อื่นๆ

รักของยาย เพื่อนคุยคลายเหงา“เจ้านกขุนทอง”

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
 รักของยาย เพื่อนคุยคลายเหงา“เจ้านกขุนทอง”

สวัสดีจ้า ยายจ๋า ทักหาแต่เช้า  ห่วงใยเจ้าเล่าขุนทองของยายเอ๋ย เมื่อมีแขกมาหาที่บ้านเหมือนอย่างเคย เจ้าขุนทองทักทายเอ่ยยายเอ๋ยเพื่อนยายมา

คนและสัตว์อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เกิด มีความผูกพันกันหลากหลายชนิด  บางชนิดเจ้าของนั้นเลี้ยงเหมือนลูกในไส้นอนด้วยกัน ทานอาหารด้วยกัน ออกนอกบ้านใส่กระเป๋าพาไปด้วยทุกที่ วิ่งเล่นออกกำลังกาย ทำกิจกรรมด้วยกันได้อย่างหลากหลาย บางคนเคยบอกว่าแม้ว่าจะอยู่คนเดียวโดดเดี่ยวไม่มีใคร แต่ยังไงก็ยังมีสัตว์เลี้ยงที่คอยดูแลเราไม่ให้คาดสายตา มองตามเวลาไม่เจอร้องเรียก ไม่มีใครคุยแต่มีผู้รับฟัง ฟังแล้วไม่เถียง แต่บางชนิดก็เถียงกลับ คอยปลอบคอยให้กำลังใจอยู่เป็นเพื่อนเวลาที่นอนไม่หลับ แค่นี้ก็เพียงพอแล้วชีวิต บางครั้งเวลาที่เราพาสัตว์เลี้ยงที่เรารักไปเที่ยวนอกสถานที่  เราจะรู้สึกมีความสุขที่สัตว์เลี้ยงของเราดีใจเหมือนเรานั้นได้เที่ยวกับคนรู้ใจหรือครอบครัว ทุกอย่างอยู่ที่ความคิดของเรา

Advertisement

Advertisement

เมื่ออายุมากขึ้นเวลาทำให้ต้องอยู่คนเดียว บางครั้งลูกหลานไม่ได้ต้องการให้อยู่คนเดียว พยายามมาหาเพื่อไม่ให้พ่อแม่เหงา  แต่บางทีด้วยภาระที่ต้องรับผิดชอบ แต่ก็จะมาเยี่ยมบ้างในบางวัน บางเดือน หรือบางครั้งหนึ่งปีหนึ่งครั้งจะว่าอะไรกับคนที่อยู่ห่างไกลบ้าน คนที่อยู่บ้านหลังเดียวกัน บางครั้งบางทีมีเวลาได้พูดคุยเจอหน้ากันไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง เพราะเช้ามืดออกไปทำงาน กลับมาอีกทีก็สี่ทุ่มเที่ยงคืน คนที่อยู่ที่บ้านนอนหลับพักผ่อนกันหมด ชีวิตต้องวิ่งตามเวลา จึงทำให้ช่วงนี้ คนที่อยู่โดดเดี่ยวอาจจะเป็นโรคสุดฮิต นั่นคือโรคซึมเศร้า แม้ว่าหน้าจอจะทำให้คนเราใกล้กัน แต่หลังจากนั้นละ เวลาที่ต้องอยู่คนเดียวละมองไปรอบตัวมันดูเคว้งคว้าง

