ไลฟ์แฮ็ก
รวม 5 โปรแกรมตัดต่อเสียงที่ดี และฟรี
งานตัดต่อเสียงถือเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนที่สำคัญสำหรับการสร้างคอนเทนต์ต่าง ๆ โดยต้องยอมรับว่า จำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการจัดการ เพราะแอปตัดต่อเสียงบนสมาร์ทโฟนนั้นมีข้อจำกัดอยู่มาก หากใช้งานเบื้องต้นคงไม่มีปัญหา แต่ถ้ามีความซับซ้อนขึ้น การใช้โปรแกรมบนคอมพิวเตอร์ย่อมสะดวกกว่ามาก ดังนั้นในที่นี้จึงขอแนะนำโปรแกรมตัดต่อเสียงที่เป็นที่นิยมและฟรี รวมถึงมีวีดีโอสอนมากมายไว้ 5 โปรแกรมดังนี้
1. Audacity Windows
ปฏิเสธไม่ได้ว่า Audacity คือโปรแกรมที่อยู่มาอย่างยาวนานสำหรับคนที่ต้องทำงานกับเสียงสำหรับ Windows และยังคงมีการอัปเดตอยู่เสมอ Audacity คือโปรแกรมฟรี ในรูปแบบ Open source ที่รวมความสามารถที่จำเป็นต่อการจัดการเสียงอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการตัดต่อหลายจุด ใส่เอฟเฟค ตัดเสียงรบกวน ไปจนถึงการ Analysis เสียงตลอดจนรองรับงานแบบ Multi-Tracks ไม่ว่าจะซ้อนทับแทรค หรือคร่อมแทรค ถือเป็นที่สุดของโปรแกรมฟรีด้านเสียงของ Windows เลยทีเดียว
Advertisement
Advertisement
2. Garageband Mac
Garageband เป็นโปรแกรมเฉพาะฟากฝั่งของ Mac เท่านั้น โดยมีการใช้งานที่ง่าย หน้าต่างโปรแกรมเป็นแบบสมัยใหม่ แน่นอนว่าเมื่อเป็นผลิตภัณฑ์ของ Apple แล้ว ย่อมทำงานร่วมกับ iPhone iPad ได้ทันที สามารถทำการอัดเสียง เช่น เสียงร้อง, เสียงเครื่องดนตรี หรือ BGM ผ่าน Garageband บน iPhone หรือ iPad แล้วเชื่อมต่อกลับมายัง Garageband บน Mac ได้เลย ซึ่งถือเป็นทีเด็ดฝั่ง Mac ที่ Windows นั้นไม่มี พร้อมมีปุ่มให้กด Share ครบถ้วน และมีความสามารถในการจัดการเสียงได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งใส่เอฟเฟค ตัดเสียงรบกวน ใส่รีเวิร์บ คลิปหัวเสียง ฯลฯ และรองรับการทำงานแบบหลายแทรคด้วย ครบจบได้ในโปรแกรมเดียว
3. Ocenaudio Windows
อีกหนึ่งโปรแกรมที่คนไทยนิยมมาก โดย Ocenaudio เป็นโปรแกรมตัดต่อเสียงในแบบพื้นฐาน ใช้งานง่ายที่สุด ทั้งตัดต่อเสียง เพิ่มเสียงเอฟเฟค เพิ่มระดับเสียง ฯลฯ แต่รองรับการทำงานแบบแทรคเดียวเท่านั้น เหมาะสำหรับงานเสียงพื้นฐานที่ไม่ต้องการรายละเอียดการซ้อนทับแทรค หรือมือใหม่ที่ต้องการหัดใช้งานโปรแกรมด้านเสียง
Advertisement
Advertisement
4. WavePad Mac
WavePad เป็นอีกโปรแกรมเสียงฟรีที่รองรับการใช้งานสำหรับพื้นฐานที่นิยมสำหรับ Mac สูสีกับ Garageband เป็นอย่างมาก ทั้งตัดต่อเสียง ใส่เอฟเฟค ตัดเสียงรบกวน ใส่รีเวิร์บ ฯลฯ มีทีเด็ดที่เหนือกว่าโปรแกรมฟรีอื่น ๆ คือ โดยรองรับหลายสกุลไฟล์ และสามารถเปิดสกุลไฟล์ที่ต่างกันในการทำงานพร้อมกันได้ทันที ไม่จำเป็นต้องแยกแปลงไฟล์ให้เป็นสกุลเดียวกันก่อน และเมื่อจบงานแล้วสามารถรวมไฟล์ที่ต่างสกุลแปลงเป็นสกุลไฟล์ใหม่ได้เลย ไม่ต้องแยกแปลงทีละครั้งเหมือนโปรแกรมอื่น
5. Media.io Browser
เว็บไซต์ตัดต่อภาพเสียง Media.io เป็นการให้ความสะดวกด้วยการตัดต่อภาพและเสียงแบบออนไลน์ ไม่ต้องลงโปรแกรมในเครื่อง พร้อมจัดการแปลงไฟล์ให้เสร็จสรรพ ถือว่ามีความสะดวกอย่างมาก ในงานด้านเสียงรองรับการตัดต่อเสียง, การใส่เอฟเฟค และเพิ่มเสียงพื้นหลัง แต่ไม่รองรับการทำงานแบบหลายแทรค และรองรับการแปลงไฟล์เสียงจากสกุลหนึ่งไปอีกสกุลหนึ่งได้ สำหรับการใช้งานแบบฟรีนั้นมีข้อจำกัดอยู่ เช่น ขนาดของไฟล์ หรือความยาว สามารถดูได้ในส่วนของ Pricing
Advertisement
Advertisement
ทั้งหมดนี้คือโปรแกรมตัดต่อเสียงในแบบฟรี ที่ถือว่าเป็นที่รู้จักกันเป็นวงกว้างที่สุด โดยเฉพาะ Audacity และ Garageband นับว่าเป็นที่สุดของฝั่ง Windows และ Mac เพราะมีฟีเจอร์ที่ครบถ้วนในการจัดการเสียง ทั้งการตัดต่อแบบหลายจุด การรองรับ Multi-Tracks ซึ่งหาได้ยากในโปรแกรมฟรี สามารถใช้งานได้ตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงระดับกึ่งมืออาชีพ โดยมีวีดีโอสอนของคนไทยมากมาย แต่หากต้องการความละเอียดในทางการทำงานอย่างสูงสุดนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาโปรแกรมที่ละเอียดสูงสุดโดยตรงเช่น Adobe Audition แต่จำเป็นต้องมีการซื้อโปรแกรมเพื่อใช้งาน
ขอบคุณภาพประกอบ
ภาพปก pixabay - Pexels
ภาพอื่น ๆ - ผู้เขียน
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
เพราะชีวิตย่อมมีตัวช่วย https://www.facebook.com/chalermchaipress/
ความคิดเห็น