เพลง

นักร้องผู้มีเสียง "อมตะ" โจ้ วง Pause

132
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
นักร้องผู้มีเสียง "อมตะ" โจ้ วง Pause

แม้ตัวจะจาก แต่เสียงยังตราตรึง

สำหรับใครก็ตามที่เติบโตและจำความได้ ในยุค 90s ปลาย ๆ จะรู้ดีว่า วงพอส เป็นวงหนึ่งที่อยู่ในใจของพวกเขา โดยมีสมาชิกสี่คน มีคุณโจ้ นักร้องนำ, คุณเอ มือกีตาร์, คุณนอ มือเบส และคุณบอส มือกลอง ซึ่งวงของพวกเขาเป็นที่ชื่นชอบ และเป็นที่จดจำได้อย่างดี โดยเฉพาะเสียงร้องมหัศจรรย์ของคุณโจ้ หรือพี่โจ้ และมีเพลงที่โด่งดังติดหูมากมาย เช่น ที่ว่าง, รักเธอทั้งหมดของหัวใจ, ข้อความ, ดาว, กอดหมอน และอีกหลายเพลงที่ไม่ได้กล่าวมา และเพลงของพวกเขาได้มีการยกหยิบมาเล่นบ่อย ๆ โดยเหล่านักร้องต่าง ๆ ไม่ว่าในร้านเหล้า ในสถานบันเทิง และรายการโทรทัศน์ รายการวิทยุก็จะมีการเปิดมาฟังบ่อย ๆ จึงทำให้เหล่าแฟนเพลงของพอส และแฟน ๆ ของพี่โจ้ ต้องหลั่งน้ำตาออกมาทุกครั้ง เมื่อได้ยินผลงานเพลงของคนที่เขารัก และเสียงของคนที่เขารักอย่างพี่โจ้ ที่จากเขาไปนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 จนถึงปัจจุบัน รวมกว่า 19 ปี แต่เสียงของพี่โจ้ไม่เลือนจางหายไป และมีการรำลึกถึงตลอดทุกปี สำหรับการจากไปของพี่โจ้

Advertisement

Advertisement

วงพอส

สำหรับพี่โจ้ ชื่อจริงคืออมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เป็นคนจังหวัดอุทัยธานี อดีตเป็นนักร้องนำของวงพอส (Pause)ในยุคก่อตั้งวง และผู้คนจะจำเขาได้ดีในทรงผมผู้ชายหัวฟู พี่โจ้เคยได้แชมป์การประกวดร้องเพลงในเวที โค้ดมิวสิคอวอร์ด ต่อมาได้ร่วมงานกับพี่ ๆ อีกสามคน คือ พี่นอ, พี่เอ และพี่บอส ตั้งวงในชื่อวงพอส (Pause) และได้ออกอัลบั้มแรก ในปี พ.ศ.2539 และหลังจากนั้นพวกเขาก็ได้เป็นที่รู้จัก และมีผลงานเพลงติดหูมากมาย อย่างที่กล่าวข้างต้น จนกระทั่งมาถึงในปี พ.ศ.2545 ก็มีข่าวสุดสลดใจของแฟนเพลงพอส(Pause) และคนรักในเสียงพี่โจ้ อมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ เพราะพี่โจ้ได้จากพวกเขาไปในวัยเพียง 31 ปี

และนั่นอาจเป็นฝันร้ายของแฟนเพลงวงพอส และแฟน ๆ พี่โจ้เรื่อยมา หลังจากการจากไปของพี่โจ้ กิจกรรมของวงพอสก็หยุดชะงักลง เหมือนดังชื่อวง Pause ที่แปลว่าหยุดชั่วคราว ราวกับว่ามีอะไรมานิยามขีดเขียนเรื่องราวของพี่ ๆ เขา หลังจากนั้นทุกคนในวง ก็แยกย้ายตามหนทางเดินของพวกเขา บางคนก็ไปทำวงใหม่ บางคนก็ไปเป็นอาจารย์สอนดนตรี แต่ระหว่างทางเดินของแต่ละคน พวกเขาก็ยังอยู่ในสายงานดนตรี และพวกเขาก็ยังรำลึกอดีตที่ได้ทำวงกันมา และเรื่องราวโดยเฉพาะพี่โจ้ ที่ยังอยู่ในใจของพวกเขา และไม่ใช่แค่พี่ ๆ เขาเท่านั้น พี่โจ้ก็ยังอยู่ในความทรงจำของแฟนเพลงมาตลอด

