รวม10เพลงที่เทสดีต้องฟัง! Part.1

สวัสดีค่ะ ใครเอ่ยที่ชอบที่ชอบฟังเพลงสากลเหมือนเราบ้างคะ

เราเชื่อว่าหลายๆคนชอบฟังเพลงสากลเเน่หากกดเข้ามาดู เพราะว่าเพลงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ชีวิตเรามีสีสันเเละดําเนินชีวิตได้อย่างสนุกสาน ซึ่งมีเพลงหลายเพลงที่ได้รับความสนใจจากผู้เป็นจํานวนมากเเละได้รับรางวัลไปครองในปีนั้นๆ ดังนั้นเราจึงรวบรวมเพลงที่เราชอบฟังบ่อยๆ เเละเคยติดชาร์ตเพลงมาบ้าง บางเพลงบางคนอาจจะเคยได้ยินมาบ้างเเล้ว มีเพลงอะไรบ้างน้า ไปดูกันเลยย✨

​​​​​​1. Permission to dance  - BTS

เป็นอีกผลงานเพลงหนึ่งของบังทันในส่วนของเอ็มวีเราคิดว่าทําออกมาได้ดีเลย ออกทางคาวบอยซึ่งเป็นเเปลกใหม่สําหรับวง character มีหลายคนเลย เป็นเอ็มวีที่เรียลมาก ธรรมชาติสุดๆสดใสน่ารัก ส่วนของทํานองเป็นเพลงเร็วมีจังหวะที่ลงตัวมาก สบายหูมากที่ได้ฟัง ส่วนที่เราคิดว่าเด่นมากคือเอ็มวีในตอนที่ฉากปล่อยลูกโป่งเเล้วก็มีเเดนเซอร์มาเต้นมันน่ารักมากก  ความหมายของเพลงนี้เหมือนเปรียบเทียบกับการที่เราทำอะไรมาเหนื่อยๆ แล้วก็โยนมันทิ้งไปทำในสิ่งที่ตัวเองชอบโดยไม่ต้องกลัวหรือกังวลอะไร เพลงนี้ให้10/10 เลยค่ะ✨💖

3. Reckless - Madison Beer

ต่อไปเป็นนักร้องหญิงที่มีชื่อว่า Madisonกัน คนนี้เเหละที่สร้างตํานานเผลอสปอยเพลงใน Liveตอนเเต่งหน้า สิ่งที่ทําให้เราชอบเพลงนี้เลยคือเอ็มวี เป็น MV ที่มี concept เทพนิยายเป็นแนวนางฟ้าตัวน้อยฉากที่ทำออกมาเป็นแนวสไตล์ลูกคุณหนูฟิลพึ่งออกมาเจอโลกครั้งเเรกในชีวิตไรงี้ส่วนตัวชอบเอ็มวีนี้ มากๆ สวยมากนักร้องก็สวยด้วย ส่วนทำนองและจังหวะเพลงเป็นเพลงช้ามีกลองตีเป็นจังหวะตอนท่อนแรกมีเสียงหมุนกล่องดนตรีด้วยน่ารักเข้าแนวเอ็มวีมาก ดนตรีมีความหน่วงๆ  ฟังแล้วรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับเนื้อเพลงมากขึ้นจุดเด่นในเพลงนี้คือเอ็มวีที่ผู้กํากับทําออกมาดีอินกับเพลงสุดๆ ส่วนความหมายเพลงนั้นเป็นความหมายออกแนวเศร้าผู้หญิง 2 ผู้ชาย 1 ผู้ชายไปมีคนใหม่ทั้งนั้นที่เรารักกันมาก่อน ผู้หญิงคิดว่าผู้ชายรักเธอมากและคิดว่าผู้ชายจะซื่อสัตย์กับเธอแต่พอเจอผู้หญิงคนอื่นแล้วก็ทิ้งกันไปง่ายๆ เพลงนี้ให้ 10/10!

4 I Like Me Better - Lauv

เพลงนี้ไม่มี MVมีเเค่รูปดอกไม่สีนํ้าเงินฟ้าๆเป็นเพลงเเนวสบายๆให้จินตานาการเหมือนเราอยู่ลอนดอน เป็นเพลงที่แทบจะไม่มีอะไรเลย เเต่สิ่งที่เราคิดว่าเด่นที่สุดคือความเป็นตัวเองของLauv เพลงนี้ดังขึ้นอีกครั้งเมื่อมีศิลปินคนนึงแจฮยอนจาก nct 127 นำไป cover ร้องตามจึงทำให้เพลงนี้เป็นกระแสอีกครั้งในปีที่ผ่านมา เพราะเป็นเพลงสบายๆร้องตามก็ได้

จังหวะเพลงเบาดนตรีไม่เเน่นเหมือนเพลงก่อนๆ เราชอบฟังเพลงนี้ตอนนั่งรถไฟฟ้าเลยเอามากฝาก✨

เพื่อใครอยากฟังเเบบcover ก็ไปฟังกันนะคะ ละมันทุกเวอร์ชั่นเลยอย่าลืมไปฟังกันนะคะให้ 10/10 ทุกเวอร์ชั่นเลย

5. Blank space - Taylor Swift

ต่อไปเป็นเเนวเพลงจริตคุณหนูบ้างเอ็มวีเพลงนี้เป็นเเนวลูกคุณหนูในคฤหาสน์หลังใหญ่ ออกจริตเหมือนบาร์บี้ เอ็มวีมีหลายฉากที่เราชอบมากเช่นฉากปั่นจักรยานในห้องโถง ฉากขี่ม้าขาว ฉากในสวนหลังบ้านคือสิ่งที่ทําให้เอ็มวีนี้เด่นคือความสมูทของฉากมันทําให้ลงตัวกับเนื้อเพลง เเละส่วนทํานองเพลงเป็นเพลงที่ช้าเเต่สมูท เพลงนี้มีจังหวะเดียวทั้งเพลงมีจังหวะที่ชัดทุกท่อน  เเละด้วยความเป็นเทย์เลอร์เเน่นอนเเทบทุกเพลงต้องมีไฮโน๊ตอยู่ท้ายเพลง ความหมายเพลงคือหมายถึงความรักของคนสองคนเเรกๆรักกันดีครั่งรักกันหนักมากเเละหลังๆมาทะเลาะกันด้วยเรื่องอะไรบางอย่างเทย์เลอร์จึงระบายอารมณ์ตัวเองด้วยการทําลายสิ่งของเเละร้องประชดผู้ชายคนนั้น เพลงนี้ฟังเเล้วรู้สึกมีจริตตาม อย่าลืมไปปั่นวิวกันนะให้9/10เลยย

6.Shake It off - Taylor Swift

เเม่เทย์อีกเเล้วค่ะ😢 เอ็มวีเพลงนี้ไม่มีเอ็มวีเเต่เป็นฉากสีพื้นเพราะว่าเหมือนผู้กํากับจะให้ไปโฟกัสกับการเต้นเเต่ละเเบบในเอ็มวีมากกว่า ให้ความรู้สึกจอยดูเเล้วเเฮปปี้100เปอร์เซ็น ในเเต่ละฉากในเอ็มวีจะเกี่ยวกับการเต้นมี การเต้นในเเต่ละฉากในเอ็มวีมีหลายเเนวเลยไม่ว่าจะเป็น บัลเล่ต์,ฮิปฮอป,เชียร์ลีดเดอร์   เอ็มวีเป็นโทนสไตล์ยุคเก่าๆ ให้ความรู้สึกเท่เเบบรุ่นวัยเมกา ส่วนในความหมายเป็นเเนวประชดผู้ชายเเบบสะใจมาก คือทิ้งฉันไปเเล้วฉันก็ไม่เเคร์ไม่สนจ้าา โนสนโนเเคร์เเบบตัวเเม่ ความรู้สึกเพลงนี้คือชอบจังหวะฟังเเล้วต้องโยกตามมีความเป็นตัวเเม่ฟังเเล้วมันส์มาก ให้10/10เลยค่ะ💖

7. drivers license - Olivia Rodrigo

ต่อมาเป็นเพลงที่จากเเต่งกับชีวิตจริงมาดูในส่วนเอ็มวีก่อนเลยเเนวเอ็มวีเป็นเเนวเเสดงถึงมีความโดดเดี่ยวความเหงาดูไม่มีความสุขฉากที่เด่นเลยคือฉากที่ขับรถไฟสีม่วงซึ่งฉากนี้ถ่ายเยอะกว่าฉากอื่นๆสิ่งที่ชอบใน mv นี้คือโอลิเวียแสดงอารมณ์ออกมาได้ถึงคนดู ดูแล้วสื่อถึงความเหงาความเดียวดาย ส่วนทำนองเพลงนั้นมีความช้าแสดงถึงความหน่วงและความเศร้าจากเสียงเสียงร้อง ความหมายเพลงนี้คือให้หวนนึกถึงสิ่งดีๆที่มีให้กันในอดีตถึงตอนนี้จะไม่ได้คบกันแล้วก็ตามก็เอาง่ายๆเลยเขาเคยสอนขับรถเราจนเรามีใบขับขี่แล้ววันนี้เราต้องขับรถผ่านหน้าบ้านเขาภาพในอดีตก็เลยย้อนกลับคืนมา สต.เราชอบเพลงนี้มากๆเพราะมันเป็นเพลงที่ใช้กับชีวิตจริงเพลงนี้คือเป็นเพลงที่เราชอบมาก10000/10เอาไปเลย อย่าลืมไปฟังนะ

8. Love Back - Why Don't We

ถัดจากเพลงเศร้ามาต่อกันที่เพลงสบายไปกันต่อเลยกับเพลงที่มีชื่อว่าLove back เพลงนี้มีคนร้องถึงห้าคน เเต่ว่าเรามาดูส่วนเอ็มวีกันก่อนเลย เอ็มวีเป็นเเนวสไตล์วัยรุ่นที่ขับรถกันอย่าสนุกสนานในหมู่บ้าน เอ็มวีเรียลดูเป็นธรรมชาติให้ฟิลออกไปใช้ชีวิต นอกจากห้าคนนี้ที่อยู่ในเอ็มวีก็ยังมีตัวละครเสริมในบทต่างๆในเอ็มวีให้ความรู้สึกดี สดชื่น ฟังเเล้วมีพลังด้านบวก ในส่วนของสไตล์เพลงนั้นเป็นเเนวน่ารักออกวินเทจนิดๆความเป็นทางด้านบวก ✨ ดนตรีเพลงเร็วมีท่อนที่เราสะดุดหลายจุด ความรู้สึกที่ได้ฟังเพลงนี้คือโครตชอบมันดีมากจริงๆสไตล์เพลงตรงตามหน้าปกเอ็มวีมาก เราชอบทุกอย่างของเพลงนี้เลย✨✨ ให้100/10เล๊ยย

9.Ghost - Justin Bieber

เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เราฟังบ่อยที่สุดเลยก็ว่าได้ในตอนนี้เราชอบเพลงนี้เพราะเราชอบทํานองเพลงนี้มันทําให้เราหวนนึกถึงใครอดีต เพลงนี้มีเอ็มวีที่เเสดงถึงการสูญเสียญาติของจัสติน คนที่เสียชีวิตในเอ็มวีก็คือคุณปู่ของจัสตินที่เสียชีวิตในช่วงโควิด จัสตินเลยเเต่งเพลงนี้ให้คุณปู่เลยเป็นที่มาของเพลงนี้ เอ็มวีครึ่งเเรกคือยังไม่มูฟออนต่างคนต่างเสียใจ เเต่เอ็มวีตอนหลังๆคือเป็นการได้ออกไปใช้ชีวิตเหมือนเดิม มีความสุขเหมือนเดิม ได้ออกไปทําสิ่งต่างๆได้ออกไปใช้ชีวิตในเเบบที่ตัวเองต้องการโดยไม่มีเขาเเล้วได้เรียนรู้สิ่งต่างๆ ทํานองเพลงนี้หน่วงเเต่เป็นเพลงปกติไม่ช้าไม่เร็วให้ความรู้สึกหวนคิดถึงชีวิตในอดีตเพลงนนี้ที่ฟังคือติดใจทํานองมากบวกกับเสียงนุ่มๆมันทําให้เราอินเเล้วความไม่สบายใจก็หายไปเพลงนี้ความหมายในเนื้อเพลงหมายถึง การคิดถึงใครสักคนเเต่ก็ทําอะไรไม่ได้เราจึงได้ปล่อยเขาไป เหลือเเต่อดีตที่เคยมีความสุขด้วยกัน เพลงนี้ตีความหมายได้หลายเเนวเลยเพลงนี้ที่เด่นเลยคือเสียงร้องกับดนตรีเลย เพลงนี้คือ 1000000/10💖 ไปฟังด้วยนะคะ

10. Story of My Life - One Direction

เพลงสุดท้ายเเล้วสําหรับเราคงยกให้One Directionเลย เวลาฆ่าไม่ตายจริงถึงเเม้ว่าจะได้เเยกย้ายกันเเล้ว  ซึ่งเราอินกับเพลงนี้เลยยกมาอีกเพลง เอ็มวีเพลงที่มีภาพอดีตที่กลับไปนึกคิด เอ็มวีไม่ได้มีฉากเวอร์วังให้ความเรียล ให้มีความอบอุ่นนึกคิดย้อนไปในอดีตที่เราเติบโตมายังไง ซึ่งต่างจากเพลงghostที่กล่าวก่อนหน้ามาคือคิดถึงคนที่จากไปเเล้วเเต่  story of my life คือเพลงที่ บอกเล่าถึงความเติบโตของตัวเองในอดีต ส่วนทํานองเพลงก็ไม่เชิงว่าช้าหรือเร็วเกินไปมันให้ฟิลเหมือนพึ่งเลิกกับเเฟนไรงี้55555 เเต่ทํานองเพลงที่คิดว่าเด่นคือท่อนฮุก มันน่าจดจํามากซึ่งเราว่าเพลงนี้วัยรุ่ยไทยน่าจะชอบกันนะ เพราะว่ามันติดหู ความรู้สึกครั้งเเรกที่เราฟังคือชอบมากเเล้วก็ฟังซํ้าๆบ่อยๆ จนเราร้องตามได้เเล้ว สิ่งที่ทําให้เราชอบเพลงนี้คือการเข้าถึงอารมณ์ของผู้ฟังได้เป็นอย่างดี ถ้าให้คะเเนนเพลงนี่คือ10000000/100 เลย ✨ เพลงนี้ห้ามพลาดเลยนะ

เป็นไงบ้างเอ่ยชอบกันมั้ยTT เอาไว้เปิดเล่นก็ได้ บางเอ็มวีอาจดูไม่คุ้นหน่อยก็เปิดไว้ก่อนก็ได้ ฝากคอนเทนต์เเรกของเราด้วยน้า🙏

ขอขอบคุณภาพหน้าปกจาก canva

เครดิตวิดีโอ

คลิปที่1จาก HYBE LABELS

คลิปที่2 จาก Cold Play

คลิปที่3 จาก Madison Beer

คลิปที่4 จาก Lauv

คลิปที่5 จาก NCTMUSIC

คลิปที่6 จาก Taylor Swift

คลิปที่7 จาก Taylor Swift

คลิปที่8 จาก Olivia Rodrigo

คลิปที่9 จาก Why Don't We

คลิปที่10 จาก Justin Bieber

คลิปที่11 จาก One direction

จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !