ท่องเที่ยว
ทริปสิมิลัน สุดฟินกับ Sunny Sea tour
สิมิลันเปิดเกาะแล้วจ้าาาา
หลังจากหมู่เกาะสิมิลันปิดเกาะ เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติ และให้น้องๆปลา ปะการังและหาดทราย ได้เยียวยาตัวเอง ให้กลับมาสดใสดังเดิม ตอนนี้ก็ได้เปิดเกาะ ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ เข้ามาเยี่ยมชมความสวยงามของธรรมชาติ ทั้งบนบกและใต้ทะเล น้ำทะเลนี่ใสกริ๊ง สีสวยปกตรง แบบไม่จกตา1000% ไปเลยจ้า เตรียมบิกินี่ มาถ่ายรูปสวยๆ กันได้เลย
โดยการเดินทางครั้งนี้ เราเลือกเดินทางโดยซีสตาร์ ผ่านการจองแพจเกจจาก Sunny sea tour เดียร์ไปกับเพื่อนสนิท และน้องๆ อีก2 คน ซึ่งไม่ได้ลงเกาะนาน หลังจากไปเกาะพีพีเมื่อคราวที่แล้ว รอบนี้ถือโอกาสที่หมู่เกาะสิมิลัน เปิดเกาะพอดี ไปเยี่ยมชมซะหน่อย นี่เป็นครั้งแรกของการไปสิมิลัน หลังจากแค่ดูความสวยจากรีวิวต่างๆ ได้มาเห็นกับตาของตัวเองซะที น้ำทะเลคือ สีฟ้า ฟ้าแบบตะโกน สีสวยมากๆ วันนี้จะมาเล่าให้ฟังกันว่า ทริปนี้ เราไปไหนกันบ้าง แล้วจะต้องเตรียมอะไรบ้าง หากมีแพลนจะไปหมู่เกาะสิมิลัน
Advertisement
Advertisement
เริ่มกันที่ เวลา 5.40 เป็นเวลานัด ที่ทางบริษัทจะส่งรถมารับ แถวในเมืองภูเก็ต ซึ่งหากใครมาเที่ยวภูเก็ตอยู่แล้ว สามารถนัดสถานที่เพื่อให้คนขับรถไปรับได้เลย แต่จะมีค่าบริการ รับส่ง ทั้งไปกลับ 300 บาทนะคะ
เมื่อขึ้นรถแล้วก็เดินทางไปยัง ท่าเรือทับละมุ ซึ่งเป็นท่าเรือของบริษัท ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.30 นาที ขึ้นอยู่กับว่าต้องรอเพื่อนร่วมทริปนานแค่ไหน เพราะคนขับรถจะต้องไปรับผู้โดยสารคนอื่นๆด้วย เรากับเพื่อนขึ้นรถคนละสถานที่กัน ทำให้ได้รถคนละคัน เราจึงไปถึงท่าเรือทีหลัง
เวลาประมาณ 8 โมงนิดๆ เดินทางถึงท่าเรือทับละมุ อ.ท้ายเมือง จ.พังงา
เราก็เข้าแถวเพื่อเช็คอิน แจ้งชื่อและรับหมายเลขประจำตัว เพื่อใช้ในทริปครั้งนี้ เราได้หมายเลข 120 ค่ะ จากนั้นก็เซ็นชื่อ เพื่อรับริชแบนด์ของเราเป็นสีน้ำเงินนะคะ ซึ่งริชแบนด์ตัวนี้จะแยก นักท่องเที่ยวในเรือแต่ละลำ เพื่อความสะดวกในการจัดกรุ๊ปทัวร์
Advertisement
Advertisement