Advertisement

Advertisement

สำหรับผลงานเพลงของพี่ ๆ เขานั้น ไม่ว่าวันเวลาผ่านไปนานแค่ไหน ฐานแฟนเพลงบวกกับความรู้สึก ของผู้ที่เข้ามาฟังเพลงของพวกเขากลับเพิ่มขึ้น แม้วันเวลาและยุคสมัยที่เปลี่ยน แม้พี่โจ้ได้หายไป และวงพอสได้หยุดไปก็ตาม อาจพูดได้เลยว่า อาจเป็นเพราะแนวดนตรีที่ฟังสบาย ๆ บวกกับความรู้สึกที่ถ่ายทอดออกมา ของน้ำเสียงที่มีเสน่ห์ และทรงพลัง และจากคนรุ่นหลัง ๆ ที่ได้เล่าว่า "แค่ได้ยินเสียงท่อนแรก เราก็ตามหาเจ้าของเสียง และหาดูประวัติ สุดท้ายได้รู้ว่าเจ้าของเสียงนี้ไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว" และมันเป็นแบบนี้หลายต่อหลายคน ที่เพิ่งรู้จักพี่โจ้และวงพอส แล้วก็นิยมฟังเพลงพี่โจ้และพอสต่อมาเรื่อย ๆ แม้ว่าพวกเขาบางคนไม่เคยรู้จักวงพอส และพี่โจ้ก็ตาม หรืออาจบอกอีกนัยหนึ่งว่า "รักแรกพบ" และนั่นเองที่เป็นเหตุผลชิ้นดี ที่พี่วงพอสได้กลับร่วมงานกันอีกครั้ง

Advertisement

Advertisement

วงพอส

หลังจากที่ห่างหายกันนานประมาณ 14-15 ปีมั้ง หลังจากที่พี่โจ้ไม่ได้อยู่แล้ว ขนาดที่วงดนตรีบางวงมีการเลิกลายุบวง แต่ทางกลับกันพี่ ๆ วงพอสก็กลับมาทำเพลงกัน และได้มีโปรเจกต์พิเศษ โดยเป็นเพลงที่พี่โจ้ร้องไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นเดโมแต่ร้องไม่จบเพลง พี่ ๆ วงพอสที่เหลือก็ได้มาทำเป็นเพลงที่มีชื่อว่า "รักอยู่รอบกาย" โดยมีเสียงของพี่โจ้เป็นคนร้องในท่อนฮุก และท่อนหลัก และท่อนที่เหลือก็เป็นเสียงของพี่เอ มือกีตาร์ และพี่บอส มือกลอง ซึ่งเป็นปรากฏการณ์และข่าวดีของแฟน ๆ วงพอส ให้ได้หายคิดถึงบ้าง และนั่นก็เป็นหนทางดีที่แฟนเพลงอยากให้พวกเขากลับมาทำงานกันอีก เพราะว่าพี่ ๆ วงพอสได้กล่าวว่า "เราไม่ได้คิดเลยว่าเราจะยังมีคนชอบเพลงเรา จะยังมีคนฟังเพลงเรา และขอลายเซ็นเราในเวลาที่ไปงานต่าง ๆ" และพี่ ๆ พอสก็กล่าวขอบคุณนักร้องต่าง ๆ ที่ใช้เพลงของพอส ในการร้องในงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะนักร้องกลางคืน และทุก ๆ คนที่ฟังเพลงพอสที่ทำให้เพลงของพอส มีชีวิตอยู่เรื่อยมา จึงทำให้พอสยังมีคนที่รู้จักเรื่อย ๆ

