ไลฟ์แฮ็ก
ปลูกต้นหอมญี่ปุ่น จากซุปเปอร์มาร์เก็ต
ปฏิเสธไม่ได้ว่า หลังจากผ่านช่วงกักตัวเนื่องจากสถานการณ์ Covid -19 มานั้น มีพ่อครัว แม่ครัว หน้าใหม่ ๆ เกิดขึ้นมาในวงการชาวโซเชียลมีเดียมากมายหลายสาย ทั้งสายนักทำขนมและสายนักปรุงอาหาร หนึ่งในอาหารที่เป็นที่นิยมมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงในบ้านเรามาเป็นเวลานาน ซึ่งวัตถุดิบหนึ่ง ที่มักถูกใช้ในอาหารเกาหลี และญี่ปุ่นก็คือ ต้นหอมญี่ปุ่น นั่นเอง เจ้าต้นขาวอวบ รสหวานละมุนนั่น ใส่ในจานไหน ๆ ก็ดูดีไปหมด วันนี้เราเลยอยากจะชวนทุก ๆ คนปลูกต้นหอมญี่ปุ่นเอาไว้กินเองกันดีกว่า ต้นหอมญี่ปุ่นที่ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้น ก็นำมาปลูกใหม่ได้อย่างง่าย ๆ เหมือนต้นหอมทั่วไป ก็เจ้าหัวที่ต้องตัดทิ้งนั่น เก็บไว้ก่อนนะ ถ้าเสียดายทีหลังไม่รู้ด้วย
วิธีทำ
1. ตัดหัวต้นหอมญี่ปุ่น ให้เหลืออย่างน้อย 1 นิ้วขึ้นไป
Advertisement
Advertisement
2. ถ้ามีรากติดมาด้วย เล็มรากออกให้เหลือประมาณ 1 ซม. ไม่มีรากติดมาก็สามารถใช้ได้
3. แช่ในน้ำ ไม่ต้องให้ระดับน้ำสูงมาก จะทำให้เน่าได้ง่าย เพียงไม่นานก็จะเห็นได้ว่าต้นเจริญเติบโตขึ้นมา
4. ควรเปลี่ยนน้ำทุกวัน เพื่อให้น้ำมีธาตุอาหารอยู่เสมอ และป้องกันการเน่าเสีย
5. เมื่อต้นหอมญี่ปุ่นดูแข็งแรงดีแล้ว สามารถย้ายลงปลูกในดินได้เลย
ต้นหอมญี่ปุ่น ( Leeks ) นอกจากจะอร่อยแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากอีกด้วย ทั้งมีโปรตีนสูง แคลเซียมและฟอสฟอรัส มีวิตามิน A C และ K ช่วยลดคอเลสเตอรอล ช่วยเรื่องความดันโลหิต ป้องกันหลอดเลือดหัวใจตีบ และอื่น ๆ อีกมากมาย
สภาพอากาศแบบบ้านเรานั้นก็ปลูกได้ดี ต้นหอมญี่ปุ่น ชอบดินที่ร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี ห้ามให้น้ำขังเดี๋ยวจะเน่าเสียก่อน ปลูกในที่ที่ได้รับแสงแดดอย่างเต็มที่ ควรใช้ดินที่มีธาตุอาหารมาก เพราะต้นหอมญี่ปุ่นค่อนข้างใช้ธาตุอาหารเยอะในการเจริญเติบโต เริ่มแรกควรกลบดินแค่โคนก่อน เมื่อต้นหอมติดแล้ว ค่อยกลบดินให้สูงขึ้นหากอยากได้ส่วนต้นขาวอวบเยอะ ๆ ( ที่เป็นสีขาวเพราะไม่โดนแดด ) เมื่อลำต้นสูงขึ้น ก็ทำการกลบโคนไปเรื่อย ๆ ลำต้นสีขาวก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม
Advertisement
Advertisement
เพียงแค่ขั้นตอนง่าย ๆ เหล่านี้ เราก็สามารถปลูกต้นหอมญี่ปุ่นเองได้แล้ว นอกจากจะได้ประหยัดเงิน ยังได้วัตถุดิบปลอดสารพิษเอาไว้ทำอาหารให้คนที่เรารัก และยังมีต้นหอมอวบ ๆ แตกใบสวย ๆ เอาไว้ชื่นชมอีกด้วย
ขอบคุณภาพปกจาก www.canva.com
ขอบคุณภาพประกอบที่ 1 จาก pixabay.com
ภาพประกอบ 2 - 4 โดยผู้เขียน
ขอบคุณข้อมูลสืบค้นเพิ่มเติมจาก
ความคิดเห็น