ไลฟ์แฮ็ก

บูลลี่ Bully คืออะไร ทำไป..เพื่อ?

352
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
บูลลี่ Bully คืออะไร ทำไป..เพื่อ?

ในบรรดาคดีอาญาทั้งหลายแหล่นั้นมีคดีอยู่เรื่องหนึ่ง ที่ปรากฏให้เห็นอยู่เป็นประจำทางโทรทัศน์และทางโซเชียลมีเดียนั่นก็คือ คดีหมิ่นประมาทหรือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาหรือที่เรียกกันว่า " บูลลี่ " (bully) คือ การด่าทอระราน  ดูหมิ่นเหยียดหยามผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม  เป็นเหตุให้ผู้ถูกบูลลี่ได้รับการดูถูกเกลียดชังจากผู้อื่นหรือบุคคลทั่วไป อาจพ่วงด้วยข้อหานำความเท็จให้ปรากฏทางอินเทอร์เน็ตอีกกระทง ซึ่งมีโทษสูงกว่าหมิ่นประมาทธรรมดา เว้นเสียแต่จำเลยจะพิสูจน์ได้ว่า เรื่องที่ตนถูกฟ้องนั้น เป็นความจริง และความจริงที่จะพิสูจน์ จะต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน ซึ่งจะไม่ต้องรับโทษ คือ ต้องมีข้อเท็จจริงครบองค์ประกอบทั้ง 2 อย่างคือ พิสูจน์ได้ว่าเรื่องที่หมิ่นประมาทนั้น เป็นเรื่องจริง ไม่ได้แกล้งใส่ความให้ผู้อื่นเสียหายและเรื่องที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นจริงนั้น จะต้องเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนด้วย  แต่ห้ามพิสูจน์ถ้าเป็นเรื่องส่วนตัว เพราะถ้าพิสูจน์ได้ว่าจริงนั้น ผู้เสียหายก็จะยิ่งเสียหายหนักขึ้นไปอีก  นี่เป็นเรื่องทางกฎหมายทำไม ต้องบูลลี่ Bully

Advertisement

Advertisement

บูลลี่ (Bully) นี้อาจเป็นพร้อมกันทั้ง 2 อย่างก็ได้ คือเป็นทั้ง 1 ประมาท และการพูดที่ไม่สุภาพ คือ ไปด่าทอเขาด้วยถ้อยคำหยาบคาย ส่วนการหมิ่นประมาทนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดไม่สุภาพก็ได้ ใช้คำพูดสุภาพนี่แหละ แต่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย เพราะถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ในทางพุทธศาสนา เรื่องการผิดศีลข้อ 4 มุสาวาท นั้น การพูดคำหยาบนั้น ไม่ได้หมายถึง การพูดไม่สุภาพ แต่เป็นการพูด ที่พูดแล้วเสียดแทงใจผู้อื่น ทำให้ผู้อื่นได้รับความทุกข์ จึงจะเป็นบาป และผิดศีลข้อนี้ แม้ว่าผู้พูดจะพูดคำไม่สุภาพ แต่ถ้าผู้ฟัง ไม่ได้รู้สึกเสียดแทงใจ และเป็นทุกข์ เพราะว่าเป็นเพื่อนสนิทสนมกันและเป็นการพูดหยาบกันเป็นปกติระหว่างเพื่อนฝูง คำพูดนี้แม้จะไม่สุภาพ ก็ไม่ใช่คำหยาบในทางพระพุทธศาสนา เพราะผู้ฟังไม่ได้มีความรู้สึกทุกข์ หรือเสียดแทงใจแต่อย่างใด อาจจะมีความสุขหัวเราะครื้นเครงกันเสียอีก ผลของบาปนั้น นอกจากจะมีในทางกฎหมายต้องเสียเวลาขึ้นโรงขึ้นศาลแล้วในทางผลกรรมก็มีคือ ผู้พูดจะไม่ได้รับความเชื่อถืออีกต่อไป และอาจจะกลายเป็นผู้ถูกดูหมิ่นเกลียดชังเสียเอง เข้าทำนองถ่มน้ำลายขึ้นฟ้าต้องตกลงมารดหน้าตนเอง

