ไลฟ์แฮ็ก
ทวงหนี้อย่างไร ไม่ให้มิตรภาพพัง

เศรษฐกิจยุคนี้ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ เงินทองเป็นของหายาก การจ้างงานก็ลดน้อยถอยลง เงินในกระเป๋าก็ร่อยหรอลงไปทุกที คนส่วนใหญ่จะทำยังไงกัน ทางเลือกที่จำเป็นก็ต้องกู้หนี้ยืมสิน กู้เงินมาก่อนเพื่อแก้ปัญหาภาระการจับจ่ายใช้สอย ค่าครองชีพ หรือเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ทำยังไงได้ทุกคนก็ต้องดิ้นรนเอาตัวรอดกันไปให้ได้ ส่วนหลาย ๆ คนที่พอมีเหลือกินเหลือใช้ หากเพื่อนฝูงลำบากมาขอหยิบยืมเงินก็อดเห็นใจไม่ได้ ก็ให้ยืมไป ถึงเวลาจำเป็นต้องใช้เงินบ้าง พอจะทวงเงินคืนก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องลำบากใจ แถมบางทีไม่กล้าทวง ทั้ง ๆ ที่เป็นเงินของเราเองแท้ ๆ กลัวว่ามิตรภาพมันจะเปราะบางกันไปก็มี

การทวงหนี้จึงนับเป็นศิลปะการพูดการกระทำแขนงนึงเลยก็ว่าได้ ที่ต้องทั้งทวงเพื่อให้ได้เงินคืนและยังต้องไม่ทำให้เสียน้ำใจต่อกัน ก่อนอื่นก็ต้องศึกษา ทำความรู้จักกันก่อนว่าลูกหนี้ของเรานั้นเป็นคนแบบไหน เรามาเริ่มต้นที่ตรงนี้กันก่อนดีกว่านะ
Advertisement
Advertisement
ลูกหนี้ตัวพ่อและตัวแม่ เป็นลูกหนี้ที่กล้าเอ่ยปากยืมเงินคนใกล้ตัว กู้แบงก์ หรือแหล่งเงินกู้ต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว บางทีอาจจะมีวิธีคิดว่าการมีหนี้คือการมีเครดิตก็ได้ ทำให้มีหนี้ต่อเนื่อง สร้างหนี้ต่อไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดว่าเป็นปัญหาต่อการใช้ชีวิต
มือใหม่หัดเป็นหนี้ ลูกหนี้ที่ต้องการความสะดวกสบายในชีวิต เริ่มต้นง่าย ๆ จากการเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้เงินผ่อนต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ตู้เย็น ทีวี ฯลฯ เดี๋ยวนี้มีอุปกรณ์ไอทีต่าง ๆ ออกมายั่วน้ำลายเยอะแยะไปหมดด้วย หรือหากอยู่ในระยะเริ่มต้นการสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะมีหนี้ผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ ลูกหนี้มือใหม่แบบนี้จะมีทัศนคติที่ไม่อยากเป็นหนี้อีก และมักจะตั้งเป้าว่าเมื่อผ่อนชำระหมดแล้ว ชีวิตนี้จะไม่ยอมเป็นหนี้อีกต่อไป
ลูกหนี้จำเป็น ส่วนใหญ่เป็นหนี้เพราะเกิดจากเหตุฉุกเฉิน จึงไม่ค่อยกล้ายืมเงิน ทำให้เกิดภาวะกดดันต่อตัวเองรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากลำบากในชีวิตที่เอ่ยปากขอยืมเงินจากใคร แม้ว่าจะสนิทแค่ไหนก็ตามที
Advertisement
Advertisement

