ระวัง! พฤติกรรมผู้หญิงแบบไหน ที่ผู้ชายควรหลีกเลี่ยง

ทุกวันนี้แม้ว่าจะเป็นยุคการสื่อสารไร้พรมแดน ทุกคนอาจเข้าถึงได้แทบทุกสังคมทุกพื้นที่ แต่ก็ยังมีอีกสังคมหนึ่ง ที่มีคนจำนวนน้อยมากจะได้พบเห็น และมีน้อยนิดที่มีผู้คน ได้เข้าไปคลุกคลี นั่นก็คือ "สังคมในคุก"

• แม้ว่าทุกวันนี้เรือนจำจะไม่ใช่ดินแดนสนธยาที่ซ่อนอยู่หลังกำแพงสูงอย่างแต่ก่อนอีกต่อไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าคนทุกคนจะได้เห็นหรือเข้าไปรับรู้ได้ง่าย ๆ แต่ด้วยสภาพสังคมและการดำเนินชีวิตของผู้คนนั้นซับซ้อนเร่งรีบขึ้นเรื่อย ๆ โอกาสที่คนจะต้องเข้าไปนอนในคุกนั้นก็มีมากขึ้น
• ในปัจจุบันนี้ไม่ใช่มีแต่คนชั่วเท่านั้นที่ต้องนอนในคุก แม้แต่คนดีมีศีลธรรมก็อาจติดคุกได้ หากประมาทรู้เท่าไม่ถึงการณ์กับสังคมและเทคโนโลยีที่ซับซ้อนเจริญรุดหน้าขึ้นทุกวันจนตามไม่ทัน
• ผู้เขียนในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มานาน ต้องใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในคุกมาหลายแห่ง จึงได้เห็นว่าการใช้ชีวิตในปัจจุบันนี้ประมาทเลินเล่อไม่ได้เลย เพราะอาจตกเป็นจำเลยติดคุกเอาได้ง่าย ๆ ถ้ามีความประมาทหรือพาตนเองไปอยู่ผิดที่ผิดเวลา

และมีคดีอยู่ประเภทหนึ่ง ที่ผู้เขียนรู้สึกเป็นห่วงผู้ชายอย่างมาก คือ คดีความผิดทางเพศ เช่น คดีอนาจาร คดีข่มขืน ซึ่งมีมากขึ้น และจำเลยนั้นอาจจะไม่ใช่คนชั่วร้ายเสมอไป แต่ถูกลงโทษ ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดได้เหมือนกัน ซึ่งความผิดทางอาญานั้น แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ..

• ประเภทที่ 1 มีความผิด เพราะการกระทำนั้นเป็นความผิดโดยตรง เป็นความผิดในตัวเอง
• ประเภทที่ 2 มีความผิด เพราะกฎหมายบัญญัติให้การกระทำนั้นเป็นความผิด

ภาพประกอบที่ 2 ถ่ายโดย Sora Shimazaki จาก pexels

ความผิดที่เป็นความผิดโดยตรงนั้น แทบทุกคนก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้ว เช่น การลักทรัพย์ การฆ่าผู้อื่น ฉกชิงวิ่งราว ข่มขืน กระทำชำเรา เป็นต้น ซึ่งเป็นความผิดที่ละเมิดศีลธรรม

แต่ความผิดที่เกิดจากกฎหมายบัญญัติให้เป็นความผิดนั้น อาจจะไม่ได้เกี่ยวข้องกับศีลธรรมเลย และความผิดเกี่ยวกับเพศนั้น ไม่จำเป็นว่าจำเลยจะเป็นคนชั่วในทุกกรณี เพียงแต่เป็นผู้ประมาท หรืออาจไม่รู้กฎหมาย แม้กฎหมายจะบอกว่าผู้ใดจะอ้างว่าไม่รู้กฎหมายเพื่อให้ตนไม่ต้องรับผิดนั้นหาได้ไม่ก็ตาม แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ไม่รู้กฎหมาย เพราะกฎหมายนั้นมีอยู่มากมายและเป็นวิชาชีพ คือ เฉพาะคนที่ได้ศึกษามาโดยตรงเท่านั้น ที่จะรู้และเข้าใจได้อย่างดี

• ด้วยความซับซ้อนของสังคมในปัจจุบัน และการก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในการสื่อสาร ในสังคมโซเชียลทำให้ผู้หญิงและผู้ชายสื่อสาร รู้จักกันได้ง่ายและมากขึ้น และกิเลสของคนนั้นก็เพิ่มขึ้นด้วย การติดต่อในทางชู้สาวจึงทำได้ง่าย โรงแรมม่านรูด รีสอร์ทต่าง ๆ ผุดขึ้นมามากมายพอ ๆ กับร้านขายกาแฟ  กรณีผู้ชายกับผู้หญิงสมัครใจยินยอมได้เสียมีความสัมพันธ์กัน อาจจะอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาโดยไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่พอนาน ๆ เข้าเมื่อความรู้สึกเปลี่ยนไป เกิดการทะเลาะเบาะแว้งไม่เข้าใจกัน ฝ่ายชายหรือฝ่ายหญิงไปมีคนใหม่ หรืออาจเพราะเหตุใดก็แล้วแต่ ถ้าฝ่ายหญิงอยากได้ประโยชน์หรืออยากได้เงินขึ้นมาแล้วเอาช่องโหว่ทางกฎหมายมาใช้ ฝ่ายชายจะเดือดร้อนและในทางคดีนั้นก็ยังเสียเปรียบฝ่ายหญิงอยู่มาก