ขอแนะนำตัวบำบัดโรคซึมเศร้าของยายตัวนี้  เรียกเสียงหัวเราะจากยายได้ทั้งวัน นอนกลางวันก็ยืนรอคอยบอกเวลามีคนเดินผ่านมา หรือมาหายาย “ยายนอนพักผ่อนจ้า ยายจ๋า สวัสดีจ้า”  พูดกลับไปกลับมา ตัวนี้คือเพื่อนรู้ใจ เจ้าขุนทอง เจ้าแก้ว แก้วจ๋า ชื่อที่ยายเรียก  เจ้านกขุนทองตัวนี้อยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กๆ เด็กมากยายรับมาอยู่ด้วยตั้งแต่ขนยังไม่หุ้มก้น ขนยังไม่ดำ เหตุที่แก้วได้มาอยู่กับยายเพราะลูกของยายซื้อนกน้อยมาสองตัว พอเวลาผ่านไปตัวหนึ่งหายไป ตัวนั้นยายบอกว่าพูดเก่งมากพูดตามทั้งวัน บางวันนั้นหัวเราะเสียงเหมือนเพื่อนบ้าน บอกให้ทำเสียงคนนั้นคนนี้ทำได้หมด เหตุที่หายไปเพราะวันนั้นตาซึ่งหูหนักฟังไม่ค่อยได้ยิน เวลาคุยด้วยจะต้องพูดเสียงดัง ตาถึงจะได้ยิน  พอนหลุดไปจากกรง ตอนเย็นน่าจะกลับมาเรียกตา ขอกินข้าว เพราะนกที่เลี้ยงจะหาอาหารเองไม่เป็น เพราะคนให้ตั้งแต่เกิด ตาคงไม่ได้ยินเจ้านกเลยบินหายไปเลย ทำให้นกยังเหลือเพียงตัวเดียว ที่เป็นเพื่อนยายอยู่มานานหลายปี

Advertisement

Advertisement

นกขุนทอง เจ้าแก้วขุนทอง อยู่กับยายมาประมาณห้าหกปี เจ้าขุนทองตัวนี้พูดภาษาภูไท แต่สามารถฟังได้ทั้งหมด ถ้าคำไหนอยากพูดก็จะพูด ยายบอกว่าสิ่งที่ยายสอนไม่พูด แต่พอจะพูดพูดในสิ่งที่ไม่ได้สอน  แรกๆที่จะให้พูดนั้นอาจจะสอนยากสักหน่อย  แต่เมื่อไหร่ที่พูดได้เท่านั้น พูดไม่หยุดหายใจ พูดทั้งวัน เห็นหน้าเมื่อไหร่ก็พูด พูดทุกคำที่พูดได้สลับไปมาจนเหนื่อยและหยุดไปเอง

ในทุกเช้า เมื่อยายเดินออกมาจากบ้าน มาให้อาหารเจ้าแก้ว ยายบอกว่ายายไม่ได้ตั้งชื่อให้ เรียกแต่แก้วจ๋า แล้วก็นำหัวอาหารนกมาให้ บางครั้งยายก็จะคุยโทรศัพท์กับตาด้วย  เพราะขณะที่ให้อาหารนก ส่วนมากตาจะไม่ค่อยอยู่บ้าน เช้าไปนาเย็นกลับมาก็มืดค่ำ ยายอยู่บ้านคนเดียว มีครั้งหนึ่งยายคุยโทรศัพท์กับตาเรื่องข้าวปลูก  เตรียมสำหรับการทำนา ซึ่งมีการสั่งซื้อไว้ พอดีว่าทางเทศบางประกาศเสียงตามสายว่าข้าวปลูกนั้นมาแล้ว ให้มารับได้ ยายจึงได้โทรบอกตาและบอกว่า “ข้าวปลูกมาละด้าย” เป็นภาษาภูไท เจ้าแก้วผู้ตั้งใจฟังยายคุยโทรศัพท์   พอยายวางสายจากตาหลังจากนั้นเจ้าแก้วก็พูด “ข้าวปลูกมาละด้าย”พูดไม่หยุดสักที ใครมาก็บอกว่าข้าวปลูกมาแล้ว ทุกครั้งที่ยายได้ยินยายก็จำขำ ในขณะที่ยายเล่าเจ้าแก้วก็พูดขึ้นมา ยายจึงหัวเราะเสียงดังไปหนึ่งรอบ

Advertisement

Advertisement

มองหน้า เจ้านกขุนทองตัวนี้มีนิสัยน่ารักอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กจึงสนิทกับยาย แต่ยายเองไม่เคยปล่อยให้ออกจากกรง  เพราะกลัวว่าเจ้าแก้วจะกลับมาแล้วไม่เจอใครจะหายไปเหมือนเพื่อน จึงไม่ปล่อยและทำกรงเพิ่มเป็นสองชั้นเพราะชั้นเดียวเจ้าแก้วออกได้เพราะแก้วจะเดินส่องหาทางออกมา ถ้าออกมาได้แก้วก็จะออก แต่แก้วรักยายจ๋า