เมื่อเราแยกประเภทลูกหนี้ให้เห็นลักษณะนิสัยและแต่ละกลุ่มมีเหตุผลในการขอยืมเงินยังไงแล้ว ก็ต้องคิดกันต่อว่าแล้วเราจะทวงเงินยังไงเพื่อจะได้เงินคืนและยังรักษามิตรภาพเอาไว้ได้ด้วย มันต้องมีวิธีที่จะทำได้อยู่แล้ว ต้องมาลองดูก่อนว่าวิธีไหนที่น่าจะใช้ได้และน่าจะเหมาะกับลักษณะนิสัยเจ้าหนี้อย่างคุณ
อย่างแรกต้องคอยปลุกปลอบความกล้าหาญของตัวเอง ต้องใจแข็ง และย้ำไปว่านี่มันเงินของฉันเองนะ ไม่ว่าคนที่ยืมจะเป็นเจ้านาย เพื่อนฝูง ญาติ คนรัก อย่างแรกที่ต้องทำให้ได้คือเลิกคิดเรื่องเกรงใจ ไม่ต้องกลัวว่าเขาโกรธ หรือถ้ากลัวจะเสียมิตรภาพ และเงินไม่มากเกินไปแล้วคิดว่าทวงแล้วไม่คุ้มกับความรู้สึกที่จะเสียไป อาจจะต้องเลือกปล่อย และคิดว่าครั้งเดียวช่างมัน แต่ถ้าเงินจำนวนมากล่ะ ก็ต้องตัดสินคิดกันเสียใหม่แล้วล่ะ
ขอบคุณภาพจาก pxhere
Advertisement
Advertisement
สิ่งหนึ่งคือเราต้องบอกตัวเองเสมอว่า ต้องให้เกียรติลูกหนี้ทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะว่าการเป็นลูกหนี้ไม่ได้ทำให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเขาถูกลดทอนลงไปด้วย หากจะทวงเงินก็ควรจะทวงกันเป็นการส่วนตัวและด้วยความสุภาพ แต่ต้องให้เขาตระหนักรู้ด้วยว่าถึงเวลาที่เขาต้องคืนเงินเราแล้ว ดูช่วงเวลา บรรยากาศ หรือจังหวะ และอาจต้องชื่นชมความสามารถของเขา เพื่อเป็นการให้กำลังใจว่าเขามีความสามารถที่จะใช้หนี้คืนได้แน่ ๆ
ขอบคุณภาพจาก pxhere
เราต้องอดทนที่จะคอยย้ำเตือนว่าเขายังต้องคืนเงินเรา บอกย้ำความจำเป็นที่เราจะต้องใช้เงิน และเดือดร้อนยังไง และเราไม่ควรใช้วิธีลดหนี้เพราะกลัวว่าจะไม่ได้เงินคืน เราควรยื่นข้อเสนอที่ทำให้สบายใจ เช่น ให้โอกาสและขยายเวลาในการใช้หนี้คืนและกำหนดเวลาให้แน่นอน หรือถ้าไม่ไหวจริง ๆ ก็ให้แบ่งจ่าย แต่ถ้าทำทุกวิธีแล้วไม่สำเร็จอาจต้องหาตัวช่วย เช่น คนที่ลูกหนี้เกรงใจ เคารพ เช่น พ่อ แม่ เพื่อนสนิท มาช่วยเกลี้ยกล่อม
หากหมดหนทางจริง ๆ และไม่ยอมให้เป็นหนี้สูญก็ให้พึ่งกฎหมาย โดยต้องมีหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่เป็นลายลักษณ์อักษร เช่น สัญญาเงินกู้ email โต้ตอบการทวงเงิน โดยเราต้องคุยกับเขาก่อนว่าเราผิดหวังในตัวเขามากแค่ไหน และจะทำอะไรต่อไป
ขอบคุณภาพจาก pxhere
การทวงหนี้จริง ๆ นั้นไม่มีสูตรตายตัวหรอกนะ และบอกไม่ได้ด้วยว่าวิธีไหนจะดีที่สุดสำหรับใคร แต่หากเราอยากรักษามิตรภาพที่ดีไว้ก็อย่าได้ยืมเงินกันจะดีที่สุด หรือหากคุณอยู่ในสถานะลูกหนี้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือไม่ควรหลบหน้าเจ้าหนี้ อย่าได้ทำเพิกเฉย ควรพูดคุยเจรจาและรีบหาเงินมาคืนให้เร็วที่สุดเพราะมิตรภาพเกิดจากความจริงใจและต้องใช้เวลา อย่าให้มิตรภาพต้องมาพังทลายลงเพราะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เลย
ขอบคุณภาพจาก pxhere
ความคิดเห็น






