ไลฟ์แฮ็ก
ทำไมฉันขี้เกียจจัง 7 วิธีเลิกขี้เกียจ
พวกเราส่วนใหญ่นั้นขี้เกียจ อย่างน้อยก็ในบางจุด แน่นอนว่านี่เป็นเรื่องปกติ และความขี้เกียจก็เป็นปัญหาเช่นกัน หากคุณรู้สึกขี้เกียจและไร้แรงจูงใจ คุณจะไม่ดำเนินการใดๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้นคุณอาจประสบปัญหาในการดำเนินชีวิตส่วนตัวและในอาชีพการงานของคุณ โชคดีที่มีวิธีหลายอย่างที่สามารถช่วยให้คุณเอาชนะความขี้เกียจที่เกิดขึ้นได้ และนี่คือวิธีที่ช่วยให้คุณเลิกขี้เกียจได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
1. เรียนรู้ที่จะยอมรับความขี้เกียจของตัวเอง
วิธีที่จะกำจัดสภาวะความขี้เกียจนี้คือการเรียนรู้ที่จะยอมรับความขี้เกียจของคุณเอง เพราะเป็นเรื่องปกติและเป็นเรื่องธรรมชาติที่จะรู้สึกว่าคุณขี้เกียจอยู่ตลอดเวลาให้คุณยอมรับมันและหาสาเหตุว่ามันเกิดจากอะไรที่ทำให้คุณขี้เกียจ 
2. รู้ที่มาของความขี้เกียจ
ให้คุณหาที่มาของความขี้เกียจของคุณให้เจอบางทีมันอาจมาจากการที่คุณทำงานหนัก เหนื่อยกับงาน หรือจากคนรอบๆ ข้างของคุณ ถ้าคุณพบว่าอะไรที่ทำให้คุณขี้เกียจและไร้แรงจูงใจ คุณสามารถหาวิธีป้องกันหรือบรรเทาผลกระทบของมันได้
Advertisement
Advertisement
3. ทำลายนิสัยส่วนตัวของคุณ
ในหลายกรณี ความขี้เกียจเป็นผลพลอยได้จากนิสัย ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณพบว่าตัวเองขี้เกียจ คุณสามารถลดความขี้เกียจได้โดยการทำลายนิสัยประจำวันของคุณ ที่ส่งผลทำให้คุณขี้เกียจ เช่นตื่นให้เช้ากว่าปกติ ทำงานให้เร็วกว่าปกติ ก็ช่วยให้คุณเลิกขี้เกียจได้เช่นกัน
4. ตั้งเป้าหมายที่สมเหตุสมผลมากขึ้น
บางครั้งคนขี้เกียจเพราะเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับตนเองนั้นน่ากลัวเกินไป ตัวอย่างเช่น สมมติว่าอากาศร้อนมากและคุณตั้งเป้าหมายที่จะวิ่งกลางแจ้ง 10 กิโลเมตร แม้แต่นักวิ่งมืออาชีพก็เป็นเป้าหมายที่สูงมาก ตามธรรมชาติแล้วคุณจะผัดวันประกันพรุ่งและกลัวที่จะเริ่มฝึก แต่ถ้าคุณลดเป้าหมายลงเหลือ 2 กิโลเมตรล่ะ จะทำให้มีอยากที่จะวิ่งได้ง่ายขึ้น และ 2 กิโลเมตรย่อมดีกว่า 0 กิโลเมตรอย่างแน่นอน ให้คุณใช้เกณฑ์เป้าหมาย SMART เพื่อกำหนดเป้าหมายที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณเอง หากคุณรู้สึกไม่มีแรงจูงใจ อย่ากลัวที่จะลดความใหญ่โตของเป้าหมายลง
Advertisement
Advertisement
5. ทำสิ่งเล็ก ๆ ให้สำเร็จ
ถ้าคุณมั่วแต่รอทำแต่เป้าหมายใหญ่ของคุณ คุณก็จะขี้เกียจและไม่อยากทำมัน ให้คุณทำสิ่งเล็กๆ ให้สำเร็จ เพราะความรู้สึกของความสำเร็จเป็นแรงจูงใจที่ยิ่งใหญ่ หากคุณสามารถทำอะไรบางอย่างให้สำเร็จและรู้สึกดี พลังงานเชิงบวกนี้จะช่วยให้อยากพยายามทำสิ่งต่างๆ ต่อไป แม้ว่าจะเป็นสิ่งที่คุณกลัวที่จะทำก็ตาม หากคุณพบว่าตัวเองมีความขี้เกียจ ให้หาอะไรทำที่ทำให้คุณรู้สึกดี แม้ว่านั่นจะหมายถึงการเบี่ยงเบนจากเป้าหมายปกติของคุณก็ตาม
6. ใช้ประโยชน์สูงสุดจากความขี้เกียจของคุณ
บางครั้งความขี้เกียจก็ไม่เป็นไรหรืออาจจะดีด้วยซ้ำ เมื่อคุณตัดสินใจที่จะขี้เกียจ ให้คุณคลายความกดดันจากการทำงาน จงใช้มันให้คุ้มค่าที่สุด ตัวอย่างเช่น หากคุณพบว่าคุณไม่มีแรงจูงใจในการทำงานเลย ให้คุณลาหยุดงานสักสองสามวัน ในระหว่างที่คุณลาหยุดให้คุณปลดเปลื้องความรับผิดชอบทั้งหมดได้ จากการศึกษาพบว่าการพักผ่อนและการลาพักร้อนส่งผลดีต่อประสิทธิภาพในการทำงานและยังทำให้มีความความสุขด้วยนะ
Advertisement
Advertisement
7. ตั้งรางวัลให้ตัวเอง
พวกเราส่วนใหญ่จะพบว่าเมื่อเราสิ้นสุดการเดินทางที่น่ากลัว เราจะมีแรงจูงใจมากขึ้นหากเราได้รับรางวัล ครั้งต่อไปที่คุณรู้สึกว่าตัวเองขี้เกียจหรือไม่มีแรงจูงใจเมื่อเผชิญกับงานยาก ให้วางแผนให้รางวัลกับตัวเอง คุณสามารถให้รางวัลตัวเองได้ด้วยของว่าง หรือเพียงแค่นั่งพักสมองเฉยๆ ก็ได้
มีหลายเหตุผลอย่างยิ่งที่จะรู้สึกขี้เกียจในบางช่วงเวลาหรือเกือบตลอดเวลา อย่างไรก็ตามอย่าให้ความขี้เกียจของคุณไปขัดขวางไม่ให้คุณบรรลุผลที่คุณต้องการหรือบรรลุเป้าหมายที่คุณต้องการ เลือก 7 วิธีเลิกขี้เกียจที่เหมาะกับคุณและนำไปปรับใช้กับชีวิตประวันของคุณ
ติดตามบทความดีๆ อื่นได้ที่ วันไหนๆ ก็เป็นวันที่ดีได้
เครดิตภาพ
- ภาพปก โดย mohamedhassan จาก pexels.com
- ภาพที่ 1 โดย cdd20 จาก pixabay.com
- ภาพที่ 2 โดย mohamedhassan จาก pixabay.com
- ภาพที่ 3 โดย jeshoots จาก pixabay.com
- ภาพที่ 4 โดย wpaczoch จาก pixabay.com
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
any day can be a good day ไม่มีวันไหนที่แย่ทุกวัน ไม่ว่าวันนั้นจะแย่แค่ไหนตาม ก็มักมีเรื่องราวที่ดีเ
ความคิดเห็น