หลังจากเช็คอินเรียบร้อย เราก็เจอเพื่อนๆที่มาถึงก่อน นั่งทานอาหารเช้าเกือบเสร็จแล้วค่ะ เราก็รีบวางกระเป๋าแล้วไปหาอาหารเช้าทันที โดยแพจเกจที่เราซื้อนะคะ ฟรีอาหาร เช้า เที่ยง เย็น และของว่าง เรียบร้อยแล้วนะคะ ช่วงเช้าก็จะมีข้าวต้มไก่ ข้าวผัด ไส้กรอก แซนวิช ขนมปังปิ้ง ขนมไทย คุ๊กกี้ต่างๆ เครื่องดื่มก็มีหลากหลายค่ะ ทั้งกาแฟ ไมโล น้ำส้ม เลมอนที เป็นแบบบุฟเฟท์ กินได้แบบจุกๆ กันไปเลยค่ะ เราเลือกทานข้าวต้ม ไส้กรอก ไมโล คุ๊กกี้ชิ้นนึง และน้ำเปล่าค่ะ ถ้ากินเยอะไป เดี๋ยวจะเดินไม่ไหวเอาค่ะ สำหรับใครที่กลัวเมาเรือ แนะนำให้ทานยาเมาเรือก่อนด้วยนะคะ ซึ่งที่ท่าเรือมีเตรียมให้แล้ว สามารถหยิบได้เลยค่ะ สำคัญมากๆเลยนะ แนะนำต้องทานก่อน เพื่อความชัวร์ค่ะ
หลังจากทานข้าวเสร็จ เข้าห้องน้ำเรียบร้อย พี่ๆไกด์ก็จะเรียก รวมตัวเพื่ออธิบายทริปของวันนี้ค่ะ โดยแยกเป็นภาษา ซึ่งนักท่องเที่ยวมีหลายชาติมาก หลักๆก็จะมีไทย จีน รัสเซีย และก็คนที่ฟังภาษาอังกฤษได้ค่ะ
Advertisement
Advertisement
จากนั้นก็รอเรียกขึ้นเรือ ตามสีของริชแบนด์ ซึ่งสีน้ำเงินของเราเป็นสีสุดท้ายเลยค่ะ ก่อนขึ้นเรือ จะมีตะกร้าสำหรับใส่รองเท้า โดยที่เราจะต้องถอดรองเท้า ฝากไว้ค่ะ ถือเป็นทริปเท้าเปล่าเลยก็ว่าได้ จุดนี้แนะนำให้เตรียมถุงเท้า หรือ รองเท้าแบบผ้าของนักกีฬาไปด้วยก็ดีนะคะ สำหรับคนที่กลัวว่าจะมีอะไรบาดเท้าตอนเดิน
โดยเรือที่เราจะเดินทางในวันนี้ เป็นเรือคาตามารัน จะบอกว่านั่งสบายมากๆ เป็นเรือขนาดใหญ่ มี2 ชั้น ชั้น2จะเป็นดาดฟ้าค่ะ สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูป ชมวิวได้ เฉพาะตอนเรือจอดเท่านั้นนะ
การเดินทางไปหมู่เกาะสิมิลัน จะใช้เวลา ประมาณ 1 ชม.15 นาทีค่ะ จะถึงหมู่เกาะจุดแรก ในระหว่างนี้ เจ้าหน้าที่จะแจกหน้ากากดำน้ำตื้น และผ้าขนหนู ให้ลูกทัวร์ค่ะ สำหรับยางกัดตอนดำน้ำ จะให้แยกใส่ถุงมาค่ะ ถือว่าดีมากๆ เพราะผ่านการทำความสะอาดมาแล้ว และสำหรับตีนกบ สำหรับดำน้ำ สามารถขอยืมได้ที่ท่าเรือก่อนขึ้นเรือได้เลยค่ะ แต่ต้องรักษาอุปกรณ์ด้วยนะคะ อุปกรณ์จะมีหมายเลขอยู่ค่ะ เพื่อให้เช็คได้ ตอนเวลาคืน เจ้าหน้าที่จะอธิบายรายละเอียดในการดำน้ำเล่นน้ำ และสอนการใช้งานหน้ากากดำน้ำ ใครว่ายน้ำไม่เป็นก็ลงได้นะคะ ทางทัวร์มีบริการลากไปค่ะ เรียกว่า แท็กซี่
ในระหว่างทางที่ไปเกาะ เจอฝูงโลมาด้วยนะคะ เรารีบวิ่งไปเก็บภาพ ได้เห็นน้องๆ ด้วย น่ารักมากๆ กระโดดมาโชว์ตัวกันใหญ่เลย
และแล้วเราก็เดินทางมาถึง จุดแรกซึ่งก็สามารถลงดำน้ำตื้น กันได้เลยค่ะ แต่เราไม่ได้ลงจุดนี้ค่ะ เพราะอยากถ่ายรูปสวยๆ ก่อน เราขึ้นไปเก็บภาพ ถ่ายรูปบนชั้น2 ของเรือ น้ำทะเลสีสวยมากๆๆๆ ไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอนค่ะ อากาศในวันนี้ก็เป็นใจค่ะ ท้องฟ้าแจ่มใส แต่เมฆไม่เยอะมาก ถ่ายภาพออกมาสวย แนะนำใส่ชุดสีที่ตัดกับน้ำทะเลมานะคะ ถ่ายรูปจะออกมาสวยมาก
