ไลฟ์แฮ็ก
นั่งรถไฟไปกลางเต็นท์สัมผัสอากาศหนาวที่เขาใหญ่ 2 วัน 1 คืนกันค้าาา
ทริปนี้เราไปกันสามคนค่ะผู้หญิงทั้งหมด จุดหมายปลายก็คือ จุดกลางเต็นท์ผากล้วยหมาย ณ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ค่ะ
ขอแบ่งเป็นช่วงๆนะคะ เผื่อใครสนใจอันไหนเป็นพิเศษ
1. ช่วงการเดินทางไปถึงผากล้วยไม้
2. ช่วงเช่าอุปกรณ์ เต็นท์ต่างๆ
3. ช่วงชมธรรมชาติ
4. ช่วงหมูกระทะและปิ้งมาชเมลโล่
5. ช่วงเดินทางกลับ
มาเริ่มกันที่
1. ช่วงการเดินทางไปถึงผากล้วยไม้
แพลนคร่าวๆของพวกเราคือ สถานีรถไฟหลักสี่ > สถานีปากช่อง > อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ > ผากล้วยไม้
เริ่มต้นจากจองตั๋วรถไฟผ่านเว็บไซต์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย https://www.thairailwayticket.com/eTSRT/
พวกเราจองทั้ง ขาไป-กลับ เริ่มต้นจากสถานีหลักสี่ 5 ทุ่ม - สถานนีปากช่อง ตี 3
เมื่อวางแพลนจองตั๋วรถไฟเสร็จแล้วก็ไปกันเลยค่ะ
มารอรถไฟที่สถานีหลักสี่ ควรมาก่อนเวลานะคะ เช็คหมายเลขขบวนรถไฟและที่นั่งให้พร้อม
Advertisement
Advertisement
ภาพสถานีรถไฟหลักสี่
ถึงสถานีรถไฟปากช่องแล้วค่ะเวลาประมาณเกือบตี 3 เป็นเวลาที่หนาวมากค่ะประมาณ 14-16 องศาเซลเซียส แต่เรายังไปไหนกันไม่ได้ค่ะเพราะต้องรอขึ้นรถสองแถวรอบแรกตอน 7 โมงเช้า ไปที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และอย่างที่เห็นเลยค่ะ เพื่อนร่วมทริปขนผ้าออกมาจากกระเป๋าเพื่อบรรเทาความหนาวเหน็บ ปล.หนาวมากจริงๆค่ะ ตัวสั่นกันเลยทีเดียว
ฟ้าเริ่มสว่างเวลา 6:30 น. เราเดินหาร้านอาหารแถวสถานี ไปเจอร้านโจ้กกลิ่นหอมมากเลยตัดสินใจทานกันก่อนจะเดินหารถสองแถวเพื่อไปที่อุทยาน
จากนั้นไปขึ้นรถสองแถวกันนนนน
การเดินไปที่รถสองแถวดังนี้ ห่างจากสถานีรถไฟประมาณ 400 เมตร
1. เดินลงมาจากสถานีรถไฟปากช่อง เลี้ยวซ้าย
2. เดินตรงไป สังเกตุร้านร้านข้าวหมูแดงสุพรรณ ป้ายสีแดงทางขวามือ
3 . เลี้ยวขวาเข้าซอยที่สอง ถัดจากร้านข้าวหมูแดง เดินตรงไปผ่านหอนาฬิกา
Advertisement
Advertisement
4. ผ่านหอนาฬิกาไปสังเกตุซ้ายมือจะเจอ 7-11 อยู่ตรงมุม เลี้ยวซ้ายไปจะเจอรถสองแถวจอดอยู่เลยค่ะ
ค่าบริการ ลงหน้าอุทยานคนละ 30 บาท
หลังจากนั่งรถมาถึงหน้าอุทยานใช้เวลาประมาณ 30 นาทีได้
หลังจากนี้จะเป็นประสบกาณ์ที่แปลกใหม่สำหรับคนหน้าบางอย่างพวกเราค่ะ นั่นคือการโบกรถเพื่อที่จะขึ้นไปถึงจุดกางเต็นท์ ผากล้วยไม้ค่ะ
พวกเราลงจากรถเดินดุ่มๆไปที่ป้อม
จนท: จะไปไหนกันครับ
เรา: จะไปผากล้วยไม้ค่ะ มีรถขึ้นไปไหมค่ะ
คุณลุงรถรับจ้างที่อยู่แถวนั้นพอดีบอกว่า 500 เรากับเพื่อนจึงบอกว่าเดี๋ยวพวหหนูรอโบกรถเอาค่ะ จนท.ก็ช่วยโบกให้ บังเอิญเจอพี่จนท.ขับรถส่วนตัวมากำลังจะขึ้นไปทำงานพอดี เลยได้ติดรถพี่เขามาค่ะ ดีใจมากกกกที่ไม่ต้องโบกเอง
แต่ แต่ พี่เขาขึ้นไปไม่ถึงจุดหมายของเราค่ะ เราต้องโบกต่อ!!!! พวกเราตัดสินใจควักความกล้าออกมาเพื่อโบกรถค่ะ
Advertisement
Advertisement
คันที่1 ไปไม่ถึงจุดที่เราจะไปค่ะ
คันที่2 ไม่จอดค่ะ (เขินเลย)
คันที่3 รถเต็มค่ะ
พวกเรายืนมองรถผ่านไปคันแล้วคันเล่า จึงตัดสินใจ ......................................... !!!!!!
