รีวิวเพลง "Set Me Free Pt.2" ของ Jimin BTS พร้อมจะปลดปล่อยตัวเองสู่อิสระไปด้วยกันไหม

Set Me Free - ปล่อยให้ผมเป็นอิสระ

ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อเพลง ก็สามารถรู้สึกได้ถึงความเป็นจีมิน BTS ในทันที ทำให้ยิ่งรอคอยที่จะได้ฟังเพลงเต็ม จนในที่สุดวันนี้ก็มาถึง บอกได้เลยว่า อลังการสมกับการรอคอยที่สุด อุดปากกรี๊ดตั้งแต่เริ่มเพลง จนจบเพลงไม่เกินจริง ในใจได้แต่อุทานว่า โอ้วว พระเจ้า คือมันดีมากจริงๆค่ะ รออัลบั้มเต็มไม่ไหวแล้ววว เรามารีวิวและวิเคราะห์ไปพร้อมๆกันค่ะ (ทั้งหมดทั้งมวลเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเองนะคะ)

วิเคราะห์เนื้อเพลง

สรุปเนื้อหา เขาได้บอกว่า "ตอนนี้ถึงเวลาของเขาแล้ว หลังจากที่เดินหลงทางอยู่ในวงกตแห่วงความวุ่นวาย ความเศร้า และปวดร้าว เขาจะไม่หยุดเพื่อสุดท้ายแล้วเขาจะได้อิสระที่แท้จริงในที่สุด เขาจะหยุดก็ต่อเมื่อได้รับอิสระที่เหมือนกับผีเสื้อได้โบยบินได้อย่างไร้ขีดจำกัด และจะไม่หันหลังกลับ ถึงตอนนั้นเขาจะหยุดเอง"

ในเพลงจะเล่นคำว่า "Set Me Free" ซ้ำๆ เพื่อเป็นการตอกย้ำสิ่งที่ต้องการ ทำให้มีความรู้สึกปลุกใจมากๆ เสมือนกับว่าตัวเองเรานั้นก็จะเป็นอิสระจากสิ่งต่างๆไปพร้อมๆกับเขา และเราจะไม่ยอมแพ้ ให้ความรู้สึกจริงๆเลยว่าถึงเวลาแล้วที่เป็นอิสระจะเป็นของเขาจริงๆเสียที แอบมีความตื้นตันอยู่ในใจทุกครั้ง ที่ร้องย้ำว่า Set Me Free

จะเห็นได้ว่าตั้งแต่เริ่มเพลงมูดและโทนทุกอย่างจะเป็นสีดำและมืดสลัวไปหมด แต่ในตอนท้ายเพลงที่จีมินลุกยืนขึ้น เขาได้อยู่ในชุดสีขาว เป็นชุดที่ดูสบายๆ ไม่เยอะ เหมือนชุดที่ใส่ในชีวิตประจำวัน  ในขณะที่แดนเซอร์ยังใส่ชุดสีดำและล้มตัวลงกองที่พื้น ผู้เขียนคิดว่าตรงนี้อาจสื่อถึงตอนนี้ที่จีมินกำลังจะโบยบินออกไปแต่ถูกเหล่าแดนเซอร์ยื้อไว้ เปรียบเป็นความรู้สึกแย่ไปต่างๆในใจที่ทำให้เขาติดอยู่ในเขาวงกตไม่ยอมปล่อยเขา แต่เขาจะไม่หยุดยังคงมุ่งหน้าไปจนทุกอย่างล้มลงแล้ว จีมินที่ได้ยืนขึ้นมาในชุดขาวอีกครั้งและหันกลับมามอง อาจสื่อถึงว่าในที่สุด เขาก็เป็นอิสระจริงๆเสียที