หลังจากนั้น เราก็ไปขึ้นที่หาดเจ้าหญิงกันค่ะ พร้อมทานอาหารเที่ยง กันที่นี่ โดยทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะเป็นคนเตรียมให้ทั้งหมดค่ะ
โดยข้าวเที่ยงในวันนี้ จะมีต้มยำซีฟู้ด ไก่ทอด ผัดผักรวม ลวกจิ้ม และก็แตงโมค่ะ โดยทางอุทยานจะจัดเป็นเซตให้ค่ะ สามารถเลือกน้ำซุปที่จะใส่ในซีฟู้ดได้ค่ะ เราเลือกน้ำต้มยำ ส่วนน้ำเราก็เอาโค้กจากบนเรือมาค่ะ กินกับน้ำส้ม และน้ำเปล่า อาหารเที่ยงก็อร่อยค่ะ เราทานหมดเกลี้ยงเลย ทานเสร็จก็เอาจานไปเก็บเองนะคะ จะมีที่เตรียมไว้ค่ะ
ทานเสร็จ เพื่อนของเราก็ชวนเดินไปทะลุหาดใกล้ๆค่ะ ชื่อว่า หาดเล็ก หรือ หาดฮันนี่มูน เดินไปไม่นานค่ะ ทางจะเป็นดินเรียบๆ ข้างทางเป็นป่านะคะ มีสลับกับ ทางบันไดไม้ได้บรรยากาศไปอีกแบบ แต่ก็มีจุกบ้างนิดหน่อย เพราะเพิ่งจะทานข้าวเสร็จ
เดินไปถึงก็จะเจอกับชายหาด น้ำทะเลสีสวย สามารถเล่นได้ค่ะ แต่รีบเดินกลับ เพราะใกล้ถึงเวลาที่เรียกขึ้นเรือแล้ว ถ้าใครไม่เดินไป ก็สามารถพักผ่อน บริเวณนั้นได้ก่อนค่ะ มีที่นั่งเยอะเลย
หลังจากขึ้นเรือแล้ว เดินทางต่ออีก 5 นาที ก็จะถึงจุดที่จะสามารถดำน้ำตื้นได้ ซึ่งเราก็จะลงน้ำ กันจุดนี้ค่ะ จะบอกว่าการใส่หน้ากากดำน้ำ สำหรับเรานั้น เป็นอะไรที่ยากมากๆ เพราะ เราค่อนข้างกลัวการลงน้ำ เพราะว่ายน้ำไม่เป็นค่ะ แต่ถึงยังไงก็ทำใจกล้า ต้องลงไปให้ได้ เพราะนานๆ ถึงจะได้ชมปะการัง ชมปลา ด้วยตาตัวเอง ตัดสินใจลงน้ำค่ะ ใส่ชูชีพ ใส่หน้ากากซึ่งไกด์จะช่วยใส่ค่ะ ตอนลงไปคือ ทุลังทุเลมากค่ะ แต่ไกด์ช่วยเต็มที่ จนสามารถพาลอยไป แล้วดำน้ำดูปะการังได้ ข้างล่างสวยมากๆค่ะ แม้ว่าจะก้มลงไปครั้งแรก กินน้ำทะเลจนแสบคอก็ตาม แต่ไกด์ก็พยายามช่วยจนที่สุด สามารถก้มหน้าดูใต้ทะเลได้ แบบปกติเหมือนคนอื่นๆ อันนี้ชื่นชมและขอบคุณไกด์มากๆ น้องชื่อไกด์เจนนี่นะคะ แล้วน้องก็พาทัวร์แท็กซี่ ( การลากไปโดยให้เราเกาะแผ่นยาง) สำหรับคนที่ว่ายน้ำไม่เป็นแบบเรา มันดีมากจริงๆนะ อันนี้ต้องชื่นชมบริการนี้เลยค่ะ เราก็ดำน้ำดูปะการังจนหมดเวลา ไกด์เรียกขึ้นเรือ ไปยังจุดสุดท้าย ที่เป็นซิกเนเจอร์ของหมู่เกาะสิมิลัน
ลงดำน้ำกัน
หลังจากดำน้ำในจุดที่ 2 เรียบร้อยแล้ว พี่ไกด์ทัวร์ก็พาเราขึ้นฝั่งไปยังเกาะ 8 หรือ เกาะสิมิลัน ที่เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะ ซึ่งเป็นไฮไลท์ของการมาสิมิลันในครั้งนี้ นั่นก็คือ หาดที่มีหินเรือใบ ตามที่เห็นในทุกรีวิวนั่นเองค่ะ
เมื่อลงเกาะแล้ว เราสามารถเลือกได้เลยว่าจะพักผ่อน อยู่ที่ริมหาด เล่นน้ำสบายๆ อยู่หน้าหาดก็ได้ แต่เราชอบความลำบากค่ะ ฮ่าๆ เราและเพื่อนๆ ก็เลือกเดินทาง ขึ้นไปยังจุดชมวิวหินเรือใบกันก่อนค่ะ ไปเก็บภาพวิวธรรมชาติ ของเกาะกันก่อน แล้วค่อยลงมาเล่นน้ำหน้าหาด
การขึ้นไปใช้เวลาประมาณ 15 นาที ต้องขอบอกก่อนว่า ใครจะขึ้นไป ก็เตรียมฟิตขา ไว้หน่อยก็ดี เพราะสำหรับคนที่ไม่ออกกำลังกายแบบเรา และต้องแบกเป้ขึ้นไปด้วย หอบเลยค่ะ บรรยากาศทางขึ้น ไม่ร้อน แต่ค่อนข้างชัน ผ่านการลอดทางแคบๆ บันไดไม้ด้วย เหมาะสำหรับสายลุยๆ เป็นอย่างมาก วิวทิวทัศน์สวยงามมาก ท้องฟ้าสดใส น้ำทะเลก็สีสวยมากๆ เพอร์เฟ็กไปหมด
ลูกทัวร์แต่ละท่าน ก็โพสต์ท่าถ่ายกับวิวกันสุดฤทธิ์ ท่ามกลางแสงแดดช่วงบ่าย แนะนำให้ใส่ถุงเท้าด้วยนะ เพราะร้อนเท้ามากจ้า ส่วนเราน้องๆไกด์ ช่วยถ่ายรูปกับวิวให้ ได้ภาพออกมาสวยเชียว แต่เราช่างเป็นผู้หญิงที่โพสต์ท่าไม่เป็นเอาซะเลย สาวๆคนไหนไม่เก่งเรื่องแบบนี้ เตรียมท่าโพสต์สวยๆ มาด้วยก็ดีนะคะ
หลังจากเราถ่ายรูป เก็บcontent เรียบร้อย ก็รีบลงจากจุดชมวิวมาเลยค่ะ ตอนนั้นคือเพื่อนเราหายไปแล้วค่ะ ต่างคนต่างเดินไปถ่ายรูปจนหลงกัน ทางลงจะเป็นคนละทางกับทางขึ้นค่ะ สบายกว่าด้วย เมื่อเราลงมาถึง คือ เพื่อนรออยู่ข้างล่างแล้วค่ะ นางบอกนางร้อนเลยรีบลงมา
จากนั้นเราก็ไปถ่ายรูป เล่นน้ำกันที่หน้าหาดกันต่อค่ะ น้ำหน้าหาด คือ ใสมาก เป็นสีฟ้าตามรูปเลยค่ะ เล่นน้ำได้แปปเดียวค่ะ ก็ถีงเวลาเดินทางกลับกันแล้ว ทริปนี้ถือว่าทั้งสนุก ทั้งเหนื่อย และ อิ่มค่ะ เพราะของกินเยอะมากทั้งทริป
เราเดินทางกลับถึงท่าเรือ ประมาณ 4 โมง ครึ่งค่ะ ลงเรือแล้วก็ไปรับรองเท้าที่ฝากไว้ เลือกคู่ที่ใช่นะคะ ไม่ใช่คู่ที่ชอบ กลับถึงสำนักงานท่าเรือ ทางท่าเรือ ก็เตรียมภาพถ่ายใส่กรอบไว้รอลูกทัวร์แล้วค่ะ รูปไหนสวยก็สามารถ ซื้อเป็นของที่ระลึกกลับบ้านได้เลย ชิ้นละ 200 บาท ค่ะ เราซื้อมา 1 ชิ้นค่ะ รูปนี้เลย
จากนั้นเราก็ไปเข้าห้องน้ำ อาบน้ำนิดหน่อย แต่ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน เสียดายมากค่ะ เพราะชุดที่ใส่ไปยังไม่แห้ง ใครมาทริปนี้เตรียมชุดมาเปลี่ยนก็ดีนะคะ ตอนกลับจะได้นั่งรถสบายๆ ไม่อึดอัด
