อื่นๆ
ผีหมา
ผู้เฒ่าผู้แก่ต่างห้ามปรามเชิงหลอกให้กลัวผีซะงั้น คนโบราณหรือคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อน มักจะเตือนลูกเตือนหลานอยู่เสมอ ไม่ให้ใครออกนอกบ้านยามค่ำคืนดึกดื่น เพราะมีผีดุคอยหลอกหลอนคนที่ไม่ชอบอยู่กับบ้าน
คุณยายของผมก็เช่นกัน แกบอกกับลูกกับหลานไว้ชัดเจน แต่มีกฎที่ใดฉันใด ที่นั่นย่อมมีคนแหกกฎฉันนั้น ผมและเหล่าเดอะแก๊งค์นั่นเอง คุณยายห้ามปรามอะไรเป็นต้องพากันไปพิสูจน์เสียทุกเรื่อง แม้ว่าหลาย ๆ ครั้ง จะถูกคุณยายตีก้นด้วยไม้หวายบ่อย ๆ ความหลาบจำไม่เคยมีอยู่ในหัวของพวกผมเสียที
ผมและเหล่าแก๊งค์ ก็คือเหล่าหลาน ๆ ตัวแสบ 3 คน นั่นเอง หน่อย นิ่ม หนุ่ม ชื่อเล่นตั้งได้คล้องจองกันตามอักษร น.หนู พวกเรามีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน หัวโจกคือ ผมเอง ชื่อหน่อย เป็นพี่ใหญ่แต่ตัวเล็กกว่าเพื่อน
Advertisement
Advertisement
ค่ำวันหนึ่ง คุณยายพูดประโยคเดิมเหมือนทุกวัน "รีบนอนกันได้แล้ว อย่าออกไปข้างนอกบ้านนะ เดี๋ยวผีหลอกหัวโกร๋น" คุณยายตบหมอน 2-3 ครั้ง ก่อนจะเอนตัวลงไปนอน พวกเรา 3 แสบ นอนอยู่อีกมุ้งหนึ่งติดกันกับมุ้งของคุณยาย พวกเราชะเง้อมองคุณยายจนแน่ใจว่า คุณยายหลับสนิทแล้ว ผมจึงพยักหน้าให้สัญญาณกับน้อง ๆ แสดงถึงความสะดวก และเริ่มเดินย่องออกจากตัวมุ้งทีละคน
จุดนัดหมายของพวกเราคือ บันไดขั้นสุดท้ายของตัวบ้าน ผมออกมาถึงจุดนัดหมายก่อนเป็นคนแรก ท้องฟ้ามืดแต่สลัวด้วยแสงของพระจันทร์ บริเวณรอบ ๆ บ้าน มีความพริ้วไหวของต้นไม้ใบไม้ด้วยลมอ่อน ๆ ผมรู้สึกเย็นหวาบ ๆ ชอบกลจนหนาวขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่นานนักน้อง ๆ ก็มาถึงที่นัดหมาย เหล่าน้อง ๆ กวาดสายตาไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน สีหน้าคล้าย ๆ เกิดความกลัวขึ้นมาเฉย ๆ ความรู้สึกเหมือนกันกับผมแน่ ๆ ผมพยักหน้าอีกครั้ง ทุกคนเข้าใจโดยปริยายว่า ได้เวลาเริ่มเดินทางกันแล้ว
Advertisement
Advertisement
จุดหมายปลายของพวกเรา คือ วัด ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 300 เมตร ที่วัดมีหนังกลางแปลงมาฉาย พวกเราตื่นตาตื่นใจมาก พวกเราเดินเท้าไปตามถนนลูกรัง สองฝากทางขนาบไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่สลับกับบ้านเรือน ต้นไม้ใหญ่ในความมืดช่างน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ตอนนั้นยังเป็นช่วงหัวค่ำ จึงยังพอมีผู้คนเดินทางไปมาอยู่บ้าง
ขอบคุณภาพจาก DarkWorkX จาก Pixabay.com