Advertisement

Advertisement

  • ข้อนี้...พวกเกรียนคีย์บอร์ดทั้งหลาย ต้องระวัง เพราะอาจจะกลายเป็น จิ้มพลิกชะตา ต้องเที่ยวไปขอขมาน้ำหูน้ำตาไหลพราก ทางที่ดีเอาเวลาที่ไปเที่ยวแส่ส่ายเรื่องของชาวบ้านนั้นมาพัฒนาตนเองจะได้ประโยชน์เสียกว่าStop Bullying
  • คนสมัยนี้จึงสามารถเกลียดกันเข้าไส้ ได้โดยที่ ไม่จำเป็นต้องเคยเห็นหน้าหรือรู้จักกันมาก่อน บางรายถูกศาลสั่งปรับเป็นแสน สองแสนก็มี  การบูลลี่ (bully) และการหมิ่นประมาทนี้เกิดขึ้นจากเจตสิกที่ปนเปื้อนอยู่ในจิตคือ " โกธะ " หรือความผูกโกรธ และอิสสา คือ การอิจฉาริษยา เห็นใครได้ดิบได้ดีเป็นไม่ได้ แทนที่จะมีมุทิตาจิต กลับอิจฉาตาร้อน เดือดปุดๆ เป็นคนหาความสุขได้ยาก เพราะเป็นทุกข์กับความเจริญก้าวหน้าของผู้อื่น หรืออาจมีอติมานะ ดูหมิ่นคนอื่นว่าต้อยต่ำดำเตี้ย หาว่าไม่ดีจริง ไม่เก่งจริง เช่นฐานะ หน้าตา ความรู้ เป็นต้น หรืออาจหมั่นไส้ขึ้นมาเฉย ๆ เพราะได้รับการบอกเล่ามาอีกทีนึงแล้วก็เชื่อทันที  ธรรมะฝ่ายกุศลอย่างหนึ่ง ที่ควรฝึกให้เกิดอยู่ในจิตบ่อย ๆ คือ สติ เมตตา กรุณา อุเบกขา และมุทิตาจิต ซึ่งจะช่วยให้จิตใจใสสะอาดขจัดเจตสิกเหล่านี้ออกไปได้
  • ความจริงแล้วทั้งคำด่า และคำชมสรรเสริญ หรือนินทาทั้งหมด เป็นสิ่งคู่โลกในโลกธรรมแปด เป็นธรรมะอันเป็นธรรมดาของโลก คนไม่ถูกนินทาไม่มีในโลก พุทธพจน์ตรัสอ้างไว้อย่างนี้ คำพูดเป็นเสียงที่ออกจากปากนั้นเป็นเพียงการสั่นสะเทือนของโมเลกุลในอากาศแล้วเข้าไปกระทบ กระดูกรูปทั่ง รูปขวาน รูปโกลน สมองแปลเป็นความหมายแล้วมากระทบจิต จนเกิดเป็นโสตะวิญญาณ ถ้าเป็นการอ่านก็เป็นจักษุวิญญาณ  จากนั้นเวทนา คือทุกข์สุขก็ตามมา ถ้าเป็นคำด่า คำนั้นก็เป็นทุกข์ ถ้าเป็นคำสรรเสริ ก็เป็นสุขตามวงจร " ปฏิจจสมุปบาท "ซึ่งเกิดขึ้นเร็วมากแต่ถ้าตัดตั้งแต่เวทนาเสียได้  วิภวะตัณหา อาการผลักไส และความโกรธก็จะไม่เกิด อุปาทานการยึดติดในคำด่าคำนินทาก็ไม่มีเรื่อง วงจรก็จะสิ้นสุดลงแค่นั้น แต่อีกเหตุหนึ่งที่ต้องมีการฟ้องร้องกันขึ้น ก็เพราะผู้เสียหายต้องการกอบกู้ชื่อเสียงของเขากลับคืนมาเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า เพราะอาจมีผลต่อธุรกิจและการดำเนินชีวิต ของผู้เสียหายตามมา

Advertisement

Advertisement

ไซเบอร์ บูลลี่  ระราน ออนไลน์ สะใจ แต่โทษหนัก

คนสมัยนี้พูดจาหยาบคายและด่าทอกันมากขึ้น โดยไม่สมเหตุสมผล แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันดีงามของคนไทยกำลังหายไป ท่ามกลางข่าวสารยุคไอที เมื่อใดที่ได้ฟังเรื่องราวเหตุการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ นิตยสาร อีเมล Facebook SMS หรือ Twitter ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยมีใครตรวจสอบหาข้อเท็จจริง แต่มักด่วนสรุป นึกเอาเอง แล้วเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นในทันทีทันใด ช่างไม่ต่างกับพวกตาบอดคลำช้างการกลั่นแกล้ง (Bullying) หมายถึง พฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในสังคม โ

