อื่นๆ

พักผ่อนทิพย์ ที่บ้านป่า

130
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
พักผ่อนทิพย์ ที่บ้านป่า

เข้าใจว่าหลายคน โดยเฉพาะคนเมืองหาเช้ากินค่ำ หาค่ำกินเช้าอย่างเรา ๆ คงเหนื่อยล้าจากทุกสิ่งอย่างรอบ ๆ ตัว ที่หมุนไปในแต่ละนาทีอย่างรวดเร็วจนไม่มีแม้แต่เวลาให้สูดลมหายใจได้เต็มปอด ความเร็ว ทำให้สายตาไม่ได้เห็นรายละเอียดของสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัวที่ล้วนเชื่อมโยงกับชีวิต เรากำลังวิ่งตามอะไรก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าจำเป็นต้องวิ่งตาม เข้าใจดี เพราะเราเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

วันนี้เลยอยากพาทุกคนไปสัมผัสวิถีชีวิตที่อาจจะไม่ถึงกับสวนกระแสโลกซะทีเดียว แต่เป็นการเดินตามกระแสโลกที่ช้ากว่าปกติ น่าจะทำให้เราได้พัก ผ่อนคลาย หายเหนื่อย ยิ้มเบา ๆ ไม่อาจรู้ได้ว่าแต่ละคนอยากมีชีวิตที่ตัวเองใฝ่ฝันกันอย่างไร แต่นี่น่าจะเป็นชีวิตหนึ่งที่บางคนอยากมี ถ้าการพักผ่อนในโลกของความจริงมันเป็นไปได้ยากนัก ก็มาพักผ่อนทิพย์ ในบรรยากาศทิพย์ ๆ กันก่อนก็แล้วกัน

Advertisement

Advertisement

  • ว่าด้วยไผ่

ป่าไผ่เหมือนคนหนีเมืองมาเข้าป่า จริง ๆ เราเองก็เป็นคนลูกทุ่งภูธรคนนึงเช่นกัน ไม่ได้เป็นคนเมืองอะไรเลย เพียงแต่รู้สึกว่าชีวิตการทำงานในเมืองได้กลืนกินความสุขในใจบางอย่างไป การย้อนเวลาหรือย้อนกลับไปในจุดเดิมเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้ตามใจ การอยู่กับปัจจุบันและมีความสุขกับปัจจุบันต่างหากที่ควรทำ

ทางเข้าบ้านน้าเป็นอุโมงค์ป่าไผ่ ลมพัดเบา ๆ เสียงพี่น้องต้นไผ่ดังเหมือนกำลังกล่าวต้อนรับพวกเราที่เดินทางมาเยือน

ไผ่มีคุณประโยชน์นานาประการ น้าบอกว่าถ้าเอาไม้ไผ่มาแช่น้ำก่อนประมาณ 3 เดือน แล้วเอาไม้ไผ่นั้นมาใช้งาน ไม้นั้นจะอายุยืนนานถึง 40-50 ปีเลยทีเดียว ของใช้ในบ้าน รวมถึงบางส่วนของตัวบ้าน จึงเต็มไปด้วยวัสดุที่ทำจากไม้ไผ่ ไม่ว่าจะเป็นราวตากผ้า ที่ล้างจาน แคร่ คันเบ็ด และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นที่สำหรับพักผ่อนหย่อนใจให้เจ้าของบ้านและคนมาเยือนได้เป็นอย่างดี

Advertisement

Advertisement

ต้นไผ่

  • ชานบ้าน

กางมุ้งที่หลับที่นอนก็ง่าย ๆ บนบ้านมีห้อง 1 ห้อง ขนาดนอน 3 คนกำลังเหมาะ ผู้หญิงและเด็ก นอนข้างในอุ่นใจดี

หรือหากใครใคร่จะนอนตากแอร์ธรรมชาติตอนกลางคืน ปลอดภัยจากงูเงี้ยวเขี้ยวขอ อยากฟังเสียงแมลงในป่ากล่อมนอน ชานบ้านเหมาะอย่างยิ่ง กางมุ้งกันยุง นอนเรียงกัน 4-5 คนได้สบาย ๆ หลับก็สบาย ไม่เพียงเพราะอากาศดีอย่างเดียว แต่เพราะมองออกไปรอบ ๆ แล้ว...มืดสนิททุกด้าน คนไม่กลัวความมืดอย่างเราชอบมาก แต่ใครกลัวผี คงลำบากหน่อย