พวกเราได้ดูหนังกลางแปลงสมใจอยาก มีผู้คนมานั่งดูกันมากมาย พอเริ่มดึกจึงค่อยทะยอยกับบ้านกันบ้าง พวกเรายังคงนั่งดูอยู่อย่างนั้น โดยไม่มีทีท่าว่าจะมีใครอยากกลับบ้านสักที ความง่วงนอนเริ่มมาแทรกความสนุกเพลินมากขึ้น มองดูผู้คนรอบๆ หายกันไปหมดแล้ว คนฉายนั่งยังนั่งหลับ มันคงดึกพอดู
ขอบคุณภาพจาก KoalaParkLaundromat จาก Pixabay.com
ผมนำทีมน้อง ๆ เดินเท้ากลับบ้านยังเส้นทางเดิม ออกจากตัววัดไปไม่ไกลนัก พวกเราต่างได้ยินเสียงฝีเท้าของใครบางคนเดินตามมาด้วย ผมไม่ได้หันไปมองเจ้าของเสียงนั้น แต่รู้สึกใจชื้นขึ้นนิดหน่อย ที่รู้สึกมีเพื่อนในการเดินเพิ่มขึ้นมาอีก นิ่มเป็นคนเดียวที่หันกลับไปมอง นิ่มกรีดร้องเสียงหลง ตัวสั่น และพูดว่า ผีหลอก ๆ ๆ ผมและหนุ่มช่วยกันพยุงแขนของนิ่มไว้คนละข้าง ดูเหมือนขาของนิ่มจะอ่อนแรงไปเฉยๆ ผมสงสารน้องมาก จึงเร่งเดินเร็วขึ้นหมายให้ถึงบ้านไว ๆ แต่เสียงนั้นก็ยังไม่หายไป แม้ผมกับหนุ่มจะทำใจกล้าหันกลับไปมองเป็นระยะ พวกผมก็ไม่เห็นอะไร ทั้งที่เสียงนั้นก็ยังได้ยินกันอยู่ทุกคน
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณภาพจาก ambroo จาก Pixabay.com
ใกล้จะถึงบ้านไม่กี่สิบเมตร ต้นไม้น้อยใหญ่ข้างทางเดิน ต่างพากันพริ้วไหวแรงขึ้นคล้ายมีคนกำลังขย่ม ความกลัวของพวกเราพุ่งปรี๊ดถึงขีดสุด พวกเราซอยฝีเท้าสุดแรงเกิดจนถึงบ้าน คุณยายตะโกนลั่นมาจากข้างบนบ้าน "เป็นไงล่ะ ยายพูดยายบอกไม่เชื่อ"
พวกเราคลายความกลัวได้บ้างเมื่อได้ยินเสียงของคุณยาย แกไม่ตีก้นพวกเราเหมือนเคย แกโอบกอดและปลอบขวัญจนพวกเราหลับไป
นิ่มเล่าว่า เธอได้หันหลังไปมองตามเสียงนั้น สิ่งที่ปรากฎอยู่คือ หมาไทยสีดำตัวใหญ่นัยน์ตาแดงสด มันแยกเขี้ยวน้ำลายเยิ้มจนหยดลงกับพื้นหญ้า มีเสียงขู่คำรามด้วย เธอจ้องมองมันอยู่ชั่วพริบตา จู่ ๆ มันก็กระโจนใส่ตัวเธอ จนเธอต้องกรีดร้องลั่น ตกใจสุดขีด แขนขาเก้าไม่ออกโดยอัตโนมัติ เธอรู้สึกตัวอีกที ก็ตอนที่อยู่ในอ้อมกอดของคุณยายนั่นแหละ
ขอบคุณภาพจาก Chiemsee2016 จาก Pixabay.com
จำไว้นะครับ การตักเตือนของผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน จริง ๆ ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่มองไม่เห็นหรอกนะครับ ท่านไม่อยากให้พวกเราต้องประสบกับอันตรายต่าง ๆ ในยามค่ำคืน เพราะยามค่ำคืนเป็นช่วงเวลาที่เกิดเหตุเกิดภัยมากที่สุด ส่วนพวกผมที่เจอผี เป็นเพียงผลพลอยได้ที่น่าจนจำไปตลอดชีวิต
ขอบคุณภาพปก DanielaJakob จาก Pixabay.com
ความคิดเห็น