  • ในสมัยโบราณเขาก็มีการด่าการนินทาเหมือนกัน มันเป็นของคู่โลกมาแต่รุ่นปู่ย่าตาทวด เราลองมาดูกันสักตัวอย่างดีกว่านะครับ
    ในเสภาเรื่องขุนช้างขุนแผน นางพิมนั้นแสนจะรำคาญขุนช้าง ที่คอยตามจีบ ตามวอแว และเมื่อรู้ว่าขุนช้างเข้าทางแม่ คือเอาเงินไปฟาดหัวนางศรีประจัน แล้วมาสู่ขอนางพิม นางพิมเลยวีนหนักจึงเรียกคนใช้หัวล้านที่อยู่ข้าง ๆ ตนมาด่า เพื่อให้ขุนช้างได้ยิน  ในเสภานั้นนางพิมด่าคนใช้ให้เข้าหูกระเทือนไปถึงขุนช้างว่า

ไอ้เจ้าชู้ลอมปอมกระหม่อมบาง...ลอยชายลากหางเที่ยวเกี้ยวหมา...ชิชะแป้งจันทร์น้ำมันทา...หย่งหน้าสองแคมเหมือนหางเปีย...หมามันจะเกิดชิงหมาเกิด...มึงไปตายเสียเถิดไอ้ห้าเบี้ย...หน้าตาเช่นนี้จะมีเมีย...เม็ดมะม่วงหมาเลียไม่เจียมใจ

นางพิมว่าขุนช้างนั้นเป็นพวกชิงหมาเกิด ไม่มีราคาอะไรสำหรับนาง คือถ้าเอาไปขายก็ได้แค่ห้าเบี้ย ถือว่ามีค่าน้อยมาก และเปรียบขุนช้างเหมือนเม็ดมะม่วงหมาเลีย ที่ใคร ๆ ก็รังเกียจ ไม่อยากแตะต้อง ลองเปรียบเทียบดูนะครับ ว่าคนสมัยนี้กับคนโบราณนั้น คนสมัยไหน " บูลลี่ " (bully) หรือด่าได้เจ็บแสบกว่ากัน

No Bully Zone

ขอน้อมนำคำสอนของครูบาอาจารย์พระอาจารย์ดร.มารุต เมธิโก มาเผยแพร่เป็นวิทยาทานในการอยู่ร่วมกันภายใต้กฎของสังคมครับพระอาจารย์ดร.มารุต เมธิโก วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลาราม


"หลักสำคัญหนึ่งคือ ชีวิตและสรรพสิ่งอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล..คืออาศัยซึ่งกันและกัน มองเห็นความเป็นพี่น้องกัน ภาพลักษณ์ภายนอกที่ตาเนื้อเห็นอาจเหมือนกันหรือแตกต่างกัน แต่โดยสัจธรรมต่างก็เป็นมายาที่ผันแปรไปตามเหตุตามปัจจัยไม่หยุดเลยเหมือนกัน เป็นปรากฎการณ์ชั่วคราวทั้งสิ้นทั้งรูปและนาม อยู่ในกระแสเดียวกันไม่ควรเบียดเบียนกัน การเกื้อกูลกันถูกต้องที่สุด การให้กับ การรับ เกิดขึ้นตลอดเวลา เช่น เราให้วัตถุสิ่งของ เรารับความรู้สึกอิ่มใจพอใจ เป็นต้น การเกื้อกูลกันจึงเป็นความถูกต้องของสัจธรรมของธรรมชาติ คนรู้ธรรม ปฏิบัติธรรม มีธรรมจึงมีการเกื้อกูลและมองเห็นชีวิตและสรรพสิ่ง รวมกันอยู่เป็นหนึ่งเดียวนี่คือ..ภราดรธรรม ความเป็นพี่น้องกันเมตตาหรือเป็นมิตรต่อกัน เช่นนั้นเอง"

เขียนโดย พระยมอมยิ้ม
ภาพปก ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ภาพประกอบที่ 1 ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ภาพประกอบที่ 2 ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ภาพประกอบที่ 3 ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ภาพประกอบที่ 4 ภาพถ่ายโดย cottonbro จาก Pexels
ภาพประกอบที่ 5 ภาพโดยผู้เขียน
ภาพประกอบที่ 6 ภาพโดยผู้เขียน

ขอบคุณที่อ่านบทความของพระยมอมยิ้มครับ
Facebook : Ajarn.JarunCorrect
Youtube : youtube

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
พระยมอมยิ้ม
พระยมอมยิ้ม
อ่านบทความอื่นจาก พระยมอมยิ้ม

ผู้คุมเรือนจำ ผู้พบเห็นกฎแห่งกรรม ศึกษาธรรมะและกฎหมาย อยากแบ่งปันประสบการณ์จริงในชีวิตเพื่อเป็นวิทยา

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์