ในส่วนของท่าเต้นแน่นอนว่าเขาสามารถสื่อสารออกมาได้เป็นอย่างดี การเคลื่อนไหวร่างกายนั้น ตั้งแต่เริ่มเพลงแดนเซอร์จะมีท่าทีที่เหมือนกับสิ่งที่มืดมนที่คอยติดตามเขา เปรียบเสมือนตัวแทนของความรู้สึกของจีมิน ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความปวดร้าว ความว่างเปล่า ในฉากหนึ่งที่แดนเซอร์จะวนอยู่รอบตัวจีมินเป็นรูปก้นหอย นั้นอาจหมายถึงเขาวงกตที่ซับซ้อนในใจเขา ที่กักขังปิดซ่อนเขาไว้นั่นเอง ท่าเต้นของจีมินยังคงเป็นเอกลักษณ์ ท่วงท่าที่ดูอ่อนไหว ยืดหยุ่น รวมไปถึงความเซ็กซี่ ยังคงแอบซ่อนความหนักแน่น แข็งแกร่งไว้เสมอ สามารถถ่ายทอดความรู้สึกผ่านท่าเต้นได้แบบถึงใจจริงๆ

โดยเฉพาะฉากที่จีมินเผยให้เห็นข้อความบนตัวของเขา ในพาร์ทนี้ผู้เขียนคิดว่าเขาอาจจะสื่อถึงว่าเขาจะไม่เก็บซ่อนความเจ็บปวดใดๆอีก เขาพร้อมจะเผชิญกับมัน พร้อมจะเป็นอิสระจากทุกสิ่งในเขาวงกตในใจของเขา

แฟชั่นในเพลงจะเน้นไปโทนสีดำทั้งหมด ตั้งแต่สีผมจรดเท้า ด้านนอกเป็นเสื้อแจ็คเก็ต ส่วนด้านในเป็นเสื้อกล้ามเผยความเซ็กซี่ตามสไตล์จีมิน บวกกับกางเกงและรองเท้าที่ดูเท่ ทำให้เพลงดูมีพลัง ชวนน่าหลงใหลเป็นเท่าตัว

คงปฏิเสธไม่ได้จริงๆว่า เมื่อฟังจนจบเสมือนได้เคลือบหูด้วยทองคำ และเปิดฟังซ้ำวนไป บวกกับความหมายของเพลงแล้วนั้น ทำให้เพลงมีความเพราะ ไพเราะขึ้น เพิ่มเป็นทวีคูณเลยค่า

จีมินออลแบล็คคือหล่อตาแตก ใจมัมหมีแทบจะแดดิ้น เรียกได้ว่าแทบสู่ขิต แต่ยังมีความน่ารักให้เราได้พักใจตรงทรงผมหน้าม้าที่ดูละมุนตา แต่อย่างไรซะก็หล่อแบบตะโกน กระโชกโฮกฮากอยู่ดี เหล่าแฟนคงอกแตกตาย ยิ่งฉากเปิดไหล่เบาว่ากรี๊ดแล้ว (เสื้อไหล่ไม่ตกไม่ใช้จีมินจ้า แฟนๆทราบดี) เจอฉากเปิดโชว์ผิวขาวบนตัวสลักอักษรไว้ จังหวะนั้นคือตาค้างไปเลยจ้าแม่ เซ็กซี่ขยี้ใจสุด กรี๊ดออกมาสิ

จีมิน คือ นิยามของคงามสามารถรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงใด ความมีเสน่ห์ต่างๆ เสียงร้อง การเต้น ล้วนมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ทำให้ทุกอย่างออกมาสมบูรณ์แบบเกินความคาดหมายเสมอ เขาสามารถถ่ายทอดออกมาได้อย่างดีเยี่ยม เข้าถึงความรู้สึกจนน้ำตาคลอเลยจริงๆค่ะ

เรามารอติดตามอัลบั้มเต็มที่กำลังจะปล่อยในอีกไม่นานนี้กันดีกว่าค่ะ ว่าจะอลังการงานสร้าง และจะเซอร์ไพรส์แค่ไหน มารอไปด้วยกันนะคะ

สามารถรับชมเพลงเต็มได้ที่ https://youtu.be/UaywgAqcLxI

ขอบคุณภาพจาก Facebook : BIGHIT MUSIC

ภาพปก, ภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3, ภาพที่4

YouTube : HYBE LABELS

เกาะเทรนด์เพลงใหม่ เพลงฮิต คุยได้ไม่รู้จบ ที่ทรูไอดีคอมมูนิตี้