อื่นๆ

บาเกียว สถานที่พักกาย พักใจ แล้วไปเรียนภาษาอังกฤษในหน้าร้อน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
บาเกียว สถานที่พักกาย พักใจ แล้วไปเรียนภาษาอังกฤษในหน้าร้อน

เนื่องจากโลกปัจจุบันถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกันด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ส่งผลให้มีข้อมูลมากมายหลั่งไหลเข้ามามากมาย แต่ข้อมูลส่วนใหญ่มักจะเป็นภาษาอังกฤษ ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ทั้งในแง่การทำงาน และการใช้ชีวิต ซึ่งหนึ่งในวิธีฝึกภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพ คือการไปอยู่ต่างประเทศ แต่ถ้าจะไปยุโรป หรืออเมริกา ก็คงจะแพงมาก วันนี้เราเลยจะมาแนะนำอีกประเทศที่น่าสนใจก็คือ “ฟิลิปปินส์”

ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ผู้คนพูดภาษาอังกฤษกันได้เกือบทั้งประเทศเลย จึงทำให้ง่ายต่อการใช้ชีวิตของนักเรียนที่ต้องการเรียนอย่างพวกเรามาก แถมค่าเรียนก็ถูก และมีจำนวนคาบเรียนภาษาอังกฤษวันละ 6 คาบเลยทีเดียว ใครอยากเรียนภาษาแบบเน้นๆ บอกเลยว่าเหมาะมาก ซึ่งเมืองที่คนมักจะไปเรียนภาษามีหลายเมืองด้วยกัน แต่เมืองที่เราเลือกไปคือ “บาเกียว”

Advertisement

Advertisement

บาเกียว (Baguio) เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนเหนือของฟิลิปปินส์ มีอากาศเย็นสบาย สดชื่นตลอดปี ในช่วงสงคราม ทหารอเมริกาจะชอบมาหลบร้อนที่นี่ เมืองนี้เลยกลายเป็นเมืองแห่งการพักผ่อนของประเทศฟิลิปปินส์ไปโดยปริยาย นอกจากนี้เมืองนี้ยังถือเป็นเมืองแห่งการศึกษา และเป็นเมืองที่ปลอดภัยเป็นอันดับต้น ๆ ของฟิลิปปินส์เลย เพราะเหตุนี้เราจึงมักจะพบเห็นเด็กเอเชียที่มาเรียน ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ไต้หวัน เวียดเนียม และอื่น ๆ เดินเล่นกันเต็มเมืองเลย

บรรยากาศเมืองบาเกียวตอนกลางคืน การเดินทางจากมะนิลามาบาเกียว สามารถมาได้ 2 วิธี คือ เครื่องบิน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที และรถยนต์ ใช้เวลาประมาณ 6-7 ชั่วโมง โดยส่วนตัวเราเลือกนั่งรถบัสค่ะ ถนนช่วงที่ใกล้ถึงบาเกียวจะเป็นทางขึ้นเขา และคดเคี้ยวมาก ใครเมารถแนะนำให้เตรียมยาแก้เมาไว้ด้วย รับรองว่าได้ใช้ตลอดทริปที่อยู่บาเกียวแน่นอนค่ะ หรือใครไม่สะดวกกินยา ใช้วิธีพอขึ้นรถก็รีบหลับให้เร็วที่สุดเหมือนเราก็ได้นะคะ

Advertisement

Advertisement

ท่ารอขึ้นรถบัสจากมะนิลาไปบาเกียว พอมาถึงท่ารถที่บาเกียว ก็จะมีพี่ๆจากที่โรงเรียนมารับ และพาเราเข้าหอพักค่ะ โรงเรียนที่เราเลือกชื่อว่า “Beci” ค่ะ เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่บนเขา (แต่ไม่ได้กันดารนะคะ) จุดเด่นของโรงเรียนนี้คือบรรยากาศที่สบาย ๆ ห้อมล้อมด้วยต้นไม้สีเขียว ๆ แถมตอนเช้าจะมีหมอกจาง ๆ ลอยอยู่ด้วย ที่นีจะมีตึกเรียน ตึกสำนักงาน หอพัก และร้านขายขนมค่ะ ซึ่งทุกตึกจะอยู่ใกล้กันมาก

วันเปิดเรียนวันแรก (วันจันทร์) ตอนเช้าทางโรงเรียนจะนัดเราไปสอบ ฟัง พูด อ่าน เขียน และไวยากรณ์ค่ะ พอตอนบ่ายเขาก็จะให้เราไปเข้าร่วมการปฐมนิเทศ แล้วก็พาไปซื้อซิมโทรศัพท์ กับของใช้จำเป็นที่ห้าง SM mall ซึ่งเป็นห้างที่ใหญ่ที่สุดของบาเกียวเลย พร้อมนักเรียนใหม่จากประเทศอื่น ๆ ซึ่งแต่ละสัปดาห์ก็จะมาจำนวนเด็กเข้าใหม่ไม่เท่ากัน บางทีก็มี 20 คน บางทีก็อาจจะมีแค่ 3 คน

Advertisement

Advertisement

หอพัก

บรรยากาศห้องนอน ในส่วนหอพักจะมีแค่การแยกห้องชายหญิง แต่จะไม่มีการแยกตึกหรือแยกชั้นชายหญิงค่ะ แล้วก็จะมีให้เลือกเป็นห้องแบบ 2, 3 และ 6 คน ทุกห้องมีห้องน้ำในตัวค่ะ ยิ่งจำนวนคนน้อย ค่าห้องก็จะยิ่งถูกลง ไปถึงวันแรกเราได้ห้อง 2 คน ซึ่งรูมเมทเราเป็นคนเกาหลี น่ารักมากก ใจดีมาก แถมผิวหน้าดีมากจริง ๆ ค่ะ555

การเรียน

บรรยากาศในห้องเรียนที่นี่จะมีคาบเรียนปกติ 6 คาบ แบ่งเป็น คาบเรียนส่วนตัว 4 คาบ คาบเรียนกลุ่ม 2 คาบค่ะ ตอนคาบเรียนส่วนตัวก็จะมีคาบ สำนวน ไวยากรณ์ ฟัง พูด อ่าน เขียน ตอนแรกเขาจัดตารางมาให้ค่ะ แต่ถ้าเราอยากเน้นด้านไหนเป็นพิเศษก็บอกเขาได้ค่ะ เช่น ขอคาบเขียน 2 คาบ คาบสำนวนตัดทิ้ง ส่วนคาบเรียนกลุ่ม เราจะเลือกได้ว่าเดือนนี้จะเรียนวิชาไหน โดยโรงเรียนที่มีให้ลงทะเบียนเรียนทุกเดือนค่ะ ซึ่งวิชาไหนคนอยากเรียนเยอะก็จะเต็มเร็วมาก แนะนำให้รีบไปเข้าแถวรอก่อนเริ่มเปิดลงทะเบียนเยอะ ๆ เลยค่ะ
นอกจากนี้ที่นี่ก็จะมี night class ด้วย เป็นการเรียนแบบกลุ่มค่ะ ซึ่งอันนี้จะไม่บังคับนะคะ เขาจะมีวิชามาให้เลือก ใครอยากเรียนก็เรียน ใครอยากพักผ่อนก็ไม่ต้องลงเรียนก็ได้ค่ะ

การสอบ

บอร์ดนักเรียนที่ได้คะแนนดี ที่นี่จะมีสอบช่วงสัปดาห์ที่ 2 ของทุกเดือนค่ะ เพื่อวัดว่าเราก้าวหน้าไปแค่ไหนแล้ว โดยแต่ละคนจะมีตารางสอบของตัวเอง ก็คือสัปดาห์นี้เรามีสอบตอนไหนก็ขอครูไปสอบค่ะ ช่วงเวลาไหนไม่มีก็เรียนตามปกติเลย สำหรับใครที่สอบได้คะแนนดีในแต่ละด้าน ก็จะได้ขึ้นบอร์ดโรงเรียนด้วย

คุณครู

ครูที่นี่ใจดีมาก สงสัยอะไรก็ถามได้เลย คุยเล่นก็ได้ หรือถ้าเราไม่โอเคกับครูคนไหน ก็แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าขอเปลี่ยนครูก็ได้นะคะ บางคนอาจจะกังวลว่า ครูจะติดสำเนียงฟิลิปปินส์มาไหม คำตอบก็คือ ไม่เลยค่า เพราะครูที่นี่ เขาจะคัดมาเป็นอย่างดีแล้ว ออกเสียงไม่เพี้ยนแน่นอนค่า

