ผีปอบในหมู่บ้าน

มาถึงเรื่องเล่าอันสยองขวัญอีกเรื่องหนึ่ง  เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยก่อน  สมัยที่ผู้เขียนยังไม่ลืมตาดูโลกเลย  แต่คุณย่าได้เล่าให้ผู้เขียนฟังอีกที  โดยเรื่องมีอยู่ว่า  ในต่างจังหวัดทางภาคอีสานเวลามีการจัดงานต่างๆ เช่น งานบวช  งานแต่งงาน  ทุกคนในหมู่บ้านแถบชนบทไม่ว่าจะบ้านใกล้หรือบ้านไกล  เมื่อต่างรู้ว่าบ้านหลังใดมีการจัดงานขึ้น จะรีบกุลีกุจอมาช่วยงาน เรียกว่า การเอาแรง

เมื่อมีการจัดงาน  ก็ต้องล้มวัว  ควาย  เป็ด  ไก่  รวมทั้งหมูในเล้า  เพื่อนำมาประกอบอาหารในงานเลี้ยงแขก  ในสมัยก่อนนิยมเลี้ยงสัตว์ต่างๆ เหล่านี้ไว้กินเอง  ไม่ต้องไปซื้อหาให้ยุ่งยาก  จึงช่วยทำให้เจ้าของงานประหยัดเงินทองได้มาก

ในหมู่บ้านหนึ่ง  มีข่าวลือหนาหูว่า ผีปอบชุกชุมมาก เนื่องจากมีเหตุการณ์ในงานแต่งงานของบ้านหลังหนึ่ง  มีการจัดหาอาหารมาเลี้ยงแขกตามปกติโดยฆ่าหมูตัวหนึ่ง  พอจะจัดการเอามีดชำแหละชิ้นเนื้อรวมทั้งเครื่องในออกมา  ต่างก็ตกตะลึงเป็นอย่างมาก เพราะเครื่องในต่างๆที่อยู่ในตัวของหมูได้หายไปจนหมด  เหตุการณ์นี้ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก  หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นได้ไม่นาน  คนในหมู่บ้านเริ่มทยอยล้มป่วย และตายลงหลายคนอย่างไม่ทราบสาเหตุ  สภาพศพที่ตายมีสภาพที่คล้ายกันคือ ผอมแห้งจนหนังติดกระดูก และส่งกลิ่นเหม็นมากราวกับตายมาแล้วหลายวัน  คนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นฝีมือของ "ปอบ"  ชาวบ้านต่างหวาดผวากันเป็นอย่างมาก  จนถึงขนาดไปตามหมอผีจากในตัวอำเภอที่มีฝีมือหลายคนมาปราบ  แต่ก็ทำอะไรได้ไม่มากนัก เพราะปอบมันมีหลายตัว  และมีฤทธิ์มาก จนบรรดาหมอผีสู้ฤทธิ์มันไม่ไหวจึงไม่มีคนใดกล้าเข้ามาจัดการกับผีปอบที่หมู่บ้านนี้เลย

เครดิตภาพ  ภาพโดย Rafael Talkar จาก Pixabay

ทุกคนในหมู่บ้านต่างโล่งอก ดีใจเป็นอย่างมาก  ต่างก็ยกมือพนมขึ้นหัว และขอของดีจากหลวงพ่อไว้  หลวงพ่อเอามือชี้ไปที่อกแล้วบอกว่า "ของดีในอยู่ที่ในใจ ถ้าใจมีความดีแล้ว นั่นล่ะคือของดีที่มีอยู่ทุกคน"  หลังจากนั้นท่านก็ยิ้มให้ชาวบ้านด้วยความเมตตาแล้วจึงกลับวัด โดยมีผู้ใหญ่บ้านไปส่ง  ส่วนกระบอกไม้ไผ่ซึ่งบรรจุวิญญาณผีปอบอยู่  หลวงพ่อได้นำไปทำพิธีเผาส่งวิญญาณให้ไปผุดไปเกิดตามกรรมเรียบร้อยแล้ว

และนี่ก็เป็นเรื่องราวของผีปอบอีกเรื่อง ที่นำมาเล่าสู่กันฟังค่ะ

ขอบคุณภาพพื้นหลังหน้าปก ภาพโดย chaoselly-foto จาก Pixabay