เดินค่ะ ใช่ค่ะ 7 กิโลจากจุดนั้นไปถึงผากล้วยไม้ และนี้คือจุดเริ่มต้นของการเดินทางของพวกเรา
เดินไปสักพักเจอจุดกลางเต็นท์ลำตะคอง พี่จนท.เรียกทานข้าวเพราะกำลังทานอยู่พอดี น่ารักมากก พวกเราเลยเขาไปคุยค่ะ
พี่จนท: จะไปไหนกัน
เรา: จะไปผากล้วยไม้ค่ะ
พี่จนท: กลางเต็นท์ตรงนี้ก็ได้ มีเต็นท์มาไหมละ
เรา: ไม่มีค่ะ 55555 (อยากไปผากล้วยไม้มากกว่าเพราะมีร้านค้า) ปกติถ้าโบกรถจะมีคนรับไหมค่ะ
พี่จนท: ไม่แน่ใจนะ เพราะส่วนมากเส้นนี้มันไปได้หลายทาง ไปปราจีน ไปนครนายก
เรา: อึ้ง (เพราะคิดว่าเส้นนี้จะไปถึงผ้ากล้วยไม้อย่างเดียว ความไม่เคยมาเขาใหญ่อะนะ)
พี่จนท: งั้นเดินไปทางนี่ดีกว่าทางลัด ถึงไวกว่านะ
เรา: ขอบคุณมากค่ะ
เราออกมาตามทางที่พี่จนท.แนะนำ
ต่อจากนี้เราจะพากทุกคนสัมผัสกับบรรยากาศระหว่างทางเดิน 7 กิโลเมตร กันค่ะ !!!!!
เดินไปเรื่อยๆค่ะ ลมเย็นๆ คุยกับเพื่อนเพลินๆ เส้นทางนี้ไม่ค่อยมีรถค่ะ เพราะเดินไปสักพักรถจะไม่สามารถผ่านได้
เดินมากสักพักใหญ่ ใหญ่มากก จนเจอถนนใหญ่ค่ะ เปิด Map ดูอีก 1.7 กิโลเมตรจะถึง จุดกลางเต็นท์ผากล้วยไม้
เมื่อเราเยียบถนนใหญเริ่มมีรถผ่านไปมาเยอะมากขึ้นค่ะ แต่ไม่กล้าโบกอยู่ดีฮ่าๆๆ แต่เดินไปสักพักหนึ่งค่ะมีรถกระบะผ่านเราไปแล้วไปจอดข้างหน้าไกลๆ พี่เขาเปิดกระจกแล้วยื่นมืออกมา ทีแรกนึกว่าพี่แกเช็ดกระจก แต่พอมองดีดี พี่แกขวักมือเรียก พวกเรานี่รีบวิ่งไปเลยค่ะ
พี่: ไปไหนกัน
เรา: ไปผากล้วยไม้ค่ะ
พี่: ทำไมเดินเนี่ย เดินมาจากไหนกัน
พวกเราก็โดดขึ้นรถ จุดนั้นคือดีใจมากกกกกกกกก ได้นั่งรถแล้ว สักพักไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงค่ะ
พวกเราขอบคุณพี่เขาแล้วถามว่าพี่จะไปไหนกันคะ พี่เขาจะไปน้ำตกเหวสุวัต ซึ่งอยู่เลยจุดกลางเต็นท์ผากล้วยไม้ไปอีกไม่ไกล ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์คที่น่าไปอีกทีหนึ่งสำหรับการมาเขาใหญ่
2. ช่วงเช่าอุปกรณ์ เต็นท์ต่างๆ
และในที่สุดเราก็มาถึงกันแล้วววววว ที่จุดกลางเต็นท์คนเยอะมากๆค่ะช่วงนั้นเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ด้วย จากนั้นพวกเราก็ไปจัดเตรียมเช่า เต็นท์ อุปรณ์ต่างๆ ดังนี้ หมอ ที่รองนอน ถุงนอน เต็นท์หลังใหญ่ เสื่อ (เอาไว้นอนดูดาวฟินๆ) ราคาถือว่าไม่แพงเลยนะคะ (ขอโทษจำราคาไม่ได้)
เมื่อได้ของทุกอย่างครบแล้วก็เดินหาที่เหมาะๆ กลางเต็นท์เลยค่ะ แนะนำให้เดินดูทั่วๆก่อนนะคะ มีหลายจุดมากๆๆ แนะนำให้เลือกจุดที่ไม่ไกลห้องน้ำค่ะ จะได้สะดวก
หลังจากกลางเต็นท์เรียบร้อย ก็ต้องทานข้าวกันหน่อยเพราะเดินมาไกลมากก ที่ผากล้วยไม้จะมีร้านค้าให้บริการอยู่ค่ะ มีทั้งอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยวและ หมูกระทะ!!!! เราวางแผนให้หมูกระทะเป็นอาหารเย็นของเราค่ะ และต้องจองนะคะไม่งั้นหมดอดไม่รู้ด้วยนะ แต่ขอบอกนะคะว่าอาหารแอบแพงอยู่นะ ถ้าใครสามารถเตรียมมาเองได้ก็จะดีมากค่ะ ทางอุทยานมีเตา+ถ่ายให้เช่าค่ะ และยังมีร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยานด้วยนะคะ จะขายพวกของแห้งน้ำและน้ำแข็ง บริการน้ำร้อนฟรี
3. ช่วงชมธรรมชาติ
หลังทานข้าว เราก็ไปเดินย่อยกันที่เส้นทางศึกษาธรรมชาติซึ่งอยู่ใกล้ที่เรากางเต็นท์มากก (แนะนำจุดแถวนี้เงียบสุดแล้วค่ะ) บางทีจะมีน้องกวางเดินมาใกล้ๆเต็นท์เลยค่ะ ต้องระวังนะคะ ไม่ใช่ระวังตัวนะคะ ระวังอาหารค่ะ เพราะน้องกวางจะมาขโมยอาหาร
เห็นน้องกวางอยู่ไกลๆไหมคะ
4. ช่วงหมูกระทะและปิ้งมาชเมลโล่
ช่วงเวลาที่รอคอยค่ะ ไปค่ะไปรับหมูกระทะที่สั่งทางร้านไว้ ( กินไป ดื่มด่ำบรรยากาศไป จนลืมถ่ายรูป 5555 ) หลังจากทานหมูหระทะหน้าเต็นท์เสร็จแล้ว ต่อไปเป็นกิจกรรมที่รอคอยเช่นกันค่ะ ปิ้งมาชเมลโล่
ตอนปิ้งมาชเมลโล่อยู่มีเหงาดำๆใหญ่เดินผ่านหน้าไปค่ะ!!! คือน้องกวางนั่นเอง ปิ้งมาชเมลโล่ไปเพลินๆ กับอากาศเย็นๆ เงยหน้ามองไปบนฟ้าหวังว่าจะเห็นดาว แต่! ไม่เห็นเลยค่ะเพราะคืนนั้นเป็นคืนที่พระจันทร์เต็มดวงสว่างจ้ามาก
อากาศเย็นมากค่ะ ยิ่งตอนกลางคืนช่วงหัวค่ำหนาวมากๆ ถุงนอนใบผืนเดียวเอาไม่อยู่ค่ะ พวกเรานอนกอดกันกลมเลยค่ะ หนาวจนต้องร้องขอชีวิต พวกเราไม่ได้เตรียมชุดที่กันหนาวมากๆมาค่ะ เพราะไม่คิดว่าจะหนาวขนาดนี้ เนื่องจากก่อนมา 1 อาทิตย์ เราไปอช.ขุนตาล ที่ลำปางมาค่ะซึ่งที่นั่นไม่หนาวเลยเราจึงคิดว่าเขาใหญ่คงไม่หนาวเท่าไหร่ สุดท้ายเป็นไงละหนาวมากแม่!!!