เคยห่างจากกัน แต่โชคชะตาก็นำมาแก้วมาหายายอีกครั้ง   ในครั้งนั้นเพื่อนบ้านที่รู้จักกันมาหายายที่บ้านมาเห็นเจ้าแก้วเข้า รัก  ชอบเพราะแก้วน่ารัก จึงได้ขอซื้อจากยาย ยายเองก็ยอมขายให้เพราะเป็นญาติสนิท ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร  และช่วงนั้นยายไม่ค่อยมีเวลาดูแล แต่พอแก้วไปอยู่กับเจ้าของใหม่เท่านั้น แก้วเกิดดุร้ายกัดคน แม้แต่ตอนที่ให้อาหารแก้วก็ทำร้ายจิกมือเขาจนเป็นแผล ทำตัวไม่น่ารักเหมือนที่อยู่กับยาย จนสุดท้ายแล้วคนที่ซื้อไปนั้นนำกลับมาขายคืนให้ยาย แก้วเลยได้อยู่กับยายมาจนปัจจุบัน

ดื้อตาใส รูปร่างของเจ้าแก้ว เจ้าแก้วเป็นนกขุนทอง  แต่ยายเรียกว่าแก้วจ๋า ดวงตาของเจ้าแก้วนั้นสีดำเหมือนกันกับสีผิวทั้งตัว ตรงปลายของปีกสองข้างจะมีสีขาวเล็กน้อย จงอยปากแหลมปลายที่แหลมมีสีเหลือง ส่วนถัดเข้ามาแรกๆจะสีส้มบริเวณรูจมูกสองข้าง   หัวมีสีดำ แต่ข้างหูนั้นมีสีเหลืองสลับสีดำ ดูแรกๆจะเหมือนแก้วมีมงกุฎ ขาทั้งสองข้างของแก้วมีสีเหลืองอ่อนเล็บแหลมคม สายตามองคอยจ้องตามตลอดเวลาที่มีคนเดินมาเล่นด้วย บางครั้งแก้วก็จะอวดกายเดินขึ้นเดินลง โยกตัวไปมา

ไม่สนิทจะไม่พูดให้ได้ยิน สำหรับเจ้าแก้วแล้วถ้าหากว่าเราเดินไปเล่นด้วยแล้วต้องการให้เจ้าแก้วพูดให้ได้ยินนั้นเจ้าแก้วจะไม่พูด จะเงียบใส่ จนกว่าเราจะเดินกลับไปแก้วจึงเริ่มพูดให้ได้ยิน แต่พอเรามองกลับแก้วก็จะหยุดพูดทันที ต้องมาหลายๆรอบให้แก้วนั้นคุ้นเคย พอเรามาบ่อยแก้วจะพูดทักทายเลย ยิ่งถ้าเรายืนคุยกับยายของแก้ว แก้วก็จะเริ่มเรียกยายโชว์ และพูดตามที่ยายบอกว่าแก้วชอบพูดคำว่าอะไรบ้าง

แก้ว รักของแก้วและยาย  เวลาที่แก้วอยู่บ้านคนเดียว คือตอนที่ยายไปเต้นไทเก๊กกับเพื่อนๆ ซึ่งตอนนั้นจะเป็นตอนที่แก้วกินอาหาร ที่ยายเทให้ และเฝ้ามองดูถนนว่าเมื่อไหร่ยายจะกลับมา เมื่อยายมาแก้วจะร้องทักทายเสียงดัง  ยายมาแล้ว ยายจ๋า ยายจ๋า ร้องเรียกจนกว่ายายจะตอบ แต่ไม่ใช่รอบเดียวเพราะแก้วจะพูดไปเรื่อยๆ จนกว่าแก้วนั้นจะพอใจ

ยายเล่าว่า สำหรับแก้วแล้ว แก้วชอบทำให้ยายมีรอยยิ้ม เหมือนว่ายายมีเพื่อนไม่ได้อยู่คนเดียวในบ้าน เวลาที่มีใครมาหาแก้วจะเรียกยายจ๋า มีคนมาหายาย บางครั้งก็บอกเขาว่ายายจ๋าไม่อยู่ เพราะตอนนั้นยายกำลังนอนพักผ่อน แก้วคงจะกลัวว่าจะมารบกวนเวลานอนพักผ่อนของยาย หลังจากที่ยายนอนพักเพียงพอยายก็จะออกมาทำอาหารที่ครัว แก้วจะมองเห็นยายเดินไปเดินมา จะร้องเรียก ยายจ๋า สวัสดีจ้า บ้างก็ร้องเสียงเด็ก โอฮาโย

คนเราตอนยังเด็กมีพ่อแม่คอยดูแล พอโตมาหน่อยมีเพื่อนคอยช่วยเหลือแต่พ่อแม่ก็ยังคอยอยู่ข้างไม่ห่าง แต่หลังจากนั้นครอบครัวจะมาเป็นที่หนึ่งคู่ครองและลูกคือคนที่เราต้องดูแลพ่อแม่ก็ค่อยๆห่างไปและธรรมชาติทำให้จากไป แต่ก่อนที่พ่อแม่จะแก่เฒ่าและละสังขาร ถึงตอนนี้จะอยู่อย่างโดดเดี่ยวซึ่งลูกหลานมาเล่นด้วยบ้างแต่ด้วยภาระจึงมีบ้างที่เหงา การเลี้ยงนกพูดได้จึงเป็นอย่างหนึ่งที่ทำให้ชีวิตในบั้นปลายสดใจและไม่เหงา
แก้ว

โรคซึมเศร้าไม่มาใกล้ถ้ายังมีเจ้าแก้ว ยายบอกว่ายายไม่เคยรู้สึกเหงา รู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดาย ไม่เคยบอกว่าตัวเองไร้ค่า  เพราะมีคนคอยห่วงใยถามไถ่ยายอยู่ไม่หยุด อย่างเจ้าแก้ว ยายเงียบไปนานแก้วก็เรียก ยายจ๋า อยู่ไหน บางครั้งน่าสงสัยใครจะเป็นโรคซึมเศร้ากันแน่เพราะแค่ยายหายไป เจ้าแก้วก็ร้องหาอยู่ไม่หยุด

ซึ่งในคนสูงอายุนั้นจะมีภาวะซึมเศร้าเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ส่วนมากจะเป็นในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย อาการเหล่านี้จะเกิดซ้ำไปซ้ำมา ถ้าปล่อยให้เกิดแบบนี้ไปนานๆ จะเกิดเป็นโรคซึมเศร้า อาการซึมเศร้าจะแสดงความผิดปกติออกมา อย่างแรกจะเป็นในด้านของอารมณ์ รู้สึกสิ้นหวังไม่มีคุณค่า นำมาถึงนอนไม่หลับ ทานอาหารไม่ได้  ต่อมาในด้านของพฤติกรรม จะเริ่มเคลื่อนไหวช้า คิดน้อยเนื้อต่ำใจตัวเองว่าตัวนั้นมีโรคมากมายมารุมเร้า คิดไม่อยากอยู่ จนนำมาถึงคิดทำร้ายตนเองในเวลาต่อมา

สำหรับยายไม่มีเรื่องแบบนี้เพราะยายมีเจ้าแก้ว ที่ต้องดูแลให้อาหารยามเช้า การสิ้นหวังไม่มี รู้สึกไม่มีค่าก็ไม่เคยเพราะต้องดูแลเจ้าแก้วยายคุยกับเจ้าแก้วว่าถ้ายายไม่อยู่เจ้าแก้วจะอยู่อย่างไร เจ้าแก้วคือเสียงหัวเราะของยาย เพื่อนยายเวลาที่ยายไม่มีเพื่อนคุย ยายต้องไปออกกำลังกายยามเช้าเพื่อที่จะให้ตนเองเดินคล่อง ร่างกายแข็งแรงเดินไปให้อาหารเจ้าแก้วได้รวดเร็วขึ้น

เอียงหน้า

แก้วเฝ้ามองยายไม่ว่ายายจะไปไหน แม้ว่ายายจะไปออกกำลังกายยามเช้าแก้ว แก้วก็จะคอยส่องมองไปจนสุดสายตา และรอเวลาที่ยายกลับมา จำได้แม้กระทั่งเสียงเดินยายแก้วก็จำได้

ยายออกจากบ้านไม่นานก็ต้องกลับเพราะเป็นห่วงเจ้าแก้ว กลัวว่าจะหา กลัวว่าจะหิว สิ่งนี้ทำให้ยายมีความสุขในการใช้ชีวิตมากขึ้นกว่าแต่ก่อน การสอนเจ้าแก้วพูด ยายเล่าว่ายายแก่แล้วไม่รู้ว่าจะสอนเจ้าแก้วให้พูดอะไร เลยสอนแค่ยายจ๋า แก้วจ๋า แล้วยายก็หัวเราะเสียงดัง  ความพิเศษของเจ้าแก้วนั้นไม่เพียงแต่พูดตาม เสียงที่เจ้าแก้วพูดนั้นโทนเสียงเดียวกันกับยายพูด เรียกว่าก็อปปี้วางกันเลย

ีที่อยู่ การเลี้ยงนก สิ่งสำคัญเราต้องมีกรงและสถานที่สำหรับเลี้ยงที่มีพื้นที่กว้างพอสมควร มีที่สำหรับให้นกจับ เพราะนกนั้นนอกจากที่จะจับแล้ว ยังเดินไปเดินมารอบกรง ถ้าพื้นที่แคบเกินไป เวลานานอาจจะทำให้นกไม่แข็งแรงเพราะนกเองก็ต้องออกกำลังกาย กรงที่แขวนนั้นต้องมีลมพัดผ่านอากาศดี มีแสงสว่างเพียงพอ ต้องแขวนอยู่ที่สูงเพราะโดยธรรมชาติของนกแล้ว ไม่ชอบที่จะอยู่ที่ต่ำเพราะมองไม่ค่อยเห็นอันตราย

ถ้าเราเลี้ยงนกแล้ววางไว้กับพื้นอย่างแรกคือความกลัว เพราะบนพื้นนั้นอาจจะมีสุนัขหรือแมว ซึ่งถือเป็นศัตรูของนก และอาจจะมาวิ่งไล่ตบนกให้ตกใจ แต่ถ้าหากเรานำกรงของนกยกสูงขึ้นมาจากพื้นประมาณหนึ่งเมตรจะพ้นสายตาแมว และพ้นมือเด็กที่จะมาเล่นใกล้ๆกรงนก

การเลี้ยงนกนอกจากที่เราเลี้ยงเป็นงานอดิเรกแล้ว เรายังสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อน บางคนที่ใส่ใจและสอนนก อาจจะสามารถปล่อยให้นกอยู่นอกกรงได้ และเวลาที่เรากลับมาบ้านสามารถเรียกนกกลับมาเข้ากรง แต่เพื่อความปลอดภัยเราควรมรพื้นที่เลี้ยงที่แยกส่วนและเหมาะสมจะได้ไม่เป็นการทรมานสัตว์ อย่างที่สองเราต้องมีเวลาที่จะเล่นพูดคุยเป็นเพื่อนเพราะนกเองไม่มีเพื่อนคุย ยิ่งเป็นนกที่พูดได้เขาต้องการคนที่เล่นด้วยคุยด้วย เมื่อตัดสินใจจะเลี้ยงแล้วต้องเลี้ยงเขาและดูแลเขาให้เหมือนสมาชิกในครอบครัวคนหนึ่ง

ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อุ้งเท้าแมว
อุ้งเท้าแมว
อ่านบทความอื่นจาก อุ้งเท้าแมว

รักอิสระ มีพื้นที่ส่วนตัว ชอบเดินทางท่องโลกกว้าง

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์