อื่นๆ

รีวิวประสบการณ์การใช้งาน ipad

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รีวิวประสบการณ์การใช้งาน ipad

ในปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีเยอะแยะมากมายที่ทำให้ชีวิตพวกเราสบายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์,โน้ตบุ๊ก หรือ โทรศัพท์ สิ่งเหล่านี้ ล้วนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของผู้คนในปัจจุบัน เรียกได้ว่าถ้าขาดไปเหมือนตายทั้งเป็นเลยมากกว่า และวันนี้ผมจะมาแนะ ipad สิ่งที่จะมาช่วยให้ชีวิตคุณสบายมากขึ้น ซึ่งเหมาะสำหรับตั้งแต่การเอาไปใช้ในการศึกษาไปจนถึงการทำงานในอาชีพต่างๆได้เลย แต่ในวันนี้ในฐานะที่ผมเป็น นักศึกษาคนหนึ่งที่ใช้ ipad ในการเรียน ผมก็จะพูดแค่ในระดับการศึกษานะครับ

บทความนี้ผมเขียนตามประสบการณ์ในการใช้งาน ipad air 3 (2019) ของผมใน 2 ปีที่ผ่านมา เพื่อที่จะแนะนำอีกหนึ่งทางเลือกที่เอาไว้ใช้สำหรับการศึกษานะครับ เหมาะสำหรับคนที่ไม่เคยรู้เรื่อง ipad เลยหรือกำลังตัดสินใจจะซื้ออยู่และต้องการรีวิวจากผู้ใช้จริงประกอบด้วย

Advertisement

Advertisement

ผมขอแบ่งหัวข้อเป็น 5 หัวข้อนะครับ

  1. ข้อมูลเบื้องต้น
  2. แอปพลิเคชันที่แนะนำว่าควรมี
  3. ข้อดี
  4. ข้อเสีย
  5. ความรู้สึกหลังใช้ ipad

1. ข้อมูลเบื้องต้น

ipad2

ipad เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ชนิดหนึ่งที่สามารถ สัมผัสหน้าจอได้หรือที่เรียกว่า ระบบ touch screen ซึ่งในสมัยอดีตนั้น โทรศัพท์มือถือ จะเป็นแบบปุ่มกดซึ่งจะไม่สามารถสัมผัสหน้าจอได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ โทรศัพท์มือถือได้เปลี่ยนใหม่โดยเปลี่ยนจากปุ่มกดมาใช้เป็นการสัมผัสหน้าจอแทน ซึ่งปัจจุบัน โทรศัพท์แบบนี้ก็จะเรียกกันว่า Smartphone นะครับ และรวมถึงเจ้า ipad ด้วยที่ได้ใช้ระบบนี้ ซึ่งอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยหากจะซื้อ ipad เพื่อการศึกษานั้นก็คือ Apple pencil ซึ่งทาง Apple ขายแยกกันนะครับ

และนี้เป็นเพียงแค่เสี้ยวเดียวเท่านั้นนะครับและคุณสามารถเข้าไปดูในเว็บไซต์ของ Apple โดยตรงได้เลยนะครับว่ารายละเอียดทางเทคนิคของ ipad มีอะไรบ้างบอกเลยว่ามันเยอะมากๆ

Advertisement

Advertisement

iPad - Apple (TH)

ความแตกต่างของ Smartphone และ ipad

ipad2

หลายคนสงสัยว่า ipad มันต่างกับ Smartphone ยังไงในเมื่อมันก็สัมผัสเหมือนๆกัน? ต้องบอกอย่างงี้ครับว่า 2 อย่างนี้มีความแตกต่างกันอยู่หลักๆเพียง แค่ 2 ข้อเท่านั้นนั้นก็คือ

  1. ipad จะมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า Smartphone ค่อนข้างมากและนั้นหมายความว่าคุณสามารถใช้งานในพื้นที่บนหน้าจอ ipad ได้เยอะกว่า Smartphone นั้นเองครับ ผมขอยกตัวอย่างง่ายๆ นั้นก็คือการ วาดรูป ด้วยความที่ ipad มีหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้การวาดภาพนั้นย่อมออกมาดีกว่า Smartphone อยู่แล้วไม่ว่าจะองศาการวางมือการจับปากกา หรือไม่ว่าจะเป็น แอปพลิเคชันที่มีมากกว่า ที่สามารถปรับความโค้งของเส้นหรืออะไรหลายๆอย่างได้ ซึ่งนั้นเป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นที่จะช่วยให้การทำงานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
  2. สามารถใช้แอปพลิเคชันที่ขีดเขียนได้ดีกว่ามาก เช่น ในด้านการเรียนผมก็จะยกตัวอย่าง แอปพลิเคชันที่ชื่อว่า Goodnotes ที่คนนิยมใช้กันนะครับ Goodnotes เป็นแอปที่นิยมกันมากในด้านการศึกษา ตัวอย่างเช่น เราสามารถ import file pdf จากด้านนอกมาแล้ว ขีดเขียนในนี้ได้เลย โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาปริ้นต์เลยแม้แต่หน้าเดียว แถมยังทำซ้ำได้เรื่อยๆได้ด้วย หรือจะเอาไว้จด Lecture ในห้องก็ได้ซึ่งยิ่งถ้าคุณเรียนมหาลัยจะสะดวกมากเพียงแค่คุณถือไปชิ้นเดียวก็เท่ากับมีหนังสือทุกวิชาในนั้น ซึ่งเดี๋ยวผมจะไปลงลึกกับแอปนี้อีกทีนะครับ สรุปเลยก็คือ ipad นั้นมีปากกาแถมยังปรับลูกเล่นอะไรได้อีกมาก แตกต่างจาก iphone ที่ยังไม่มีแม้แต่ ปากกานั้นเลยทำให้ แอปนี้เหมาะกับ ipad มากกว่าในการขีดเขียน

Advertisement

Advertisement

2. แอปพลิเคชันที่แนะนำ

1. Goodnotes

GG

เป็นแอปพลิเคชันสำหรับการเขียนซึ่งสามารถเก็บไฟล์ได้หลายๆไฟล์ในนั้นทำให้สะดวกสะบายต่อการใช้งาน อีกทั้งยังมีลูกเล่นอีกมากมายในนั้นไม่ว่าจะเป็น กระดาษที่เอาไว้จดมีให้เลือกหลายแบบ,การปรับสไตล์การเขียนและต่างๆอีกมากมาย และถ้าจะหาที่สำรองข้อมูลไฟล์ผมก็ขอแนะนำ Google Drive เลย

2. Google Drive

gg

เป็นที่เก็บเอกสารไฟล์ต่างๆซึ่ง มีข้อเสียคือถ้าเป็น Gmail ทั่วไปจะสามารถเก็บได้เพียง 5 GB ซึ่งถ้าอยากได้พื้นที่เพิ่มก็ต้องเสียเงินรายเดือน แต่ถ้าคุณได้กำลังเรียนมหาลัยอยู่ก็จะมี Account ของมหาลัยเป็น gmail ซึ่งก็จะสามารถใช้พื้นที่ Google drive ได้อย่างไม่จำกัด

3. Adobe Scan: PDF Scanner & OCR

adobe scan

เป็นแอปที่สามารถสแกนหนังสือแล้วแปลงมาเป็นรูปภาพซึ่งเหมาะกับการศึกษาอย่างมาก ถ้าคุณมีแอปนี้คุณจะสามารถสแกนหน้าในหนังสือแล้ว import เข้ามาใน ipad ได้หมดเลย

สำหรับแอปพลิเคชันชั่นสำหรับผมมี 3 แอปดีหลักๆควรมีติดไว้ในเครื่องนะครับ ซึ่งคุณสามารถไปหาแอปพลิเคชันเพิ่มเติมได้ใน App Store เลยนะครับมีอีกเยอะแยะมากมายให้คุณได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็น งานศิลป์ก็จะเป็น Procreate หรือ Adobe ต่างๆ หรือถ้าจะสายทำงานหน่อยก็จะเป็นพวก Google ก็จะมี Dosc, slide, sheets เป็นต้น

3. ข้อดี

สำหรับ ipad ในด้านการเรียนผมให้เต็ม 10 เลยนะครับคือเจ้า ipad มันดีเกินไปสำหรับแค่เอามาใช้ในการศึกษาครับ ก็คือ สำหรับการจด lecture ก็คือทำได้ดีมากผมแค่มี ipad กับ ปากกา ก็เขียนได้เลย ไม่ต้องมาเสียเวลาเตรียมอุปกรณ์อะไรให้เยอะเลย  สำหรับการทำข้อสอบเก่า  อย่างที่ผมได้เขียนไปว่า สามารถ import file pdf หรือไฟล์อื่นๆมาได้เลยและผมก็สามารถเขียนในไฟล์นั้นได้เลย ซึ่ง ถ้าเกิดผมจะทำซ้ำผมก็สามารถทำได้เป็น 10ๆ ครั้ง การมี ipad สำหรับผมมันเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการอ่านหนังสือ จากการที่กว่าจะไปอ่านชั่งยากลำบากแต่กลับกลายเป็นว่าการอ่านหนังสือสามารถทำได้ง่ายๆเลยเพียงแค่หยิบเจ้า ipad มาใช้แค่อันเดียว

4. ข้อเสีย

ราคา : แพงซื้ออย่างน้อยที่คุณต้องมีก็คือ 10000 บาทในปัจจุบันอีกทั้งยังต้องซื้อ Apple pencil แยกอีกต่างหาก แต่ผมบอกเลยว่าถ้าใครสามารถซื้อได้ผมแนะนำเลยว่าคุ้มค่าแก่การใช้งานจริงๆครับ

การใช้งาน : สำหรับผมที่ใช้ ipad air 3 ในช่วงแรกๆมักจะร้อนระหว่างการเขียนซึ่งก็ค่อนข้างจะเป็นปัญหาเพราะมันจะเป็นช่วงตรงปุ่มกดซึ่งตรงนั้นมันเป็นพื้นที่ที่ผมวางอุ้งมือในการเขียน เพราะผมเขียนมือขวา แต่วิธีแก้ของผมก็คือกลับตัว ipad ให้มือวางตรงกล้องแทน แต่เดี๋ยวนี้ก็ไม่มีอาการร้อนแล้วนะครับเป็นแค่ช่วงปีแรกๆ

5. ความรู้สึกหลังใช้ ipad

ความรู้สึกหลังใช้ ipadที่ทำให้ชีวิตในการเรียนของผมนั้นต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง และมาดูกันครับว่า ipad เปลี่ยนแปลงการอ่านหนังสือของผมได้อย่างไร

ผมต้องเล่าในช่วงก่อนที่ผมยังไม่มี ipad ก่อนนะครับ ในตอนเรียนมัธยมปลายผมก็ยังไม่ได้ใช้ ipad นะครับซึ่งผมได้เห็นเพื่อนบางคนเริ่มเอามาใช้แล้วนะครับแต่ผมก็ยังไม่ได้มีความคิดว่า มันจำเป็นเท่าไหร่ ผมกลับคิดว่ามันเปลืองตังเสียอีก ซึ่งสไตล์การเรียนของผม ค่อนข้างขี้เกียจ ก็คือจะอ่านหนังสือแค่ช่วงสอบ 1 อาทิตย์เท่านั้นแต่ผมเป็นประเภทที่ว่าชอบทำข้อสอบซ้ำๆนั้นเลยทำให้ผมเปลืองกระดาษค่อนข้างมากและอีกทั้งยังต้องย้ายไปนั่งโต๊ะเขียนดีๆเพราะว่าผมมักจะใช้ชีวิตในเล่นคอมเยอะมาก ซึ่งก็จะเล่นอีกโต๊ะหนึ่งนะครับซึ่งมันเขียนไม่ได้เพราะมันมีคีย์บอร์ดเมาส์อะไรเยอะแยะเลย และต้องเตรียมอุปกรณ์อีกมากนั้นทำให้ผมมีความขี้เกียจเพิ่มขึ้นเป็น 100 เท่า เมื่อผมคิดว่าวันนี้ต้องไปอ่านหนังสือแล้ว

ซึ่งชีวิตผมก็ทำอย่างนั้นวนมาหลายๆปี จนผมได้เข้ามหาลัย ผมก็ดันคิดว่าอยากได้ ipad เพราะว่าผมเริ่มจากเห็นคนใช้มันเยอะมากและนั้นก็ทำให้ผมเริ่มไปหาข้อมูล รายละเอียดตัวเครื่องในเว็ปของ apple ซึ่งนั้นก็ทำให้ผมตัดสินใจซื้อเจ้า ipad Air 3 มาพร้อมกับ Apple pancil 1  ในช่วงแรกๆที่ผมได้เริ่มใช้ผมก็รู้สึกติดใจกับการใช้งานมันมากผมรู้สึกเสพติดกับการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก มันเปรียบเสมือนจิ๊กซอร์ที่ขาดหายไป ซึ่งมันได้จบปัญหาที่ผมมีไว้ทุกอย่างเลย เริ่มตั้งแต่การย้ายโต๊ะในการเขียนหนังสือ ไปจนถึงการทำข้อสอบแบบฝึกหัด ซึ่งอย่างที่ผมเคยบอกไปผมมักจะใช้ชีวิตไปกับการเล่นคอมเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งเวลาที่ผมจะอ่านหรือทำข้อสอบผมก็แค่หยิบเจ้า ipad มาอันเดียวแล้วสามารถเขียนที่โต๊ะคอมได้เลยเพียงแค่ผมดันคีย์ขึ้นไปด้านบนให้มันมีระยะพอที่ ipad จะตั้งเขียนได้ ซึ่งนั้นทำให้ผมเปิดเพลงฟังได้ในระหว่างอ่านหนังสือ ส่วนเรื่องของการทำข้อสอบซ้ำๆผมก็สามารถทำได้อย่างสบายๆเลยทำให้ผมสามารถทำข้อสอบหรือทำแบบฝึกหัดซ้ำได้เลย เป็น 10ๆกว่ารอบ

pat3

pat1pat1นี้คือภาพแบบฝึกหัด (จากแอป Goodnotes) ที่ผมได้ทำตอนสอบเข้ามหาลัยนะครับผมขอให้ดูแค่ 3 เรื่องนะครับไม่งั้นจะเยอะเกินไป

หรือผมจะไปโหลดไฟล์เรียนจากบนเว็บไซต์ต่างๆก็ทำได้ง่ายๆมากเพียงแค่ import มาใส่ Goodnotes ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งปริ้นต์อีกเลย ซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้มันทำให้ความขี้เกียจของผมลดจาก 100 เท่าหรือ เพียงไม่กี่เปอร์เซนเท่านั้นเอง และผมก็ไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรเลยแม้แต่กระดาษแผ่นเดียวผมก็ไม่ต้องลุกไปเอา ใช่ครับมันสะดวกสบายมาก มันคือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผมเลยก็ว่าได้ จากที่ผมใช้เวลาในการอ่านหนังสือไม่ถึงชั่วโมง ตอนนั้นผมกลับอ่านหนังสือได้มากกว่า 8 ชั่วโมงโดยที่ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ธรรมดาไปแล้ว และมันก็เปลี่ยนนิสัยในการอ่านหนังสือไปเลยโดนมันเริ่มจากการอ่านสอบเข้ามหาลัยไปจนถึงการเรียนมหาลัยเลยคือผมรู้สึกเสพติดมันจริงๆ ผมสามารถเลิกเล่นเกมได้ในช่วงสอบเข้ามหาลัยเป็นเดือนๆและใช้เวลาในการอ่านหนังสือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือมันเวอร์มากเลยครับสำหรับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้ แต่มันก็เกิดขึ้นกับผมจริงๆ และนั้นทำให้ความรู้สึกของผมกับเจ้า ipad นั้นเรียกได้ว่าดีมาตลอดอย่างที่ผมบอกไปมันดีและคุ้มค่าเกินกว่าที่เอาเจ้า ipad มาใช้แค่ในการเรียน

ภาพการใช้งาน

ภาพการใช้งาน

ภาพการใช้งาน

นี้คือการใช้งานตอนผมสอบเข้ามหาลัยนะครับ ผมเก็บไว้ทุกเดือนทุกสัปดาห์นะครับแต่ขอเอาให้ดูแค่ 3 ภาพนะครับไม่งั้นจะเยอะเกินไป


แต่ถึงยังไงนี้เป็นเพียงแค่ตัวเลือกหนึ่งเท่านั้นนะครับสำหรับการศึกษาและที่สำคัญมากๆเลยนะครับยังมีอีกหลายๆคนเลยที่ไม่ต้องใช้ ipad ก็สามารถอ่านหนังสือได้เกิน 10 ชั่วโมงแบบสบายๆ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะครับยังไงต้องลองตัดสินใจดูอีกทีนะครับว่าถ้าคุณจะลงทุกกับการศึกษาแบบนี้แล้วจะคุ้มหรือไม่ต่อตัวคุณเองหรือไม่

ก็จบไปแล้วนะครับกับการรีวิวประสบการณ์การใช้งาน ipad  ถ้าผิดพลาดประการใดผมต้องขออภัยด้วยนะครับ


เครดิตภาพ :

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์