ปวดเข่าให้ลองเปลี่ยนรองเท้า

จากเหตุการณ์ที่ฉันประสบอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาจนเอ็นไขว้หน้าเข่าขวาฉีกขาดเมื่อปี 2551 ก็จะมีอาการปวดเข่ามาโดยตลอด

ครั้งแรกหลังเกิดอุบัติเหตุใหม่ๆ ก็ไปหาหมอที่ใกล้ที่สุด เจอหมอบิดเข่าจนร้อง แล้วหมอก็บอกว่าต้องรีบผ่าตัดนะ เพราะหากอายุเกินสามสิบแล้วจะไม่ดี หมอพูดง่ายนะ แต่เราสิทำใจยาก

ถ้าจะผ่าตัดทั้งทีก็ต้องวางแผนมากกว่านี้ไหม หาหมอที่ไว้ใจได้ วางแผนหยุดงานอีก บลาๆๆ ก็เลยตัดสินใจไปหาหมอศิริราช คลินิกนอกเวลาดีกว่า

หมอศิริราชบอกว่ายังไม่จำเป็นต้องผ่าตัด ใช้กายภาพเอาก็ได้ เพราะผ่าตัดก็ต้องกายภาพอยู่ดี

ก็เทียวไปเทียวมาหาหมอ ทำกายภาพ ทานยาเวลาปวด กินทีไรก็หายปวดเข่า แล้วไปปวดท้องแทนทุกที เพราะยามีฤทธิ์กัดกระเพาะมาก ต้องกินยาเคลือบกระเพาะเพิ่มเติมอีก

ฉันก็เริ่มกายภาพด้วยการปั่นจักรยาน และทำกายภาพตามท่าที่หมอให้มาเป็นอย่างดี นัดไปวัดสมรรถภาพเข่าขวา เหมือนเป็นนักกีฬาทีมชาติกันเลยทีเดียว (แต่ความสามารถกีฬาระดับตำบล) เพื่อวัดว่าขาขวาที่เอ็นไขว้หน้าขาดนั้นมีสมรรถภาพใกล้เคียงขาซ้ายที่ปกติมากกว่าหรือเท่ากับ 80 เปอร์เซ็นต์หรือยัง ถ้าได้แล้วก็จะถือว่าโอเคไม่จำเป็นต้องผ่าตัด

ดั้นด้นไปสืบหาว่าหมอที่เคยผ่าตัดเราย้ายไปไหน จนรู้ว่าย้ายไปอยู่วิชัยยุทธ ก็ตามไปหา หมอยังจำกันไม่ได้เลย แถมยังถามว่าหาหมอเจอได้ไง สรุปหมอก็บอกว่าที่ผ่าตัดยังปกติดีอยู่ ได้ยามากินเหมือนเดิม ใช้ประกันสุขภาพของบริษัท แถมยังต้องจ่ายส่วนต่างอีกเป็นพัน เจอกันครั้งสุดท้ายนะคะ วิชัยยุทธ!

ภาพโดย Ollebolle123 จาก Pixabay

จนมาเช้าวันหนึ่งเมื่อปี 2559 ตื่นมาแล้วเดินไม่ไหวเพราะเข่าบวม ต้องโทรไปนัดหมอคลินิกนอกเวลาอีกละ คราวนี้ได้เจอกับคุณหมอทศศาสตร์ หาญรุ่งโรจน์ ท่านก็สั่งเอ็กเรย์อะไรปกติ เพราะเราเจอกันครั้งแรก หมอบอกว่าไม่มีน็อตอะไรนั่นนะ เอ็นอะไรก็อยู่ดี แถมถามถึงหมอที่เราไปผ่าตัดมาด้วยอีกต่างหาก แกมเปรยว่า หมอคนนี้เค้าไปทางนั้นแล้วเนอะ (นึกภาพตามนะคะ หมอเอกชน กับหมอศิริราชน่ะค่ะ ทั้งเรื่องค่าตัว เงินเดือน บลาๆๆ เค้าก็มีเหตุผลส่วนตัวของเค้าอ่ะนะ) ก็ชวนคุยเหมือนเป็นญาติ เหมือนลูก มาเยี่ยมเยียนถามไถ่สารทุกข์สุกดิบเสียมากกว่า

ก็ซักประวัติกันไปมา ให้ยืน นั่ง เหยียดขา ไม่ถึง 5 นาที

สรุปหมอให้ซื้อแผ่นรองเท้ามาทดลองค่ะ เนื่องจากฉันเท้าแบน

ขออธิบายเท้าแบนนิดนึงตามความเข้าใจของฉันเองนะคะว่า การที่เท้าแบนนี่ อุ้งเท้าแทนที่จะเว้าขึ้นมา มันก็จะแบนราบไปกับพื้น ทำให้เข่าเรางอผิดองศาตลอดเวลา ทำให้มีแรงบิดไปที่เข่า alignment ไม่ได้ศูนย์ ตามศัพท์ทางช่าง ทางวิศวกรรม เพื่อให้นึกภาพออก ให้ดูภาพประกอบนะคะ

ภาพโดย ผู้เขียน

สรุปหายเป็นปลิดทิ้งค่ะ กับอาการปวดเข่าที่เป็นมากว่าทศวรรษ คุณหมอทศศาสตร์เป็นหมอเพียงคนเดียวที่มองไปจุดอื่นที่ไม่ใช่เข่า มองหาสาเหตุปัญหาอย่างแท้จริง และคุณหมอสั่งให้ไปซื้อรองเท้ามาสองคู่ ระบุยี่ห้อมาให้ ไว้ใส่ในบ้านหนึ่งคู่ และนอกบ้านอีกคู่ คือ หมอให้ใส่ตลอด 24 ชั่วโมงนั่นเอง แต่ด้วยความเคยชินของตัวเองแล้วก็ชอบเดินเท้าเปล่าในบ้านเนอะ ชอบแบบเท้าโล่งๆ ให้เดินใส่รองเท้าในบ้าน ในห้องนอน มันไม่ค่อยชินน่ะค่ะ

แล้วก็นัดทุกสามเดือน หกเดือนเรื่อยมา หมอบอกว่า มาเถอะ เดี๋ยวจะนัดยาก ทั้งๆ ที่เราก็แทบจะหายดีแล้ว ต้องขอขอบพระคุณหมอมากๆ เลยค่ะ

รองเท้าที่ผลิตมาเพื่อสุขภาพก็มีหลายยี่ห้อนะคะ ราคาก็ค่อนข้างแพงกว่าธรรมดา แต่หากใครมีปัญหาปวดเข่าก็ทดลองหาใส่ดูก่อนก็ได้ค่ะ เพราะหากจะแนะนำให้ไปหาคุณหมอก็ไม่แน่ใจว่าหมอทุกคนจะมีความเห็นเหมือนกันหรือไม่ค่ะ

เรื่องร่างกายนี่ต้องใส่ใจ ให้เวลา สังเกตมันให้ดีนะคะ หลายอาการก็ใช้เวลาหาสาเหตุก็นานมากค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีกันถ้วนหน้านะคะ