เพื่อน

รูปรวมนักเรียนที่นี่จะมีหลายเชื้อชาติเลยค่ะ ทั้งไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน เวียดนาม แต่คนไทยมีน้อยมาก ใครอยากฝึกภาษา ไม่อยากอยู่ในที่ที่คนไทยเยอะ แนะนำที่นี่เลยค่ะ ช่วงวัยของคนที่นี่ก็หลากหลายมาก มีตั้ง 12 ขวบ ไปถึงอายุ 70 ปีเลย ซึ่งเวลาอยู่กับเพื่อนแต่ละช่วงวัยก็จะสนุกต่างกันไป หลากหลายมาก ๆ เลยค่ะ

กิจกรรมอื่น ๆ

นอกจากคาบเรียนภาษาอังกฤษแล้ว ที่นี่ก็ยังมีสอนกีต้าร์กับสอนชงกาแฟด้วย ซึ่ง 2 อันนี้ต้องเสียเงินเพิ่มนะคะ แต่จะมีเต้น Zumba ที่สอนฟรีค่ะ มีทุกวันพฤหัสบดี สนุกมาก แนะนำให้ลองไปเต้นดูนะคะ ได้ออกกำลังกาย แถมได้เพื่อนด้วย

วันหยุด

วันหยุดนักเรียนส่วนใหญ่ก็จะออกไปเที่ยวในเมือง ไม่ก็สถานที่ต่าง ๆ ไปกินข้าว ไปดื่ม ไปเดินเล่น ร้องคาราโอเกะ เล่นโบว์ลิ่ง ยิงปืน แล้วแต่ความชอบของแต่ละคน วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวกับร้านอาหารบางส่วนให้ค่ะ

SM mall เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในบาเกียว ซึ่งถือเป็นแหล่งนัดพบสำคัญของคนบาเกียวเลย ห้างนี้ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ร้านของหวาน ร้านหนังสือ โรงหนัง ห้องคาราโอเกะ และซุปเปอร์มาร์เก็ต โดยตัวตึกสร้างเป็นรูปเรือสำราญ และล้อมรอบไปด้วยต้นไม้สูง ๆ นอกจากนี้ที่นี่ยังมีจุดชมวิวเมืองบาเกียวที่สวยงามมากอีกด้วย และพอเดินออกมาจาก SM mall เล็กน้อย เราก็จะพบกับถนนสายยาวที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร และร้านค้ามากมาย ซึ่งถนนสายนี้ชื่อSession Road ถือเป็นถนนสายหลักของบาเกียวเลยทีเดียว ใครอยากหาของอร่อยกิน แนะนำให้เดินเลือกตามถนนสายนี้ได้เลย

SM mallCamp John Hay ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ มีทั้งบ้านพัก ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านกาแฟ เราสามารถเดินไปเรื่อย ๆ ตามทาง หรือใครกลัวหลงก็ดูแผนที่ก็ได้นะคะ เดินไปเรื่อย ๆ เราจะเจอจุดดูผีเสื้อ จุดปิกนิกที่กระจายอยู่ตามทาง จุดขี่ม้า บ้านและสวนสไตล์ยุโรปสวย ๆ สนามหญ้าที่มีคนมาเล่นกีฬา และอื่น ๆ แต่จุดเด่นที่สำคัญของที่นี่คือกิจกรรมผจญภัยที่หลากหลายค่ะ ทั้งการเทรคกิ้ง การเหินเวหา การทิ้งตัวลงมาจากต้นไม้สูง ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ อีกมากมายตั้งแต่ระดับง่าย ไปจนถึงยาก รับรองเลยว่าใครชอบผจญภัย ที่นี่ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ

Camp John Hayกิจกรรมผจญภัย

Baguio Night Market หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่มีเกือบทุกประเทศคือ ตลาดกลางคืน เช่นเดียวกับที่บาเกียว ตลาดกลางคืนที่โด่งดังที่สุดคือ Baguio Night Market เปิดวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ตั้งแต่ 21.00 - 4.00 น. โดยที่นี่ก็จะเหมือนตลาดกลางคืนทั่วไปคือ มีของกิน ของใช้ เสื้อผ้า ของฝาก และของท้องถิ่นตั้งเรียงรายอยู่สองข้างทาง ให้เราได้เลือกสรร จุดเด่นของที่นี่คือการกิน Balut ซึ่งเป็นไข่เป็ดที่มีไข่แดงกับตัวอ่อนอยู่ เขาเชื่อกันว่ากินแล้วจะสุขภาพแข็งแรง ฟังแล้วอาจจะดูไม่น่ากิน แต่ถ้าใครมาบาเกียวแล้วไม่ได้กิน ถือว่ายังมาไม่ถึงเลยนะ
**ระวังกระเป๋าสตางค์ กับโทรศัพท์ให้ดีนะ ทางที่ดีอย่าพกเงินไปเยอะ เพราะมันอาจจะหายโดยไม่รู้ตัว**

night marketBalut Mickey mouse mountain เป็นภูเขาที่มีจานรับสัญญาณขนาดใหญ่ 2 อันตั้งอยู่ ทำให้มองไกล ๆ แล้วเหมือนมิกกี้ เมาส์ โดยใครที่อยากขึ้นไปบนยอดเขาจะต้องให้คนท้องถิ่น “แอบ” พาขึ้นไปเท่านั้น อย่าเรียกแท็กซี่เด็ดขาด เพราะเราจะเสียเงินฟรี เนื่องจากระหว่างทางขึ้นเขาจะมีด่านตรวจอยู่ ถ้าผู้ตรวจรู้ว่าเราไม่ใช่คนท้องถิ่นจะโดนไล่ลงทันที

บนภูเขานี้มีคาเฟ่ชื่อดังอยู่ ชื่อว่า “Café in the sky” เป็นคาเฟ่ที่ตั้งอยู่สูงเหนือเมฆ ผู้คนนิยมมาดูพระอาทิตย์ขึ้นกันในช่วง 5.00-6.00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงสีทองจะส่องสว่างอยู่เหนือเมฆสีขาวละมุน โดยที่คาเฟ่แห่งนี้มีบริการรถรับส่งไปที่คาเฟ่ด้วย (เบอร์โทรสามารถดูได้ที่ google map พอพิมพ์ชื่อร้านลงไป ก็จะเห็นเลย) หนึ่งรอบนั่งได้ 8 คน แนะนำให้ไปหลาย ๆ คน เพราะค่ารถแพงเอาเรื่องอยู่ ตอนใกล้ถึงด่านตรวจ คนขับรถจะบอกให้เราปิดกระจก และทำตัวเล็ก ๆ เข้าไว้ ไม่ให้ผู้ตรวจเห็น แต่พอผ่านด่านมาได้ เราก็จะได้พบกับวิวทิวทัศน์ของหมอกและภูเขาที่สวยงามมาก ๆ
**ก่อนจะตัดสินใจขึ้นไป อย่าลืมดูสภาพอากาศก่อนนะ ถ้าฝนตก เมฆจะบังพระอาทิตย์ แล้ววิวอาจจะไม่สวยเท่าที่คิดนะ**ร้าน cafe in the skyบรรยากาศท้องฟ้าจาก Cafe in the sky เรากับเมฆอยู่ใกล้กันมาก><

จบไปแล้วกับการรีวิวประสบการณ์การเรียนภาษาอังกฤษในบาเกียว ก่อนจากกันเราอยากจะบอกว่า ตอนที่เรากำลังจะไปเรียนที่ฟิลิปปินส์ คนส่วนใหญ่มักจะบอกเราว่าที่นั่นอันตรายมากนะ ทำให้เรากลัวมาก แต่พอไปจริง ๆ เราได้ค้นพบแล้วว่า ที่บาเกียวเป็นเมืองที่ปลอดภัย และผู้คนที่นี่ก็น่ารักมาก ๆ ทุกคนเป็นกันเอง ร่าเริง คุยง่าย แล้วก็เข้ามาช่วยเหลือเราตลอด แม้จะไม่รู้จักกัน ดังนั้นใครที่อยากหาที่เรียนภาษาอังกฤษในราคาย่อมเยา บาเกียวเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเลย ถ้าว่าง ๆ ก็ลองมากันได้นะคะ^^

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
Fireplace
Fireplace
อ่านบทความอื่นจาก Fireplace

Life is good when you are happy. But life is better when other people are happy because of you.

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์