สำหรับตอนเย็น ก็มีบุฟเฟ่ให้ทานค่ะ ก็จะมีส้มตำ ไก่ทอด ข้าวเหนียว บาร์บีคิวไก่ และหมี่ผัด ส่วนตัวกินไก่ทอด บาร์บีคิวไก่ และหมี่ผัดค่ะ อร่อยมาก จนต้องเบิ้ลสองจาน และก็มีไอศรีมกะทิ ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่เลยนะคะ อร่อยมาก หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ รถรับส่งก็จะรอรับอยู่แล้ว ซึ่งกลับคันเดิมที่มารับเราค่ะ เรากินเพลิน ขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายเลยค่ะ หลังจากนั้นก็เดินทางกลับไปยังภูเก็ต จบทริปการเดินทางในวันนี้ค่ะ
สำหรับการเตรียมตัวไปเที่ยวสิมิลัน คำแนะนำจากเรา ก็คือ
- เตรียมถุงเท้าไปด้วย
- เตรียมเสื้อผ้าไปเปลี่ยน 1 ชุด
- เตรียมท่าโพสต์ไปด้วย
- หมวก แว่นกันแดด
- ทานยาเมาเรือก่อนขึ้นเรือ(ที่ท่าเรือมีเตรียมให้)
- เตรียมซองกันน้ำสำหรับใส่มือถือ หากต้องการเอาไปถ่ายใต้น้ำ + สะดวกในการใช้งาน
- เตรียมเคสกันน้ำ หากใช้กล้อง Gopro หรือ กล้อง Action camera
- เตรียมฟิตร่างกาย เพื่อขึ้นจุดชมวิว
- ใช้กระเป๋าเป้ สะดวกที่สุด ถ้าต้องใส่ของเยอะๆ
- พักผ่อนให้เยอะๆ ก่อนจะไปทริป เพราะ จะได้เที่ยวสนุกมากขึ้น
อยากจะบอกว่า ทริปนี้ดีต่อใจมาก เพราะ ไม่ได้เที่ยวทะเลน้ำสีสวยๆ แบบนี้มาสักพักใหญ่ๆ แล้ว แม้จะเป็นการพักผ่อนที่ผจญภัยไปหน่อย แต่ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ที่ได้ลองไปในที่ใหม่ๆ บ้าง ท้าทายตัวเองกับเรื่องการดำน้ำบ้าง เป็นอะไรที่สุดๆ ไปเลยค่ะ การดำน้ำดูประการัง เป็นประสบการณ์ที่ใครไม่เห็นด้วยตาจะไม่เข้าใจเลยนะ ว่าความสวยของใต้ท้องทะเล มันดีมากจริงๆ ใครยังไม่เคยเจอประการณ์แบบนี้ เราขอแนะนำให้จัดทริปมาสักครั้งนะคะ รับรองไม่มีผิดหวัง
แพคเกจเราจะรวม
- อาหาร 3 มื้อ
- อุปกรณ์ดำน้ำ
- ผ้าเช็ดตัว
- ประกันคุ้มครองอุบัติเหตุสูงสุด 1 ล้านบาท
- หน้ากากดำน้ำ
- ตีนกบ ฟิน
- ผ้าเช็ดตัว
- อาหารว่างและผลไม้
- เครื่องดื่มตลอดทริป (น้ำดื่มและน้ำอัดลม)
รถรับส่ง โซนภูเก็ต ท่านละ 300 บาท | โซนเขาหลัก 100 บาท
ทริปหน้าจะไปทีไหนกันอีก ไว้จะมาแชร์ให้ฟังกันอีกนะคะ เจอกันทริปหน้าค่ะ
เพจ Facebook Sunny Sea tour : https://www.facebook.com/sunnyseatour
#เที่ยวทะเล #สิมิลัน #เที่ยวสิมิลัน #เที่ยวภูเก็ต #ดำน้ำภูเก็ต #ดำน้ำสิมิลัน #หมู่เกาะสิมิลัน
- เรื่องโดย สาวน้อยร้อยสกิล
- ภาพปกและภาพในบทความทั้งหมด โดยผู้เขียน
อยากไปเที่ยวไหนหรือเปล่า? หาข้อมูลที่เที่ยวสุดปังได้ที่ App TrueID โหลดเลย ฟรี !
สวัสดีทุกท่านค่ะ เราเองเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนนึง ที่รักในการเขียนบทความ และรักในการอธิบายให้เหตุผลกับ
ความคิดเห็น