บทความรู้ไว้ใช่ว่า..กับประกันภัยรถยนต์ EP.4 (ตอนจบ)

อิศรัมย์อุปทา

25 ก.พ. 2022|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก อิศรัมย์อุปทา

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

บทความรู้ไว้ใช่ว่า..กับประกันภัยรถยนต์ EP.4 (ตอนจบ)

ว่าด้วยเรื่องสินไหม ???

เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากให้เกิดอุบัติเหตุอย่างแน่นอน แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วสิ่งสำคัญที่สุดคือทุกคนจะต้องมี "สติ" เพื่อช่วยเหลือตนเองและช่วยผู้อื่นให้พ้นอันตรายมากที่สุด โดยเฉพาะการเข้ารับการรักษาเพื่อใช้สิทธิ์ประกันภัยจาก พ.ร.บ. สิ่งที่เจ้าของรถควรมีและติดไว้ในรถได้แก่

- สำเนาใบขับขี่

- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเจ้าของรถ

- สำเนากรมธรรม์ทั้งในส่วนของ พ.ร.บ. และ ประกันรถยนต์

เพื่อใช้ยื่นให้กับโรงพยาบาลในการเข้ารับการรักษาอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุ โดยจะได้รับการรักษาตามสิทธิ์ฟรี 30,000 บาท แต่รู้หรือไม่ว่าแม้เราจะเข้ารับการรักษาตามสิทธิ์ พ.ร.บ. ฟรี 30,000 บาท เราสามารถที่จะนำค่าใช้จ่ายในการรักษานั้นมายื่นต่อบริษัทประกันภัยของคู่กรณี เพื่อรับค่าสินไหมในภายหลังได้ ไม่ว่าคู่กรณีจะใช้ประกันภัยชั้น 1, ชั้น 2+, ชั้น 2, ชั้น 3+ หรือ ชั้น 3 ผู้บาดเจ็บสามารถนำใบเสร็จและค่าใช้จ่ายระหว่างการรักษามายื่นเพื่อขอรับเงินดังกล่าวได้ แม้ว่าจะใช้สิทธิ์ในการเข้ารับการรักษาฟรีก็ตาม โดยค่าสินไหมดังกล่าวจะได้รับการชดเชยอย่างน้อยเท่ากับจำนวนค่ารักษาพยาบาลจริง ซึ่งหลายคนอาจไม่รู้

ค่าสินไหม

จากรูปเอกสารตัวอย่างเป็นการจ่ายค่าสินไหมของบริษัทประกันภัยแห่งหนึ่ง จำนวน 6,000 บาท ซึ่งจริง ๆ แล้ว มีค่ารักษาที่เกิดขึ้นจริงเพียง 4,000 บาท เท่านั้นและไม่ต้องเสียเงินในการจ่ายค่ารักษาพยาบาลใด เพียงแค่ขอสำเนาใบเสร็จรับเงินจากทางโรงพยาบาลก็สามารถนำมาเบิกค่าสินไหมกับประกันคู่กรณีได้ แต่ด้วยการเดินทางไปหาหมอและเสียเวลาในการทำงาน จึงร้องขอให้บริษัทประกันจ่ายเพิ่มเพื่อที่จะได้ปิดคดีในส่วนของค่าสินไหมในการรักษาพยาบาล

ขาหัก

แต่หากผู้ป่วยบาดเจ็บหนักและยังนอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หรือได้รับการนัดหมายจากโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษาหรือตรวจซ้ำ ห้ามร้องขอสินไหมก่อนปิดคดีเป็นอันขาด เนื่องจากเคยมีเคสที่ผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง แล้วทางผู้ก่อเหตุอยากให้จบคดีโดยเร็ว จึงตกปากรับคำรับค่าสินไหมก่อนหน้านี้ แต่ลืมไปว่าตนเองจะต้องเข้ารับการรักษาตามหมอนัด เมื่อมีค่าใช้จ่ายตามมาในภายหลังจะไม่สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลเพิ่มเติมได้ ดังนั้นควรได้รับการตรวจและวินิจฉัยจากแพทย์จนมั่นใจเสียก่อน ก่อนที่จะยื่นเบิกเงินค่าสินไหมกับคู่กรณี มิเช่นนั้นจะทำให้ท่านเสียผลประโยชน์ได้

first aid

เห็นหรือไม่ว่าการทำ พ.ร.บ. และ ประกันภัยรถยนต์ มีประโยชน์อย่างไร เพราะอย่างน้อยก็จะได้ช่วยในส่วนของค่ารักษาพยาบาลและช่วยเหลือเพื่อนร่วมถนนในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุได้ ไม่ว่าคุณจะขับรถมอเตอร์ไซค์ หรือ รถยนต์ อย่าลืมที่จะทำ พ.ร.บ. ภาคบังคับตอนต่อภาษี เอาไว้ด้วยนะครับ โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ที่มักจะปล่อยให้ทะเบียนขาด เวลาประสบอุบัติเหตุมา คุณจะไม่ได้รับสิทธิ์รักษาฟรี 30,000 บาท

wound
สำหรับรถที่ทำประกันหากมีน้ำใจอาจช่วยจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้คู่กรณีได้ตามความเหมาะสม หรือ จะให้ประกันจ่ายเพียงอย่างเดียวก็ได้
แต่ถึงอย่างไร ขับรถบนท้องถนน อย่าใจร้อนกันนะครับ อย่าประมาท เพื่อที่ทุกคนจะได้กลับบ้านไปหาครอบครัวอย่างปลอดภัย