ทุกคนก็สวมหน้ากากเข้าหากัน

          ในสังคมปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้เลยว่าคนทุกคนล้วนแล้วแต่สวมหน้ากากเข้าหากันทั้งนั้น แต่ต่างคนก็ต่างมีเหตุผลหรือเจตนาที่แตกต่างกันออกไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าการสวมหน้ากากของคนในสังคมจะมีเจตนาที่ไม่ดีเพียงอย่างเดียว บางคนสวมหน้ากากเพียงเพื่อปกป้องตนเองหรือบางคนก็สวมไว้เพื่อปกป้องคนที่รัก ต่างคนก็ต่างเหตุผลกันออกไป

ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay

          แต่ถ้าให้พูดแบบเหมารวมแล้วทุกคนก็สวมหน้ากากเพื่อปกป้องตัวเองเป็นพื้นฐานกันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเจตนาที่ดีหรือไม่ดี ทุกคนก็อยากให้คนอื่นเห็นมุมมองของตนเองในแบบที่อยากให้เห็น บางคนอยากดูดีก็สวมหน้ากากให้ตนดูดี บางคนอยากดูน่าสงสารก็สวมหน้ากากให้ตนดูน่าสงสาร ส่วนใครจะแสดงออกหรือสวมหน้ากากแบบไหนก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของบุคคลนั้นๆ มันเป็นเหมือนการสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเองเพื่อที่จะเผชิญหน้ากับสังคม

          แต่ในทางกลับกันบางคนกำลังสวมหน้ากากเพื่อกำลังเก่งแย่งชิงดีชิงเด่น อยากให้ทุกคนมองว่าตัวเองดี ไม่อยากเป็นคนเลวในสายตาใครทั้งๆ ที่ใบหน้าที่แท้จริงกำลังยิ้มที่แฝงไปด้วยความชั่วร้าย แต่กลับสวมหน้ากากให้หน้าตาตัวเองเหมือนใสซื่อบริสุทธิ์ บุคคลแบบนี้เราพบได้ทั่วไปในสังคมทุกสังคมทุกสถานที่ทำงาน และเป็นหน้ากากประเภทแรกเลยที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงคนที่กำลังสวมหน้ากาก

          และนอกจากหน้ากากของตัวตนที่แต่ละคนสร้างขึ้นในชีวิตจริงก็มียังการสวมหน้ากากแบบสัมผัสได้ด้วย แต่หน้ากากแบบนี้ในความรู้สึกมันช่างต่างกับหนังฮีโร่ที่พระเอกจะสวมหน้ากากเพื่อไปผดุงความยุติธรรม คนส่วนใหญ่คงไม่มองอย่างนั้นเป็นแน่ เพราะถ้าเราเห็นคนสวมหน้ากากเราจะมองว่า ไอ้คนนั้นต้องเป็นโจรแน่ๆ หรือต้องวางแผนทำอะไม่ดีอยู่เพราะคนดีๆ เขาไม่ใส่หน้ากากเดินไปมาในสังคมหรอก นี่คือสิ่งที่คนจะมองเมื่อเห็นคนที่กำลังสวมหน้ากาก

ภาพโดย Pexels จาก Pixabay

          แต่จะเหมารวมว่าการใส่หน้ากากในจำพวกนี้จะเหมารวมว่าทุกคนเป็นคนชั่วหรือสวมหน้ากากเพื่อจะไปทำผิดเพียงอย่างเดียวมันก็ไม่ได้ เขาอาจมีกิจกรรมหรือเหตุผลที่จำเป็นต้องสวม หน้ากากที่สัมผัสได้ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับหน้ากากบุคลิกที่แต่ละคนสร้างขึ้น ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับเจตนาของคนเหล่านั้นเช่นกัน ว่าเขาจะสวมหน้ากากนั้นเพื่ออะไร

          แต่จะว่าไปในสังคมปัจจุบันในตอนนี้ หลายคนก็สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันตนเอง ไม่ว่าจะเป็นฝุ่น PM 2.5 หรือป้องกันไวรัสนานาชนิดที่ออกใหม่มาบ่อยกว่าผลิตภัณฑ์ชาเขียว แต่เราก็ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนว่าคนที่สวมหน้ากากแบบนี้พวกเขาจะแค่ป้องกันตัวเองหรือมีเจตนาร้ายที่แอบแฝงอยู่

ภาพโดย Gerd Altmann จาก Pixabay

          สรุปง่ายๆ เราก็จะเห็นได้ว่าต่างคนก็ต่างมีเหตุผลแตกต่างกันไปที่จะสวมหน้ากาก มันก็ขึ้นอยู่ที่จุดประสงค์หรือเจตนาที่จะสวม ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากที่สัมผัสได้หรือแม้แต่หน้ากากที่แต่ละบุคลสร้างขึ้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่าทุกคนล้วนแล้วแต่สวมหน้ากากกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนดีหรือคนเลวต่างก็มีเหตุผลที่จะสวมหน้ากาก การที่ทุกคนอยู่ภายใต้หน้ากากมันก็คือเรื่องปกติ ถึงแม้อาจจะมีคนที่ยังไม่ยอมรับว่าตัวเองกำลังสวมหน้ากากอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่ได้สวมมัน บางครั้งเขาแค่อาจไม่รู้ตัวว่ากำลังสวมหน้ากากเข้าหาสังคม แต่ทางที่ดีก็ควรยอมรับกับหน้ากากที่ตนเองกำลังสวม แล้วทำมันให้กลายเป็นหน้ากากแห่งความสุขเพื่อตนเองและคนรอบข้าง เพียงแค่นี้หน้ากากที่คุณกำลังสวมจะทำให้โลกให้สังคมมันน่าอยู่ยิ่งขึ้น ลองถามตัวเองว่าตอนนี้ “กำลังสวมหน้ากากแบบไหนอยู่” แล้วทำให้มันเป็นสิ่งดี เพราะมันเป็นสิ่งที่สังคมต้องการ ไม่ว่าจะเป็นหน้ากากหรือหน้าจริงก็ควรทำให้มันเป็นใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม