ไลฟ์แฮ็ก

รีวิวขั้นตอนต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน ง่าย สะดวก รวดเร็ว

3.1k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวขั้นตอนต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี แบบละเอียดยิบทุกขั้นตอน ง่าย สะดวก รวดเร็ว

ในยุคสมัยนี้เวลาติดต่อธุรกรรมหรือติดต่อหน่วยงานต่างๆยิ่งเฉพาะยุคโควิดแบบนี้ด้วยแล้ว ไหนจะต้องต่อทะเบียนรถยนต์ ภาษีรถยนต์ บัตรประชาชน หรือใบขับขี่มาหมดอายุในช่วงนี้อีก เยอะแยะสารพัดไปหมด จะบัตรอะไรก็ตาม ทุกคนก็คงอยากให้มีขั้นตอนที่เข้าใจง่าย สะดวก ใช้เวลาไม่นาน ทางเราได้รวบรวมสรุปขั้นตอนการต่อใบขับขี่ 5 ปี เป็น 5 ปี แบบไม่ต้องเสียเวลาไปนั่งอบรมที่กรมการขนส่ง มาดูขั้นตอนกันแบบละเอียด เข้าใจง่าย เป็นแนวทางในการเข้ารับบริการแค่เพียงแค่อบรมทางออนไลน์ เสร็จแล้วก็โหลดแอป DLT Smart Queue เพื่อจองคิวเข้ารับการดำเนินการต่อที่กรมการขนส่ง พร้อมทริคเล็กๆน้อยๆให้ผ่านฉลุยได้ง่ายแค่เพียงรอบเดียวกันทุกคนเลย

ก่อนจะถึงขั้นตอนในการทำใบขับขี่ เราต้องเตรียมเอกสารกันให้พร้อม โดยสำหรับการต่อใบขับขี่แบบ5ปีเป็น5ปีนั้น ใช้แค่ 2อย่างเท่านั้น คือ

Advertisement

Advertisement

  1. บัตรประชาชน
  2. ใบขับขี่เดิม

    ขั้นตอนการต่อใบขับขี่โดยละเอียด

  • ลงทะเบียนอบรมออนไลน์
  1. เข้าไปยังเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com (โดยสำหรับถ้าลงทะเบียนอบรมออนไลน์ผ่านสมาร์ทโฟนทางกรมการขนส่งแนะนำให้ใช้แอป Google Chrome ในการเข้าเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com เพื่อความเสถียร)1
  2. เข้าสู่หน้าเว็บไซต์ ดังภาพ และกดปุ่ม "ลงทะเบียนเข้ารับการอบรม"2
  3. กรอกรายละเอียดข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อลงทะเบียนอบรม จากนั้นกดปุ่ม "ขั้นตอนต่อไป"3
  4. หากลงทะเบียนสำเร็จจะมีการแจ้ง ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว ให้กดปุ่ม "ขั้นตอนต่อไป"4
  5. เข้าสู่การชมวิดีโออบรมการขับขี่ โดยมีเงื่อนไขของการชมวิดีโอ คือ5

วีดีโอมีความยาว 1 ชั่วโมง / ห้ามย่อหน้าจอเพราะจะทำให้วีดีโอหยุดเล่นทันที และในขณะดูวีดีโอจะมีการสุ่มคำถามขึ้นมา 3 ข้อ คำถามจะไม่ได้ขึ้นมาทีเดียวหลังดูวีดีโอจบ แต่คำถามจะเฉลี่ยขึ้นมาทุกๆ15-20นาที ให้ตอบภายในระยะเวลาจำกัดแล้วคำถามจะหายไป โดยต้องตอบคำถามให้ครบทั้ง 3 ข้อ และหลังจากวิดีโอจบ จะมีปุ่มด้านล่างให้คลิกเพื่อกรอกข้อมูลยืนยันอีกครั้ง6ลักษณะของข้อคำถามตามภาพ ให้เลื่อนลงมาเพื่อเลือกคำตอบ จากนั้นอย่าลืม กดปุ่ม "ตอบ" เพื่อยืนยันคำตอบด้วย7

Advertisement

Advertisement

เมื่อ กดปุ่ม "ตอบ" ระบบจะแจ้งผลว่าท่านได้ตอบคำถามแล้ว ให้กดปุ่ม "ชมวิดีโอต่อ" (หมายเหตุ ต้องชมวิดีโอและตอบคำถามที่สุ่มขึ้นมาให้ครบทั้ง 3 คำถาม คำถามจะขึ้นซักระยะหนึ่ง หากไม่ตอบคำถาม เตรียมตัวเปิดวีดีโออบรมใหม่ได้เลย)

(*ทริคคำแนะนำสำหรับการดูวีดีโอ แนะนำว่าให้ตั้งใจดูดีๆตั้งแต่ต้นจนจบ เพื่อที่จะได้เสียเวลาการอบรมวีดีโอการขับขี่แค่รอบเดียว มิฉะนั้นถ้าตอบคำถามไม่ครบ หรือออกจากวีดีโอกลางครันจะต้องเริ่มการอบรมใหม่ และสำหรับคำถามที่เราเจอ เช่น ปัจจัยหรือข้อปฏิบัติในหัวข้อการอธิบายนั้นมีอะไรบ้างให้เลือกตอบ หรือกฎข้อบังคับหรือข้อห้ามที่ผู้อบรมกล่าวมีกี่ข้อ แนะนำให้ตอนดูวีดีโอใช้โทรศัพท์อีกเครื่องถ่าย แคปรูปเอาไว้ หรือจดไว้คร่าวๆว่าปัจจัย กฎ ข้อบังคับ ข้อห้ามที่ผู้พูดกล่าวคือหัวเรื่องอะไร มีทั้งหมดกี่ข้อ เผื่อใช้ในการตอบคำถาม ส่วนตัวไม่เจอคำถามที่ลงรายละเอียดลึกๆแต่เจอคำถามจำนวนข้อของกฎ ข้อบังคับ ข้อห้ามนี่แหละ ถ่าย จดเอาไว้ดีที่สุด กันพลาดจะได้ผ่านฉลุยรอบเดียว ไม่ต้องเปิดวีดีโอดูใหม่นะจ๊ะ)

Advertisement

Advertisement

6. เมื่อชมวิดีโอจบ ให้กดปุ่มขวาสุดขอบล่างของหน้าจอเพื่อเข้าสู่หน้าจอหลัก กรอกเลขบัตรประชาชนและเลขใบอนุญาตขับรถ และกดปุ่ม “เสร็จสิ้นการอบรม” ระบบจะบันทึกข้อมูลการอบรม หากสำเร็จตามเงื่อนไขทุกข้อแล้ว จะปรากฎปุ่ม "กลับไปยังหน้าแรก" เพื่อตรวจสอบผลการอบรม

8

7. ตรวจสอบสถานะอบรมออนไลน์ โดยการกดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการอบรมออนไลน์” และกรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชนและเลขใบอนุญาตขับรถ แล้วกด “ตรวจสอบสถานะ” เมื่อผ่านการอบรม จะมีหน้าจอแสดงผลดังภาพ (*ในขั้นตอนนี้แนะนำแคปเจอร์หน้าจอนี้บันทึกลงโทรศัพท์ไว้ได้เลยเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ขนส่งดูว่าเราผ่านการอบรมออนไลน์มาแล้ว และจะได้ไม่เสียเวลาเข้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง)

9กลับมายังหน้าแรกของเว็บไซต์ www.dlt-elearning.com กดปุ่ม “ตรวจสอบสถานะการอบรมออนไลน์” ตามภาพ10

กรอกข้อมูลเลขบัตรประชาชนและเลขใบอนุญาตขับรถ แล้วกด “ตรวจสอบสถานะ”11

(*ในขั้นตอนนี้แนะนำแคปเจอร์หน้าจอนี้บันทึกลงโทรศัพท์ไว้ได้เลยเพื่อแสดงให้เจ้าหน้าที่ขนส่งดูว่าเราผ่านการอบรมออนไลน์มาแล้ว และจะได้ไม่เสียเวลาเข้าเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง)


  • การจองคิวเข้ารับบริการ

เมื่อผ่านการอบรมออนไลน์แล้ว ก็ถึงขั้นตอนการจองคิวเพื่อเข้าดำเนินการทำบัตรต่อไป ขั้นตอนนี้ก็สำคัญ แนะนำว่าถ้าอบรมออนไลน์ผ่านแล้ว โหลดแอปเพื่อจองคิวล่วงหน้าไว้เลย เพราะคิววันอบรมของกรมการขนส่ง คนเขาจองคิวกันเยอะมาก อย่างที่เราไปทำคือต้องจองล่วงหน้าเป็นเดือนๆเลย เพราะคิวเต็มตลอด และข้อดีอีกอย่างของการจองออนไลน์คือเจ้าหน้าที่บอกว่าเพื่อความสะดวก รวดเร็วของเราๆเองนั่นแหละค่ะ มาดูขั้นตอนกัน

  1. ดาวน์โหลดแอป DLT Smart Queue สามารถใช้ได้ทั้งระบบปฏิบัติการ IOS และ Android12

2. เข้าสู่ระบบ >> เลือกบัตรประชาชน >> กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วนเพื่อสมัครใช้งาน >> สร้างรหัสผ่านและยืนยันรหัสผ่านที่กรอกไปอีกครั้ง13

เครดิตภาพแคปจาก https://gecc.dlt.go.th:4448/web_booking/page/

3. เลือกสำนักงานขนส่งที่ต้องการจองคิวต่อใบขับขี่ (กดตรงค้นหาสำนักงาน แล้วพิมพ์จังหวัดหรือเขตคร่าวๆจะได้ไม่ต้องเลื่อนหาค่ะ)

14 4. เลือกประเภทของงานบริการเป็น “งานใบอนุญาต”15

5. เลือกวันที่ต้องการต่อใบขับขี่ เลื่อนดูวัน เดือนได้เลย ถ้าวันนั้นๆมีการจองครบแล้วจะขึ้นคำว่า “เต็ม” สีเหลือง ในส่วนของวันที่เราเลือกจองได้ จะขึ้นเป็นจุดๆสีดำกำกับบนวันที่ คือวันที่เราสามารถกดเลือกจองได้จากนั้นให้เลือกรอบบริการ ซึ่งในระบบจะขึ้นรอบเวลา และจำนวนการจองในแต่ละรอบ เช่น 10.30น. 10/20 หมายถึง รอบ 10.30น. รับบริการในรอบนี้จำนวน 20 ที่นั่ง และมีคนทำการจองไปแล้ว 10ที่นั่ง และยังเหลืออีก 10 ที่นั่งที่คุณสามารถจองได้ (ทั้งนี้ให้เลือกเวลาที่สะดวกของเราเลย จำนวน 1/15 10/20 ไม่ได้เป็นการเรียงลำดับคิวในการดำเนินการที่กรมการขนส่ง แต่นับเป็นยอดจำนวนการจองคิวเท่านั้น ซึ่งถ้าคิวในการรับบริการที่ขนส่ง ขึ้นอยู่กับการเรียกของเจ้าหน้าที่ และคิวการมาก่อน-หลังของเราในวันที่เข้ารับการบริการอีกทีค่ะ)17

เลือกคิวการจองโดยเลือกวันที่มีจุดดำๆกำกับ หมายถึง วันนั้นเราสามารถจองได้18จากนั้นเลือกช่วงเวลา ตรวจเช็ครายละเอียดวัน เวลาอีกครั้ง ก่อนกด "ยืนยันการจอง"

6. เมื่อเลือกวันที่ เวลาได้แล้ว ให้กดปุ่ม “ยืนยันการจอง” และแคปหน้าจอนี้ไว้เพื่อแสดงหลักฐานแก่เจ้าหน้าที่ (เก็บไว้อัลบั้มเดียวกับหน้าจอยืนยันการผ่านการอบรมออนไลน์ได้เลย)19

เมื่อยืนยันการจองแล้ว อย่าลืมแคปหน้าจอนี้ไว้แสดงแก่เจ้าหน้าที่พร้อมกับหน้าจอที่ผ่านการอบรม

ในกรณีถ้าเราเกิดไม่ว่างกะทันหันในวันนั้น สามารถยกเลิกการจองคิวได้ โดยวิธีการยกเลิกการจองให้เลือกตรงปุ่มไอคอนน้องหุ่นยนต์มุมล่างซ้าย และกดปุ่ม “ยกเลิกการจองนี้” และหากต้องการจองคิวให้ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนเดิมได้เลย2220


  • การเข้ารับบริการทดสอบสายตา และทำใบขับขี่

เมื่อถึงวันที่ได้ทำการจองไว้ ให้เตรียมบัตรประชาชนใบขับขี่เดิมภาพแคปหน้าจอที่ผ่านการอบรมออนไลน์ และภาพแคปหน้าจอที่ได้ทำการจองคิวออนไลน์ตามวัน เวลาดังกล่าวไว้ และสวมใส่หน้ากากอนามัยมาด้วย

ข้อปฏิบัติคือในวันนั้นให้มาก่อนเวลาที่นัดหมายไว้ประมาณ 15 นาที ตามที่ทางกรมการขนส่งได้แจ้งไว้ในแอป ห้ามมาสายเด็ดขาดเพราะจะทำให้ล่าช้า หรือถูกตัดสิทธิ์ในคิวการเข้ารับบริการในวันนั้น

โปรดแต่งกายให้สุภาพ สวมใส่รองเท้ารัดส้นให้เรียบร้อย

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ต้องเตรียมตัวมาคร่าวๆ มาถึงขั้นตอนการเข้ารับการทดสอบสายตา และทริคเล็กๆน้อยๆที่เราสามารถเตรียมไปได้จากบ้าน เพื่อลดความตื่นเต้น และความพร้อมให้เรามั่นใจและผ่านฉลุยไปได้อย่างง่ายๆกัน

1. เราไปถึงขนส่งและต่อแถวรอก่อนเวลาประมาณ 15 นาที ตามที่ทางกรมการขนส่งระบุ โดยช่วงที่เราเข้ารับบริการเป็นช่วงโควิดจึงมีการต่อแถวรอเพื่อคัดกรอง สแกนอุณหภูมิ ในช่วงนั้นเตรียมถือบัตรประชาชน ใบขับขี่เดิม และหน้าจอผ่านการอบรมและการจองคิวออนไลน์ของเราให้เจ้าหน้าที่ดูเลย

2. จากนั้นเมื่อเรายื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่แล้ว เขาจะเขียนเวลาที่เราทำการจองไว้ตรงหัวเอกสารการทดสอบสมรรถภาพของเรา และบอกให้เราเขียนชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ และยื่นให้เจ้าหน้าที่อีกครั้งเพื่อที่เจ้าหน้าที่จะติดบัตรคิวสีเหลืองให้ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะให้นั่งรอร่วมกับผู้เข้ารับการทดสอบ และรอเจ้าหน้าที่เรียกไปเป็นล็อตๆ

3. ประมาณ 10-15 นาที เจ้าหน้าที่จะเรียกคิวคนที่จองคิวขึ้นไปข้างบนชั้น2 นั่งรอซักครู่เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ในส่วนนี้ขานชื่อเรียกเรา และยื่นเอกสารให้เราเซ็นชื่อ พร้อมทั้งคืนบัตรประชาชนให้เราเก็บได้เลย เมื่อเซ็นต์ชื่อเสร็จแล้ว ให้เราเดินไปยังจุดทดสอบสายตา โดยถือเอกสารที่เซ็นต์ไว้ก่อนเพื่อเตรียมเข้ารับการทดสอบ

4. ในการทดสอบสายตาจะมีด้วยกันอยู่ 4 อย่างตามลำดับ คือ

4.1 การทดสอบการแยกสี/ตาบอดสี (แดง,เหลือง,เขียว)23

โดยในการทดสอบหลังจากเราเซ็นต์ชื่อลงเอกสารเรียบร้อย ถือใบมายืนตรงเส้นสีแดง และอ่านสีตามที่เจ้าหน้าที่ชี้ ซึ่งจะมีด้วยกันอยู่ 3 สี คือ แดง,เหลือง,เขียว เมื่อเห็นสีใดก็เปล่งเสียงบอกเจ้าหน้าที่ตามนั้นประมาณ 3 - 4 ครั้ง จากนั้นวางเอกสารลงในตะกร้า เพื่อเข้ารับการทดสอบต่อไป

4.2 การทดสอบสายตาทางกว้าง26

เป็นการทดสอบสายตาที่ใช้การมองโดยหางตา ซึ่งเราต้องมองตรงโดยห้ามเหล่ตาซ้าย/ขวา แล้วเจ้าหน้าที่จะกดสี ด้านซ้ายขวาสลับไปและให้เราบอกว่าสีที่เห็นว่าเป็นสีอะไรโดยจะมีอยู่ 3 สีด้วยกัน คือ แดง,เหลือง,เขียว เช่นเดิม (ในการทดสอบนี้ทริคในการมองสีก็คือ ถ้าสีแดงจะมีความเข้ม แดงชัด สีเขียวกับเหลืองถ้ามองไวๆจะแยกยากหน่อย แต่ว่าสีเหลืองจะมีความจ้าชัดกว่าสีเขียว)

4.3 การทดสอบปฏิกิริยาในการเหยียบเบรก24

การทดสอบนี้เพื่อทดสอบความว่องไวในการเบรก โดยจะมีคันเร่งอยู่ด้านขวา และเบรกอยู่ด้านซ้าย ในขั้นตอนนี้ ให้เรานั่งลง และใช้เท้าขวาเพียงข้างเดียวเท่านั้น และใช้สายตาในการจับจ้องไฟแสดงสัญญาณข้างหน้า โดยการทดสอบคือให้เราใช้เท้าขวาในการเหยียบคันเร่ง ตามองไปยังข้างหน้าจะเห็นสัญญาณสีเขียว และเมื่อเห็นสัญญาณสีแดงให้เราใช้เท้าขวาในการรีบเหยียบเบรกทันที (ทริคในขั้นตอนนี้คือใช้การมองแค่สัญญาณไฟเขียว และเมื่อเห็นแดงให้กดเหยียบเบรกทันที หรือถ้าตาไวๆให้เหลือบไปดูทางด้านซ้ายของสัญญาณไฟเล็กน้อย จะมีระดับของไฟสีเขียว เมื่อเริ่มเห็นใกล้ขีดสีแดงแล้วให้ใช้ประสาทสัมผัสไวๆในการรีบมาแตะเบรกเพื่อให้เบรกทัน)

4.4 การทดสอบสายตาทางลึก25

เป็นการทดสอบการกะระยะของสายตา โดยเราจะต้องทำให้แท่งสีขาวสองอันตั้งอยู่ในระนาบเดียวกัน และระยะที่ขนานกันห้ามเกิน 1 นิ้วถึงจะผ่าน จะมีอุปกรณ์ให้เราถือคือลักษณะเป็นกล่องกดซึ่งจะมีปุ่มกดสีแดง และสีเขียว โดยปุ่มแดงเป็นปุ่มเลื่อนเข้าหาเราให้ตั้งอยู่ซ้ายมือ และปุ่มเขียวเลื่อนออกจากเราให้ตั้งอยู่ด้านขวามือ เจ้าหน้าที่จะตั้งแกนแล้วให้เราใช้ปุ่มกดเลื่อนเพื่อให้ทั้งสองด้านขนานกัน และเรายกมือยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าเท่ากันแล้ว ถ้าอยู่ในระยะที่ขนานกันอยู่ ถือว่าผ่านการทดสอบ

(ภาพประกอบขั้นตอนการทดสอบสายตาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จากคลิปวีดีโอ "Thai Drive Test การสอบใบขับขี่รถยนต์ ไทย 2549 ร่างกาย" จาก https://www.youtube.com/watch?v=k4cLaeXpgBc)

5. หลังจากผ่านการทดสอบทั้ง4อย่างแล้ว เจ้าหน้าที่จะเซ็นต์รับรองการผ่านการทดสอบให้เราและให้เรานำเอกสารไปยื่นในตะกร้าเพื่อรอเรียกชำระเงิน

6. สำหรับการต่อใบขับขี่รถยนต์จาก5ปีเป็น5ปี ให้เราเตรียมเงินมาจำนวน 505 บาทถ้วน และรอเจ้าหน้าที่เรียกเพื่อชำระเงิน หรือใบขับขี่รถจักรยานยนต์ให้เตรียมเงินจำนวน 255 บาทถ้วน ข้างหน้าเจ้าหน้าที่จะมีซองใส่ใบขับขี่วางไว้ขายให้ด้วยอันละ 10 บาท ถ้ารับก็หยิบแล้ววางเงิน 10 บาทลงตะกร้าได้เลยแต่ถ้าไม่รับก็ไม่เป็นไรจ้า (แนะนำว่าให้กดเงินสดมาให้พร้อมนะคะ เราเห็นบางท่านถามเจ้าหน้าที่ว่าโอนได้ไหมเพราะไม่ได้พกเงินสดมา เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ได้จ้า)

7. หลังจากชำระเงินเรียบร้อยจะได้ใบเสร็จมา พร้อมทั้งเอกสารว่าชำระเงินแล้ว ให้เรานำส่วนใบเสร็จที่แยกมาเก็บใส่กระเป๋าได้เลย จากนั้นต่อแถวเพื่อรอถ่ายรูป ตรงจุดถ่ายรูปจะมีกระจกให้เราได้ส่อง เตรียมเช็คหน้า ผม คอปกเสื้อ ได้เลยว่าเรียบร้อยดีไหม เพื่อความเป๊ะปังเนอะ เพราะบัตรใบนี้จะอยู่กับเราไปอีก5ปี

8. เมื่อเช็คหน้าผมเรียบร้อยแล้ว ให้เตรียมเอกสารที่ได้หลังจากชำระเงินตามที่แจ้งดังข้อ 7 และบัตรประชาชนด้วย (เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเพราะต้องใช้บัตรประชาชนในการเสียบเช็คฐานข้อมูล) ฉะนั้นเตรียมหยิบออกมาเตรียมได้เลย

9. ถึงคิวถ่ายรูปแล้ว เข้าไปนั่งจัดเตรียมเช็คตัวเองให้เรียบร้อย คุณผู้หญิงปล่อยผมได้นะคะ มองตรง มองกล้อง อมยิ้มเล็กน้อย จากนั้นก็ 1 2 3 แชะ! กดถ่ายเรียบร้อย นั่งรอเรียกชื่อ เพื่อมารับใบขับขี่ที่ช่องที่เราถ่ายรูปได้เลยค่ะ

10. รอเจ้าหน้าที่ขานเรียกชื่อ รับใบขับขี่ ตรงจุดเดิมจะมีซองใส่บัตรขายอีกแล้ว 10 บาทเช่นเดิมค่ะ ถ้ารับก็วางเงินลงตะกร้าหยิบเลย ถ้าไม่รับก็รับแต่บัตร แล้วก็กลับได้เลยจ้า

และทั้งหมดนี้ก็คือขั้นตอนในการดำเนินการต่อใบขับขี่แบบ5ปีเป็น5ปี ไม่ยุ่งยากเลยใช่ไหมล่ะคะ เพิ่มเติมเรามีแอปดีๆมาแนะนำสำหรับผู้ที่อยากลองสนามการทดสอบสายตา ตอนแรกเราไม่มั่นใจเลย แต่ว่าลองโหลดแอปฝึกสมรรถภาพการทดสอบใบขับขี่มาทดสอบ ช่วยให้เข้าใจวิธีการทำล่วงหน้า ลองฝึกประสาทสัมผัสก่อนไปทดสอบจริง ลองทดสอบผ่านแอปก่อน ทดสอบความลึกเลื่อนขึ้นเลื่อนลงเพื่อให้ขนานกันดู ลองกดเหยียบเบรก ทดสอบการแยกสี ชมวีดีโอเตรียมความพร้อมไปล่วงหน้า ช่วยลดความตื่นเต้น และเสริมความพร้อมให้มากๆเลยล่ะค่ะ


แอปที่เรามาแนะนำวันนี้ชื่อว่า "สอบใบขับขี่2561" สามารถโหลดได้ทั้ง IOS และ Android27

ภายในแอปจะมีให้เลือก "ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย" ซึ่งจะมีให้เราทดสอบกันอยู่ 4 อย่างดังภาพ

เมื่อกดปุ่มเข้าไปจะมีคำอธิบายขั้นตอนในการทดสอบและประเมินผลในตอนท้ายให้ว่าผ่านการทดสอบหรือไม่่

เราสามารถกดเข้าไปทดสอบได้เรื่อยๆเลย
28

เราขอยกตัวอย่างแนะนำในส่วนของการทดสอบการมองในเชิงลึก อันนี้เราว่าเด็ดมากในบรรดาทั้งหมดที่มีให้ทดสอบ กดเข้าไปจะมีขั้นตอนเสมือนเราทดสอบจริงๆเลย แท่งเทียนสีขาวตั้งตรงอยู่สองข้างเพื่อให้เราใช้ปุ่มสีแดง และเขียวที่ใช้ในการควบคุมเดินหน้าหรือถอยหลังเพื่อให้แท่งเทียนขนานกันจากนั้นให้เรากดยืนยันคำตอบ30

แอปจะประมวลผลที่เราควบคุมว่ามีระยะห่างที่เกินเกณฑ์ของการทดสอบ และผ่านการทดสอบหรือไม่ โดยถ้าไม่เกิด 1 นิ้ว ถือว่า "ผ่านการทดสอบ" เราสามารถลองทดสอบเรื่อยๆได้เลยเพื่อความมั่นใจ31

32


สำหรับคลิปวีดีโอเพิ่มเติมในลำดับขั้นตอนของการทดสอบสายตา สามารถศึกษาไปก่อนได้จากคลิป ของกรมการขนส่ง "Thai Drive Test การสอบใบขับขี่รถยนต์ ไทย 2549 ร่างกาย" จาก https://www.youtube.com/watch?v=k4cLaeXpgBcได้เลยนะคะ

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์แก่เพื่อนๆที่กำลังมองหาขั้นตอนสำหรับการต่อใบขับขี่แบบ 5 ปี เป็น 5 ปี ที่เราได้รวบรวมวิธีการเข้ารับบริการตั้งแต่เริ่มอบรมออนไลน์ การจองคิวเข้ารับบริการ จนถึงขั้นตอนการทดสอบสายตาจนถึงถ่ายรูปทำใบขับขี่ ง่ายใช่ไหมล่ะคะทุกคน รวมๆเวลาแล้วใช้เวลาไม่นาน รวมการอบรมออนไลน์เข้าไปด้วยก็ยังไม่เกิน 2 ชั่วโมงแน่นอน ^^

ขอขอบคุณเครดิตจาก ::

ภาพแคปเจอร์ขั้นตอนการอบรมใบขับขี่ออนไลน์จาก www.dlt-elearning.com

ภาพแคปเจอร์จาก แอปพลิเคชั่น "DLT Smart Queue"

ภาพขั้นตอนการกรอกข้อมูลจาก https://gecc.dlt.go.th:4448/web_booking/page/

ภาพแคปเจอร์จาก แอปพลิเคชั่น"สอบใบขับขี่2561"

ภาพแคปเจอร์วีดีโอ "Thai Drive Test การสอบใบขับขี่รถยนต์ ไทย 2549 ร่างกาย" จาก https://www.youtube.com/watch?v=k4cLaeXpgBcของกรมการขนส่งทางบก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์