กางเต็นท์ส่วนน้า เจ้าของบ้าน น่าจะสบายกว่าใครอื่น เพราะกางเต็นท์นอนข้างบ้าน

ส่วนเรา เสียดายที่พลาดโอกาสนี้ไป เพราะไม่มีเต็นท์ของตัวเอง ชานบ้านหรือจะนอนกลางวันก็สบาย ถ้าไม่ใช่หน้าร้อน ต้นไม้ที่อยู่รอบ ๆ บ้าน ลมที่พัดเบา ๆ ตลอดวัน แทบจะไม่ต้องเปิดพัดลมให้เปลืองไฟเลย

ข้าง ๆ มีระเบียงยื่นออกไปสำหรับนั่งอ่านหนังสือ สูงขึ้นไปหน่อยเป็นชั้นวางหนังสือขนาด 100 เล่มน่าจะได้ คิดว่าสำหรับคนที่ชอบความเงียบ คงมีสมาธิเองโดยไม่ต้องพยายามทำ หรือไม่ก็หลับไปเลย สำหรับเรา ดูทรงตัวเองแล้วน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่า

Advertisement

Advertisement

  • ความเชื่อมโยง

แสงแดด

ตอนเช้า ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์จากลุง ป้า น้า อา ตา ยาย ไปจนถึงคุณทวดต้นไม้รอบ ๆ บ้าน ตื่นมารับแสงอ่อน ๆ สังเคราะห์วิตามินดีให้ร่างกาย แปลก...เป็นใต้ฟ้าเดียวกันกับกรุงเทพฯ แดดเดียวกันกับกรุงเทพฯ แต่กลับรู้สึกว่าแดดที่นี่เป็นแดดปลอดสารพิษ ตากได้อย่างสบายใจ

เป็นเช้าที่มีความหมายมาก ทำให้เห็นคุณค่าของการตื่นเช้า เห็นคุณค่าของหมู่มวลแมกไม้ที่ผลิตอากาศให้เราหายใจ เห็นคุณค่าของแสงแดดอ่อน ๆ ที่ปลุกเราตื่นขึ้นมา เห็นรายละเอียดของทุกอย่างรอบตัวที่เชื่อมโยงกัน ซึ่งน้อยมากที่จะได้เห็นสิ่งเหล่านี้ขณะใช้ชีวิตในเมือง

บันไดแม้แต่บันไดบ้านธรรมดา ๆ เห็นแล้วยังสบายตา สบายใจ เพราะเป็นสิ่งที่มาจากธรรมชาติ ผสมกับศิลปะการใช้ชีวิตของเจ้าของบ้าน

บันไดที่ทำจากไม้ ลงไปสู่หน้าบ้านที่เป็นพื้นหินและดิน ทำให้เราเชื่อมโยงใกล้ชิดกับธรรมชาติมากกว่าพื้นคอนกรีต

  • เปล

สิ่งที่ดูจะมีมากเป็นพิเศษรองจากต้นไผ่ก็คือ...เปล

ไม่ว่าจะเป็นใต้ถุนบ้าน ครัว ข้างบ้าน ริมนา มีเปลไว้สำหรับพักผ่อนได้ทุกที่ บอกคนมาเยือนเป็นนัย ๆ ว่าการพักผ่อนไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่ในห้องนอนเท่านั้น บางที ในห้องนอนอาจจะไม่สงบเท่าที่ต่าง ๆ เหล่านี้ก็ได้ ถ้าจิตใจยังมีความกังวล มีข่าวสารประเดประดังเข้ามา มีเรื่องรบกวนให้ไม่สบายใจอยู่ตลอดเวลาแม้ยามนอน แปลว่าห้องนอนก็ไม่ใช่คำตอบของการพักผ่อนอย่างแท้จริงซะทีเดียว