5. ช่วงเดินทางกลับ
ตื่นเช้าเก็บของไปคืนจนท. ส่วนใครจะอาบน้ำหรือไม่อาบก็แล้วแต่ค่ะ ส่วนเราแค่ล้างหน้าก็เกินพอแล้วค่ะ หนาวจริงๆ ขากลับก็เหมือนเดิมค่ะ ต้องโบกรถลงไป แต่เรานึกขึ้นมาได้ว่าตอนเราขึ้นมามีคุณลุงรับจ้างราคา 500 ที่เราปฏิเสธ เราเลยหาเบอร์โทรไปที่หน้าอุทยานเพื่อถามหารถรับจ้าง แต่ราคาไม่ใช่ 500 ค่ะ เป็น 1,000 บาทไปแล้ว คนงกๆอย่างเรามีหรือจะไป โบกรถต่อค่ะ จนเจอคุณลุงท่านหนึ่งกำลังเก็บของ เราเลยไปขอคุณลุงไปด้วย ลุงบอกว่าลุงจะไปแวะผาเดียวดายก่อน จะส่งเราที่แยกได้ไหม พวกเราก็โอเคค่ะคิดว่าเดี๋ยวค่อยหาทางกันต่อ
นั่งท้ายกระบะลมเย็นๆ
พอถึงทางแยก คุณลุงลงจากรถมาถามว่าพวกเราจะไปผาเดียวดายด้วยกันก่อนไหมเพราะเดี๋ยวลุงต้องลงไปที่หน้าอุทยานอยู่ดี พวกเราก็ตกลงไปกับคุณลุงค่ะ รู้สึกขอบคุณคุณลุงมากๆๆเพราะผาเดียวดายแอบอยู่ห่างออกไปอีกทางด้วย แถมดีใจได้ไปเที่ยวอีกกกก
ถึงแล้ววววผาเดียวดาย
คุณลุงแวะถ่ายรูประหว่างทางค่ะ
พอถึงหน้าอุทยานพวกเราก็ขอบคุณคุณลุงกับคุณป้ากันยกใหญ่ แถมคุณลุงถามว่าจะให้ไปส่งที่สถานีเลยไหม แต่พวกเราเกรงใจค่ะจึงขอติดรถมาแค่นี้ คุณลุงเล่าว่าตอนหนุ่มๆเคยโบกรถไปเที่ยวเหมือนกันครั้งเดียวเข็ดเลย 555 พวกหนูก็เข็ดเหมือนกันค่ะ
จากนั้นเริ่มร้อนพวกเราก็รอรถสองแถวกลับไปสถานี
ปล.ตอนรอรถ รถจะไม่เข้ามารับที่หน้าด้านอุทยานนะคะเหมือนตอนมาส่งนะคะ ต้องเดินไปตรงสามแยกค่ะ แล้วต้องรีบวิ่งไปค่ะถ้ารถมา 555 ลองถามร้านค้าแถวนั้นก็ได้นะคะว่าต้องวิ่งแบบไหน บอกไม่ถูกจริงๆ
พอมาถึงจุดที่เราขึ้นตอนตอนขามาตรง 7-11 ประมาณบ่ายสองเองค่ะ แต่ตั๋วรถไฟกลับคือ 5 โมงเย็น คนชิคๆอย่างเราเสิชหาคาเฟ่เลยค่ะจนไปเจอ
ชื่อร้าน Is Crepe Cafe' อยู่ใกล้ ๆ สถานีรถไฟปากช่องเลย
ขอบอกว่าเครป อร่อยมากกกไม่ใช่เล่นๆ
นั่งถ่ายรูปไปกินไปเพลินๆ ก็เกือบๆ 5 โมง เราออกจากร้านไปรอขึ้นรถไฟกันกลับค้าาาา
สถานีรถไฟปากช่อง
จากนั้นขึ้นรถไฟกลับกรุงเทพกันค่ะ เย้
พระอาทิตย์กำลังจะตกแล้ววว
พวกเราถึงกรุงเทพประมาณ 2 ทุ่มได้ค่ะ ถือได้ว่าทริปนั่งรถไฟครั้งแรกของพวกเราผ่านไปด้วยดี
สรุป การเดินทางโดยไม่มีรถส่วนตัวในครั้งนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ดีเลยค่ะ ได้ฝึกแก้ปัญหา ได้เจอผู้คนที่ใจดี ยินดีที่จะช่วยโดยที่พวกเขาไม่ได้สิ่งของหรือเงินทองตอบแทน ขอบคุณพี่จนท.ที่ให้ติดรถขึ้นไป ขอขอบคุณพี่สาวคนสวยรถกระบะ Ford Ranger สีส้มที่รับเราข้างทางมากๆ คุณลุงคุณป้าและลูกสาวที่ช่วยพาเราออกมาส่ง และแถมยังพาไปเที่ยวอีก
ปล.
1. หากไม่ชอบคนเยอะควรเหลี่ยงช่วงเทศกาล รวมถึงจองตั๋วรถไฟอาจจะไม่ได้เวลาที่ต้องการ
2. เช็คสภาพอากาศให้ดี เตรียมตัวให้พร้อม
3. หากต้องการโบกรถขึ้นไป ควรพกเพื่อนที่มีความกล้าไปด้วย
4. อาหารบนรถไฟถูกจริง (เราซื้อไข่ต้ม 5 ใบ 20 แกะออกมามีตัวลูกไก่อยู่ค่ะ// กินไม่เป็น)
5. เต็นท์ของทางอช.มีรองรับเยอะค่ะ วันที่เราไปคนเยอะมากกกก แต่ก็ยังมีของให้เช่า
ภาพทั้งหมดโดยผู้เขียน
ความคิดเห็น