็ยังคงรักเราเหมือนเดิม" เกิดมาเพื่อเป็นตัวเอง

รัก อย่างเข้าใจ ภาพปกจาก Odd Socks Sock Different - Free photo on Pixabay