อื่นๆ
ทำไม? คนถึงชอบภาพโมนาลิซา
ขอบคุณภาพจาก Thomasstaub / Pixabay
หากพูดถึงภาพวาดที่ทุกคนรู้จักกันมากที่สุดในโลก เชื่อว่าหลายคนคงนึกถึงภาพวาด “โมนา ลิซา” เป็นแน่
โมนา ลิซา เป็นภาพวาดสีน้ำมัน ของศิลปินชื่อก้องโลกนาม เลโอนาร์โด ดา วินชี ด้วยรูปของสุภาพสตรีที่มีรอยยิ้มอันเป็นปริศนา ที่ไม่รู้ว่าเธอกำลังยิ้ม หัวเราะ หรือร้องไห้กันแน่ ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างสนใจ และตีความกันไปต่างๆ นานาว่า ดา วินชี ซ้อนนัยยะแฝงอะไรไว้ลงในภาพ
ขอบคุณภาพจาก WikiImages / Pixabay
แต่กว่าภาพ โมนาลิซา จะโด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่างทุกวันนี้ เชื่อหรือไม่ว่าสมัยก่อน ภาพวาด โมนาลิซา กลับไม่ได้โด่งดังอะไรเลย แม้จะเป็นผลงานของ ดา วินชี ภาพไม่ได้ถูกยกย่อง หรือให้ความสำคัญ แถมยังถูกละเลยมองข้ามไปด้วยซ้ำ
และอะไรถึงทำให้ภาพ โมนาลิซา โด่งดังขึ้นมา?
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1911 ภาพโมนาลิซา ได้ถูกนำมาจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ พื้นที่จัดแสดงของภาพไม่ได้พิเศษไปกว่างานศิลปะชิ้นอื่นใดๆ และช่างภาพ หรือคนงานสามารถเดินมายกภาพวาดไปถ่ายรูปในสตูดิโอของพิพิธภัณฑ์กันได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องแจ้งอะไร เมื่อถ่ายรูปเสร็จก็จะยกกลับมาแขวนไว้ดังเดิม ทำให้บางครั้งภาพวาดหายไปจากที่จัดแสดงจึงเป็นเรื่องปกติ
Advertisement
Advertisement
จนมาวันหนึ่งมีชายชาวอิตาลีนามว่า วินเซนโซ เปรูจา เขาเคยทำงานเป็นช่างติดกระจกงานศิลปะให้กับทางพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ภายหลังจึงได้ออกจากงานที่พิพิธภัณฑ์ไป แต่ตัวเขามีความเชื่อว่า ภาพวาดโมนาลิซา ถูกนโปเลียนปล้นไปในช่วงยกทัพบุกมาอิตาลี เขาจึงมีความคิดว่ากรรมสิทธิ์จริงๆ ของภาพวาดโมนาลิซาควรเป็นของคนอิตาลี
เขาจึงได้วางแผนโจรกรรมภาพวาดโมนาลิซาโดยอาศัยการที่เขาเคยทำงานที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์มาก่อน ทำให้เข้าใจลู่ทางภายในพิพิธภัณฑ์ เข้าใจพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ภายในว่าทำงานยังไง จนรู้จุดบอด
เขาเลือกวันก่อนที่พิพิธภัณฑ์จะหยุดหนึ่งวันและแต่งตัวใส่เสื้อคลุมสีขาวเหมือนเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์ ก่อนจะเข้าไปซ่อนตัวอยู่ภายใน ก่อนที่พิพิธภัณฑ์จะปิดเปรูจาใช้เวลาในช่วงที่พิพิธภัณฑ์ปิดงัดแงะเอาภาพวาดโมนาลิซาออกมาจากกรอบ แล้วซ่อนตัว รอเวลาที่พิพิธภัณฑ์เปิด เขาก็ซ่อนภาพวาดไว้ในเสื้อเดินออกจากประตูตามปกติอย่างง่ายดาย
Advertisement
Advertisement
และที่น่าแปลกใจยิ่งกว่าคือ บรรดาเจ้าหน้าที่ บรรณารักษ์ที่อยู่ในพิพิธภัณฑ์ไม่มีใครสังเกตเลยว่า ภาพโมนาลิซา ได้ถูกขโมยหายไปแล้ว จนเวลาล่วงเลยเข้าสู่วันที่สอง ถึงได้มีเจ้าหน้าที่เอะใจว่า ภาพโมนาลิซาที่เคยถูกแขวนอยู่บนผนัง บัดนี้เหลืออยู่แต่กรอบรูปเท่านั้น
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเช็คกับทางศิลปิน ผู้ดูแลต่างๆ ว่ามีใครหยิบภาพไปถ่ายในสตูดิโอไหม แต่ก็ไม่มีใครทราบจนสรุปได้ว่าภาพได้ถูกขโมยหายไปแล้ว
ทางพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้แจ้งตำรวจให้ตามหาภาพวาดกลับมาให้ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาทำการสืบสวน และสงสัยในตัวกลุ่มศิลปินโมเดินนิสต์ ผู้ที่มีแนวคิดต่อต้านศิลปะแบบเก่าอาจเป็นผู้ก่อเหตุเพื่อนำภาพวาดไปทำลาย และหนึ่งในศิลปินโมเดิร์นที่ตำรวจสงสัยก็คือ “ปาโบล ปิกัสโซ”
ปาโบล ปิกัสโซ คือ ศิลปินผู้ทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งในโลก ตำรวจสงสัยเขาด้วยเพราะมีแนวคิดทางศิลปะที่ขัดแย้งกับรูปแบบเดิมๆ อีกทั้งยังเป็นคนใกล้ชิด กับกลุ่มศิลปินหัวรุนแรงที่เคยมีประวัติในการขโมยงานศิลปะในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ปิกัสโซ ให้ปากคำว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ การการโจรกรรมภาพโมนาลิซา อีกทั้งฝ่ายตำรวจเองก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะโยงไปถึง ปิกัสโซ ได้เลย ข้อสันนิษฐานนี้จึงมีอันตกไป
Advertisement
Advertisement
จากการที่ภาพวาด โมนาลิซา ถูกขโมยหายไปในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติของฝรั่งเศสก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีผู้ต้องสงสัยโยงไปถึงศิลปินอย่าง ปิกัสโซ และศิลปินโมเดิร์นคนอื่นอีกหลายคนทำให้ผู้คนต่างให้ความสนใจกับข่าวนี้มาก จากภาพวาดที่ไม่มีใครสนใจ กลายเป็นมาสนใจ กลายเป็นมาติดตาม จากภาพที่คนไม่รู้ว่าหน้าตามันเป็นยังไง กลายเป็นภาพวาดที่ติดตาคนไปทั่วโลก
กระแสภาพวาด โมนาลิซา จึงได้ถูกจุดขึ้นมานับแต่นั้น
ขอบคุณภาพจาก Zach Dyson / Unsplash
ด้าน เปรูจา เมื่อขโมยภาพ โมนาลิซา ออกมาได้แล้วก็ต้องเก็บตัวอยู่เงียบๆ ถึงสองปี ด้วยเพราะกระแสข่าวภาพโมนาลิซาหาย มันโด่งดังไปทั่วโลก ทำให้คนหันมาสนใจ การที่เขาจะเอาภาพไปขายทันทีเลยย่อมเป็นเรื่องยาก เปรูจา จึงรอให้ข่าวเริ่มซา แล้วติดต่อหานายหน้าค้าขายงานศิลปะที่อิตาลี เพื่อหาเงินเข้าตัวเอง และเขาต้องการให้ภาพวาดโมนาลิซา อยู่ในมือของคนอิตาลี เพราะเขาเชื่อว่ากรรมสิทธิ์ภาพวาดชิ้นนี้เป็นของคนอิตาลี ก่อนที่กษัตริย์นโปเลียนจะยกกองทัพมาปล้นไปไว้ที่ฝรั่งเศส
แต่ความจริงแล้ว ในบั้นปลายชีวิตของ ดาวินชี ได้ย้ายไปทำงานอยู่ที่ฝรั่งเศส และได้นำภาพวาดโมนาลิซามอบให้กับกษัตริย์ฝรั่งเศสในสมัยนั้น ฝรั่งเศสจึงมีสิทธิ์ในภาพวาดโมนาลิซาโดยชอบธรรม
นายหน้าอิตาลีตอบรับการขายภาพวาดของเปรูจาและนัดหมายเพื่อทำการซื้อขายทางฝ่ายนายหน้าเมื่อได้เห็นภาพโมนาลิซา แล้วก็ได้ขอเวลาทำการตรวจสอบภาพวาดก่อนว่ามันเป็นของแท้จริงหรือไม่ ด้านเปรูจาก็ยินยอมแต่โดยดีแต่ในช่วงเวลาที่รอการตรวจสอบยืนยันภาพวาดนั้น ตำรวจก็ได้บุกเข้าจับตัว เปรูจา ทันทีด้วยเพราะทางนายหน้าได้ติดต่อแจ้งความกับตำรวจไว้ก่อนแล้ว
เปรูจา ถูกจับติดคุก แต่ทางประชาชนอิตาลีบางส่วนกับยกย่องวีรกรรมของเปรูจาราวกับว่าเป็นฮีโร่ในการนำสมบัติของชาติคืนกลับมาแผ่นดินเกิดอีกครั้ง ภาพโมนาลิซา ถูกจุดกระแสให้เป็นข่าวดังขึ้นมาอีกรอบ ภาพโมนาลิซา ก็ได้ถูกนำไปจัดแสดงที่ ฟลอเรนซ์ ให้คนในอิตาลีได้ชื่นชม ในระยะเวลาสั้นๆ ก่อนที่จะถูกส่งคืนให้กับทางพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์
ภาพหลังจากที่ทางพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ได้ภาพวาดโมนาลิซากลับคืนมาก็นำภาพไปติดกระจกสูญญากาศกันกระสุน พร้อมระบบป้องกันอย่างดี และหาพื้นที่จัดแสดงใหม่ เป็นที่สำหรับภาพโมนาลิซา โดยเฉพาะเพราะมีคนให้ความสนใจจำนวนมาก ในช่วงที่ภาพถูกขโมย ชาวฝรั่งเศสที่ไม่เคยสนใจภาพนี้มาก่อน ก็ยังเดินทางมายังพิพิธภัณฑ์เพียงเพื่อจะมาดูกรอบรูปอันว่างเปล่าที่มีแต่ตะขอเกี่ยว เมื่อได้ภาพกลับมาแขวนแล้วก็ยิ่งทำให้คนสนใจมาดูภาพวาดตัวเป็นๆ มากขึ้นไปอีกโมนาลิซาจึงกลายเป็นไฮไลท์ที่สำคัญที่สุดในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ทันที
ขอบคุณภาพจาก Alicia Steels / Unsplash
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวลูฟร์ต่างก็ต้องการจะมาดูภาพโมนาลิซากันจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชม เพื่อดูภาพโมนาลิซาในแต่ละปีสูงถึง 10 ล้านคน
ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิดอย่างมากว่าหาก เปรูจา ไม่ได้ขโมยภาพวาดโมนาลิซาไปจะยังมีคนมาดูภาพวาดเยอะขนาดนี้ไหม? และภาพวาดชิ้นนี้จะทำให้คนรู้จักได้มากขนาดนี้หรือไม่?
เราสนใจสิ่งใดก็ตามเพราะว่าเราชอบมันจริงๆ หรือเราแค่สนใจเพราะมันเป็นกระแสตามคนอื่น?
ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่ตอบคำถามนี้ได้...
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
เพราะโลกไม่เคยหยุดหมุน..เวลาไม่เคยหยุดเดิน..คนไม่เคยหยุดนิ่ง..เราจึงมา "ปั่นเรื่อง เป็นภาพ" กัน
ความคิดเห็น