ใต้ถุนบ้าน

เปลใต้ถุนบ้าน

นั่งจิบกาแฟ นอนฟังเพลง ปลอดภัยยามหน้าฝน

เปลในครัวเปลในครัว

นั่งย่อยหลังกินข้าว นั่งรอคนนั่งกินข้าว นั่งคุยกับคนที่นั่งกินข้าว หรือใครชอบนอนใกล้ของกิน ก็มานอนที่นี่ได้นะ

เปลข้างบ้านเปลข้างบ้าน

ฝนไม่ตก อยากหนีร้อนนอนใต้ต้นไม้ ไม่กลัวงู ก็มานอนตรงนี้

เปลริมนาเปลริมนา

และตรงนี้คลาสสิกที่สุด นอนฟังเสียงต้นกล้าพลิ้วไหว ฟังเสียงใบไผ่ลู่ลม หอมกลิ่นดินกลิ่นธรรมชาติ ที่สำคัญ ใครหลับทิ้งตัวมีโอกาสได้อาบน้ำในนาไปในตัวอย่างแน่นอน

  • เพลงทิพย์

ลำโพงไม่เคยฟังเพลงแล้วรู้สึกดีแบบนี้มาก่อน ไม่ว่าเพลงแนวไหน ฟังที่นี่รู้สึกว่าเพราะหมดทุกแนว เป็นไปได้ไหมว่าเพราะไม่มีอะไรให้เราคิด กังวล ไม่มีอะไรให้รีบทำ ทุกอย่างเป็นไปแบบเรื่อย ๆ กินเรื่อย ๆ เดินเรื่อย ๆ ฟังเพลงก็ฟังไปเรื่อย ๆ ไม่มีไลน์จากลุ่มในออฟฟิศเข้า (555) ไม่มีเสียงรถ เสียงคนโหวกเหวกโวยวาย

เหมือนกำลังอยู่ในอีกโลกนึงที่ไม่คุ้น แต่ชอบ ที่ไม่หวือหวา แต่หลงรัก

  • ตั๊กแตนต่อยมวย

ตั๊กแตน

สีเขียวของกะละมัง ทำเอาเจ้าตัวนี้กลืนไปเป็นเนื้อเดียวกับกะละมัง...น่าจะเป็น "ตั๊กแตนตำข้าว" หรือ "ตั๊กแตนต่อยมวย" ที่ชาวบ้านเรียกกัน เป็นสัตว์ตัวแรกที่ทำให้คนมาเยือนมีชีวิตชีวา

ตอนเด็ก ๆ ตื่นเต้นกันมากถ้าเห็นเจ้าตัวนี้ ถึงแม้จะใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางทุ่งนา และเจอตั๊กแตนบ่อยก็ตาม แต่ก็จะเจอเฉพาะตัวเล็ก ๆ ซึ่งน่าจะแบบเดียวกับที่แม่ค้าจับมาทำตั๊กแตนทอด แต่ไม่บ่อยนักที่จะเห็นตั๊กแตนต่อยมวย พอเห็นที ก็บอกให้มันเต้นบ้าง ให้ทำท่าทางตามที่เราบอกบ้าง โดยเฉพาะท่าต่อยมวย (ตามชื่อที่เรียกกัน) ด้วยลักษณะการยืน ด้วยขาและมือของมัน ท่าที่ออกมาเลยเหมือนคนกำลังยกหมัดต่อยมวย

ตอนเด็ก จึงคิดว่ามันทำได้ตามที่เราบอกจริง ๆ เป็นความบันเทิงของเด็กต่างจังหวัด ที่เล่นกับธรรมชาติทุกสิ่งได้อย่างกลมกลืน

แม้ว่าโตเกินกว่าที่จะกลับไปเชื่อแบบเด็ก ๆ แล้ว แต่ทุกครั้งที่เห็นมัน ก็ยังเข้าข้างตัวเองให้รู้สึกแบบเดิม รู้สึกว่าเจ้าตั๊กแตนต่อยมวยฟังภาษาคนออก คงคล้าย ๆ กับที่เรารู้แล้วว่าซานตาคลอสไม่ได้มีจริง แต่ทุก ๆ คริสต์มาส เราก็แอบตั้งตารอซานตาคลอส เพราะมันคือความสุข

  • บ้านต้นไม้

บ้านต้นไม้ไฮไลต์ของการมาครั้งนี้น่าจะเป็นสิ่งตรงหน้า

ถัดออกไปข้างบ้าน เงยหน้าสูงขึ้นไประหว่างต้นไม้ 2 ต้น ก็จะเห็นบ้านบนต้นไม้ที่ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ ด้วยความที่มันยังไม่สมบูรณ์นี่แหละ จึงเป็นที่ ๆ ให้ลิงอย่างเราได้ขึ้นไปผจญภัยเล่นบนต้นไม้ เล่นอะไรแผลง ๆ เหมือนย้อนเวลากลับไปสู่อดีตที่ไกลมากอีกครั้ง

บันไดขึ้นบ้านต้นไม้ทางขึ้น ก็จะชันประมาณนี้ ไม่ชันธรรมดา แต่ชันแบบตรงดิ่งขึ้นมาเลย

บันไดทำจากไม้ไผ่ มัดเชือกยึดไว้อย่างดี คนหนักไม่เกิน 45 อย่างเราไม่ต้องกลัวหัก

ชานบนต้นไม้ไต่ขึ้นมาถึงขั้นสุดท้ายแล้ว ก็จะมีชานไม้เล็ก ๆ แบบนี้ รอรับกันขาสั่น

ถึงจะเป็นคนไม่กลัวความสูง แถมชอบความสูง และปีนต้นไม้เป็นกิจวัตรตอนเด็กก็ตาม แต่ความชันของบันได กับเสียงของเจ้าหลานชายตัวเล็กที่คอยเชียร์อยู่ข้างล่างยิ่งทำให้ลุ้น ห้ามขาสั่นไม่ได้จริง ๆ

ความสูง 34 ฟุตขาเริ่มหายสั่นแล้ว มองลงไปข้างล่าง คิดว่าน่าจะกำลังยืนอยู่บนความสูงจากระดับพื้นดินประมาณเกือบ ๆ 34 ฟุตได้ เพราะรู้สึกว่าสูงพอ ๆ กับที่กระโดดหอของลูกเสือเลย ไม่มีราวแบบกระโดดหอ แต่มีเชือกให้ห้อยโหน บอกได้คำเดียวว่า...สนุกสนาน
เปลบนต้นไม้

ห้อยโหนเสร็จ ใคร่จะนอนพักผ่อนบนนี้ก็นอนได้ ไม่เคยนอนเปลบนที่สูงขนาดนี้มาก่อน...ก็ได้นอน

น้าบอกว่ากลางคืนถ้าจะขึ้นมานอนบนนี้ก็ได้ ที่กว้างพอให้เอาเต็นท์มากางได้ ปรากฏว่ากลางคืนฝนตก อดโดยปริยาย แต่ต่อให้ฝนไม่ตกก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ อยู่ดี ถึงจะไม่กลัวความสูง ไม่กลัวความมืด แต่กลัว...งู

ระเบียงบนต้นไม้หรืออยากจะขึ้นมานั่งจิบกาแฟ อ่านหนังสือ เล่นกีตาร์ นั่งเงียบ ๆ คนเดียว นั่งคุยกัน 2 คน...บนนี้สะดวกสบาย จะทำอะไรก็ได้ทั้งหมด

ดู ๆ ไป บนนี้ก็คล้าย ๆ กับบ้านข้างล่าง แต่เป็นบ้านย่อส่วน

ระเบียงบนต้นไม้ 2ต้นไม้แค่ 2 ต้น แต่มีโครงสร้างแข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อ มีประโยชน์ต่อมนุษย์หลากหลายแบบคิดไม่ถึง นอกจากผลิตออกซิเจนให้หายใจสะดวกแล้ว ยังผลิตความสบายใจให้สะดวกที่จะหายใจต่อด้วย

แอบคิดว่าถ้าคนเราได้มีโอกาสใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้กันทุกคนและทุกวัน เราจะยังมีป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่สร้างระบบนิเวศให้สมดุล เพราะการเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันอยู่ในทุกช่วงเวลา ย่อมเกิดความรัก หวงแหน ต้องการทะนุถนอมรักษาไว้ให้ดีที่สุด เราคงทำลายธรรมชาติไม่ลง ถ้าเรารู้ว่าเขาดีกับเรามากมายขนาดไหน

  • ควันกันยุง

ควันกันยุงวันไหนยุงเยอะ ยากันยุงไม่ต้อง ไม้ตียุงไฟฟ้าไม่จำเป็น แค่เอาฟืนมาก่อไฟข้างบ้าน ให้ได้ควันพอจาง ๆ ไล่ยุงหนีเข้าป่าไปโดยอัตโนมัติ

  • วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า

ทางเข้าป่าจากหน้าบ้าน มุ่งไปข้างหน้าเป็นทางเดินเข้าป่า มีไม้ดอก ไม้ประดับ เรียงรายอยู่ตลอดระหว่างทาง

ดอกไม้สีม่วงดอกไม้สีเหลืองไม่รู้จักชื่อหรอกว่ามีต้นอะไร ดอกอะไรบ้าง แต่สิ่งที่รู้คือ รู้สึกว่าดอกไม้ ต้นไม้พวกนี้ดูสดใส มีชีวิตชีวามากกว่าที่เห็นในร้านขายต้นไม้ในเมือง คงเป็นเพราะมันได้อยู่ในที่ของมันจริง ๆ ใช้ชีวิตและเติบโตได้อย่างอิสระ ไม่ถูกจำกัดขอบเขต ได้ดูดอากาศบริสุทธิ์แทนควันพิษ เป็นดอกไม้ป่าที่มีคุณค่าในตัวเอง ไม่มีใครย้ายจากดินไปลงกระถางเพื่อตีราคาขายในตลาด

แคร่ ใต้ต้นข่อยเดินมุ่งหน้าไปเรื่อย ๆ ก็เจอลุงต้นข่อยต้นใหญ่ แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาคนที่กำลังจะไปนั่งบนแคร่

เดินมาถึงจุดนี้ ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ป่าทั้งหมดนี้ น้าและอาปลูกขึ้นมา 2 คน ด้วย 4 มือจริง ๆ แกเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเป็นที่ดินเปล่า ๆ ไม่มีอะไรเลย ต้นไม้น้อยใหญ่ทุกต้นที่เห็นนั้นปลูกขึ้นมาเองทั้งหมด และไม่มีต้นไหนเลยที่ไม่ให้ประโยชน์ แม้บางกิ่งก้านจะแก่ร่วงหล่นลงตามพื้น ก็ยังให้เจ้าของบ้านได้เก็บไปทำฟืนไฟหุงข้าวได้อีก

  • บ้านปลา ในบ้านป่า

ศาลาตกปลาศาลาริมบ่อ มีคันเบ็ดทำจากไม้ไผ่แขวนไว้ 1 อันสำหรับตกปลา ถึงมีปลามาก แต่กว่าจะตกได้สักตัวก็อาจจะช้าหน่อย เพราะปลาไม่กินเหยื่ออื่นง่าย ๆ ปกติมันกินตามธรรมชาติในที่ของมันเป็นหลักอยู่แล้ว

ตรงนี้เป็นอีกที่ ที่สอนให้ใจเย็น และหัดช้าลงตามจังหวะของสิ่งแวดล้อมรอบข้างได้อย่างดี สอนให้อยู่กับเพื่อนร่วมโลกอย่างอาทร แค่มันเกิดมาเพื่อเป็นอาหารของเราก็เป็นบุญคุณกับมนุษย์ผู้กินทุกอย่างแบบเรามากแล้ว เวลาที่จับ ก็ต้องใช้วิธีที่ไม่ทำลายล้างผลาญ เวลาที่กิน ก็รู้จักประมาณ กินแต่พอดี ๆ

บ่อปลาบ่อปลาธรรมชาติ...ปลาหมอ ปลานิล และคงอีกหลายปลาที่อยู่ร่วมกันในบ่อนี้ได้ ปล่อยตามธรรมชาติ กินตามธรรมชาติ สุดท้าย เมื่อมันกลายมาเป็นอาหารของเรา เราก็ได้กินปลาที่มาจากธรรมชาติ

ท้ายบ่อ มีไม้ใหญ่คอยบังแดด ส่วนรอบ ๆ บ่อ มีขิง ข่า ตะไคร้ พริก และอีกสารพัดพืชผักสวนครัว

  • โคก หนอง นา ในตำนาน

ทางไปนาเดินลัดเลาะมาด้านข้างบ่อปลา เป็นทางที่ตรงไปยังทุ่งนาเขียว ๆ ที่ ๆ เป็นชีวิตของคนบนโลก ฝายกั้นน้ำด่านแรก ต้องข้ามฝายกั้นน้ำตรงนี้ไป

ข้าง ๆ ทุ่งนา เป็นหนองน้ำยาวไปตลอดแนว น้ำที่ใช้เลี้ยงชีวิตของต้นกล้าในนา รวมถึงชีวิตของพืชผักอื่น ๆ ริมคันนาด้วย

นากล้าข้าวในท้องนาที่เห็น จึงเขียวชอุ่มสดชื่นแบบนี้

นา2"เป็นนาธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมีในการปลูกแม้แต่นิดเดียว ไม่ใส่อะไรเลย แต่ใส่ใจ" เป็นประโยคที่น้าบอกใครต่อใครแล้วแกดูภาคภูมิใจกับสิ่งตรงหน้าที่ได้ทำ...คิดในใจว่า เป็นใคร ใครก็ภูมิใจ แม้แต่คนที่แค่มาดู ไม่ได้ช่วยหยิบจับอะไรที่ทำให้เป็นต้นกล้าขึ้นมาสักต้น ยังภูมิใจแทนเลย

วันนี้เป็นเพียงต้นกล้า ก็ยังเป็นต้นกล้าที่เขียวสดงดงามให้คนมาเห็นได้ชื่นใจ อีกไม่กี่วันพอเริ่มเป็นรวงข้าว ก็คงจะเหลืองอร่ามเต็มท้องนา น่าเสียดายที่ยังไม่มีโอกาสได้เห็นช่วงเวลานั้นของที่นี่ สุดท้ายเมื่อเก็บเกี่ยว คุณประโยชน์ที่อยู่ในแต่ละเม็ดข้าวจะมีคุณค่าต่อร่างกายคนกินขนาดไหน ที่แน่ ๆ อย่างน้อยสิ่งที่กินเข้าไป ไม่ใช่สารเคมีแน่นอน

รังนกกระจาบก่อนกลับ เหลือบไปเห็นรังนกกระจาบบนต้นไม้เพียบเลย นึกไปถึงตอนเด็กที่เล่นทุกอย่างที่ขวางหน้า รังนกกระจาบก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่เป็นของเล่นของเราเช่นกัน คิดย้อนกลับไปถึงเหตุที่ทำให้ต้องย้ายบ้านบ่อย ๆ อยู่ไม่เป็นที่เป็นทาง คงเป็นบาปที่เคยทำไว้กับรังนกกระจาบก็เป็นไปได้ ไม่มีใครชอบให้คนอื่นมาทำลายบ้าน จนต้องพลัดพรากจากบ้านของตัวเองไป...นกก็เหมือนกัน

ดูจากจำนวนบ้านที่มีหลายหลัง ที่นี่คงจะเป็นถิ่นของมันมานานแล้ว...อยู่อาศัยให้สบายนะ คนที่เคยเอารังของพวกเธอมาเล่นในวันนั้น วันนี้เขาไม่ทำแบบนั้นแล้ว

เที่ยวทิพย์ ในความหมายบนโลกโซเชียลคือ ตัวอยู่บ้าน แต่วิญญาณไปเที่ยว

แต่สำหรับ "พักผ่อนทิพย์ ที่บ้านป่า" แห่งนี้ ตั้งใจทำขึ้นเพื่อให้ทุกคนได้พักผ่อนในสถานที่ทิพย์ ๆ ซึ่งแปลว่า ที่ ๆ วิเศษ ที่ ๆ ทำให้รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนอย่างแท้จริง

หวังว่าจะทำให้ทุกคนมีแรงสู้ต่อในโลกของความจริงนะ

กางเต็นท์ 2ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน

เรื่องและภาพโดย a Moment Diary

อัปเดตบทความไลฟ์สไตล์โดนๆ ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ขอบคุณนะ
ขอบคุณนะ
อ่านบทความอื่นจาก ขอบคุณนะ

Present Perfect เพราะวันนี้ดีที่สุดแล้ว

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์