ในที่สุดพวกพี่ ๆ วงพอส ก็ได้ร่วมงานกันอีก และได้นักร้องใหม่ คือ พี่เฟนต์ ซึ่งต้องเรียกว่าเป็นเด็กต่างยุค มาร่วมงานกันเลยทีเดียว ซึ่งนั่นละครับอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้น ว่า...เรื่องราวของวงพอส เหมือนกับมีอะไรบางอย่างมาขีดเขียนวาดไว้ เพื่อให้มันเป็นแบบนี้ แบบว่าเมื่อครั้ง ที่พี่โจ้จากไป วงดนตรีของพวกเขาก็เกิดการกด Pause ลง และหลังจากนั้นเกือบทศวรรษครึ่งกว่า ๆ ก็มีการกด Play อีกครั้ง และได้บอกเล่าเรื่องราวของพี่โจ้ได้กว้างกว่าเดิม เด็กรุ่นหลังหรือยุคปัจจุบัน ได้ชื่นชอบและเข้ามาฟังเสียงพี่โจ้ และผลงานเพลงวงพอสได้เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าผลงานเก่าหรือผลงานใหม่ และมีการยอมรับอย่างกว้างขวางว่า พี่โจ้เป็นนักร้องเสียงคุณภาพ แม้จะร้องสดก็ยังฟังแล้วเพราะเสนาะหู ยิ่งรวมไปกับอารมณ์ และน้ำเสียงที่พี่โจ้สื่อออกมา เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึกของเนื้อเพลงนั้นได้ดีมาก ซึ่งเสียงของพี่โจ้ อมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ และเสียงดนตรีวงพอสได้เป็นเสียงดนตรี และเสียงร้องร่วมสมัยได้อย่างดี ไม่ว่าจะยุคไหน ๆ ก็ฟังได้ไม่เบื่อเลย

พี่โจ้

อาจจะพูดได้เลยว่า พี่โจ้ จะอยู่ในใจของพวกเขา (แฟนเพลงพอส และแฟน ๆ พี่โจ้) ตลอดไป และสืบต่อกันไปเรื่อย และเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ ก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันก็มีการสร้าง Facebook Fan page ในหลาย ๆ ช่อง ในชื่อของวง Pause บ้าง ในชื่อของ โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ (โจ้ วงพอส) บ้าง และในชื่อของ บทเพลงแห่งความทรงจำ (โจ้ วงพอส)บ้าง และหลาย ๆ แฟนเพจ ที่มีการระลึกถึงพี่โจ้ วงพอส และยังแชร์ MVเพลงที่พี่โจ้ และเพื่อนวงพอสได้ทำกันมาในยุคแรก ๆ ของวง สำหรับพี่โจ้แล้วต้องบอกได้เลยว่า เป็นนักร้องอมตะ และมีเสียงมหัศจรรย์ แม้ตัวไม่อยู่แต่เสียงร้องก็ยังทำหน้าที่ และยังตราตรึงอยู่ในใจผู้คนอยู่เรื่อย ๆ แม้ยุคสมัยเปลี่ยนไปก็ตาม...

  • "แล้วสักวัน...จะไปหา"
  • "รักเธอทั้งหมดของหัวใจ"
  • โจ้ อัมรินทร์ เหลืองบริบูรณ์ (โจ้ วง Pause)
  • นักร้องมหัศจรรย์ ผู้มีเสียงที่เป็น "อมตะ" ที่อยู่ในความทรงจำตลอดไป

ขอบคุณภาพอ้างอิง  (ภาพปก, ภาพที่ 1 ,ภาพที่ 2 ,ภาพที่ 3 )  จาก Pause

ติดบทความของเรา  (ใจบางบาง)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์