ภาพประกอบที่ 3 ถ่ายโดย Tima Miroshnichenko จาก pexels

ในสังคมในวัฒนธรรมความคิดความเชื่อของคนไทยนั้นเห็นว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอกว่าผู้ชาย แม้ว่ากฎหมายจะให้สิทธิเท่าเทียมกันก็ตาม ผู้ชายจึงต้องตกเป็นจำเลยในคดีทางเพศเสียทั้งสิ้น ไม่ค่อยพบเห็นผู้หญิงตกเป็นจำเลยในคดีเกี่ยวกับเพศ  ยิ่งคดีอนาจารด้วยแล้วจะใช้พยานหลักฐานทางด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ให้พ้นความผิดยากมาก เพราะไม่ได้มีร่องรอยอะไร แม้ว่าบางคดีผู้ชายอาจจะพ้นผิดในภายหลัง แต่ก็สร้างความทุกข์ความเดือดร้อนให้จำเลยอย่างแสนสาหัส ต้องเสียเวลาเสียเงิน เสียหน้าที่การงาน เสียอิสรภาพและเสียชื่อเสียง

• ผู้เขียนเคยอ่านคำพิพากษาฎีกาย่อคดีหนึ่งเมื่อหลายปีมาแล้ว มีสาระสำคัญว่า จำเลยได้นำสืบพยานแวดล้อมซึ่งเป็นพยานบุคคลที่อาศัยอยู่ในบ้านใกล้เรือนเคียงกับจำเลยมาเบิกความว่า ผู้เสียหายนั้นคบหากับจำเลยฉันท์ชู้สาว ผู้เสียหายได้มาหาและเคยนอนค้างบ้านจำเลยตลอดมา ไป ๆมา ๆ อยู่เป็นระยะเวลานานเกือบสองปีแล้ว ผู้เสียหายสมัครใจยินยอมมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย จำเลยไม่ได้ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายเบิกความต่อศาลว่าผู้เสียหายมาค้างที่บ้านจำเลยเป็นประจำเกือบสองปีแล้วจริง ในครั้งก่อน ๆ นั้นผู้เสียหายยินยอมสมัครใจมีเพศสัมพันธ์กับจำเลย แต่ครั้งนี้ที่ผู้เสียหายได้ร้องทุกข์ต่อเจ้าพนักงานสอบสวนนั้น ผู้เสียหายไม่ได้ยินยอม จำเลยจึงมีความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาตน (ตอนนั้นกฎหมายยังใช้คำว่าหญิงอื่น ปัจจุบันใช้คำว่าผู้อื่น หมายถึงทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) จากคดีนี้จะเห็นได้ว่าคนที่มีโอกาสเข้าไปนอนในคุกนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นคนชั่วแต่ประการใด ๆ เลย

ผู้หญิงประเภทหนึ่งมีความอยากได้เงิน มีความอายน้อยลงจึงถือเอาช่องโหว่ทางกฎหมาย ทำการกรรโชกทรัพย์จากฝ่ายชาย หรือที่เรียกว่าแบล็คเมล์ เป็นการหาเงินแบบง่าย ๆ

ภาพประกอบที่ 4 ถ่ายโดย Karolina Grabowska จาก pexels

ทุกวันนี้คนบางคนเห็นเงินเป็นพระเจ้า ประกอบกับจิตใจเสื่อมศีลธรรมลง มีการใช้ช่องทางทางโลกโซเชี่ยลต้มตุ๋นหลอกลวงด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การใช้ภาพถ่ายผู้อื่นทำเป็นรูปโปรไฟล์หลอกเหยื่อว่าเป็นรูปตนเอง ทำทีเป็นถูกอกถูกใจสมัครรักใคร่เป็นแฟน แล้วหาวิธีการหลอกล่อเอาเงินด้วยมารยาต่าง ๆ  จึงขอให้เยาวชนชายได้โปรดระมัดระวังให้จงหนัก ยิ่งถ้าเป็นลูกคนมีชื่อเสียงในสังคม มีเงินมีทองหรือฝ่ายชายเป็นข้าราชการด้วยแล้วก็จะมีวินัยข้าราชการกำกับ ก็ให้ระมัดระวังมีสติให้มากขึ้นอีกหลาย ๆ เท่าทีเดียว เพราะเห็นต้องเข้ามาต่อสู้คดีอยู่ในคุกกันแล้วหลายราย

ภาพปกเครดิตภาพภาพถ่ายโดย Karolina Grabowska จากPexels

เขียนโดย พระยมอมยิ้ม

ติดตามผลงานอื่น ๆ ของพระยมอมยิ้มได้เพิ่มเติมที่

Facebook : Ajarn.JarunCorrect

YouTube : พระยมอมยิ้ม เรื่องเล่ากฎแห่งกรรมและกฎหมาย

ขอขอบคุณทุกๆท่านที่อ่านบทความของพระยมอมยิ้มครับ

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !