อื่นๆ

รู้หรือไม่สมัยก่อน จะเข้าป่าต้องตั้งชื่อใหม่ (เรื่องเล่าจากหญิงชรา)

128
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รู้หรือไม่สมัยก่อน จะเข้าป่าต้องตั้งชื่อใหม่ (เรื่องเล่าจากหญิงชรา)

รู้หรือไม่สมัยก่อน จะเข้าป่าต้องตั้งชื่อใหม่ (เรื่องเล่าจากหญิงชรา)

เมื่อก่อนบ้านเมืองเรายังไม่มี ตึก อาคาร บ้านช่อง เยอะแยะมากมายขนาดนี้ ชาวบ้านแถวชนบทก็มีเพียงกระท่อมเล็ก ๆ ที่ทำจากไม้ไผ่และมุงหลังคาด้วยหญ้าคา พอได้หลบแดดหลบฝน อาหารการกินก็หาได้ตามป่าเขา ท้องทุ่งนาและแม่น้ำลำคลอง

ภาพที่ 1 : https://unsplash.com/photos/-BZc9Ee1qo0

สิ่งที่อยู่คู่กับชาวบ้านสมัยก่อนก็คงจะหลีกไม่พ้นเรื่องของ “ความเชื่อ” ซึ่งยิ่งเป็นชนบทสมัยก่อนยิ่งมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับเยอะแยะมากมาย เราเป็นคนยุคใหม่ซึ่งก็ไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องแบบนี้แบบ 100% แต่จะไปว่าคนยุคก่อนว่างมงายก็ไม่ได้ ฉะนั้นเราก็ควรรับฟังสิ่งต่างๆที่ท่านเล่าให้ฟัง เพื่อเป็นประสบการณ์หรือเพื่อรู้เอาไว้ก็พอ มีหญิงชราแถวชนบทคนนึงเล่าว่า สมัยก่อนเวลาจะหากับข้าว ส่วนมากคนในหมู่บ้านจะไปเก็บผัก เก็บเห็ด เก็บหน่อไม้ในป่า มาทำกับข้าว เนื้อหมู เนื้อไก่ นั้นไม่ค่อยจะได้กินสักเท่าไหร่ ส่วนมากจะได้กินปลา กินกบ อึ่งอ่าง กุ้งฝอยอื่น ๆ เพราะหาได้ง่ายตามลำคลอง ท้องทุ่งนา ส่วนการเข้าป่านั้นแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันเลย คือจะเข้าไปแทบทุกวันเพื่อไปหาผักนาๆชนิด ซึ่งการเข้าป่า แน่นอนว่าจะต้องเจอกับสิ่งลี้ลับมากมายในป่า ก่อนจะเข้าป่าทุกคนที่จะเดินทางไปด้วยนั้นจะต้องตั้งชื่อใหม่ เพื่อเอาไว้ใช้เรียกกันตอนอยู่ในป่า เพราะเวลาไปเก็บผักต่างคนต่างเก็บ บางคนอาจจะเดินไปไกลจากกลุ่ม ก็ต้องมีการส่งเสียงเรียกหากัน เมื่อต้องการที่จะเดินทางกลับบ้าน หรือพักทานข้าวกัน ซึ่งถามว่าทำไมต้องตั้งชื่อใหม่ด้วย เรียกชื่อเดิมไม่ได้หรือ คือสมัยก่อนจะเชื่อกันเรื่องผีสางนางไม้ การที่ไม่เรียกชื่อจริง ๆ เพราะ ถ้าหากเรียกชื่อจริงของกันและกัน กลัวว่าผีจะเรียกตามแล้วอำคนๆนั้นให้ตามผีไป พอผีอำหรือบังตาไป เพื่อนที่ไปด้วยกันก็จะมองไม่เห็นหรือหาไม่เจอนั่นเอง

Advertisement

Advertisement

ภาพที่ 2 : https://unsplash.com/photos/RJzOekehiqI

ยายเล่าต่อว่า ก่อนที่จะทำกันแบบนี้เคยเกิดกรณีที่เรียกชื่อจริงแล้วเพื่อนยายโดนผีอำไป ทำให้หากันไม่เจอตั้ง 2-3 คืน แต่พอหาเจอแล้วเพื่อนคนนั้นก็เหมือนคนไม่มีสติ หน้าตาซีดเหลือง ตัวเหลือง ตาค้าง จะต้องตามหมอผีมาทำพิธีจึงจะค่อยๆดีขึ้น ซึ่งนั้นเป็นอาการของคนโดนผีอำนั่นเอง จึงเป็นที่มาที่ทำให้คนในหมู่บ้านนี้เมื่อจะเข้าป่าจึงจะตั้งชื่อสมมติกันขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง ซึ่งในปัจจุบันยายบอกว่าเวลากลางคืนคนแถวชนบทนี้ก็จะไม่ค่อยตะโกนเรียกชื่อกัน หรือถ้าเป็นเด็ก ๆ ลูก ๆ หลาน ๆ ยายก็จะบอกเสมอว่าเวลากลางคืนหากมีใครเรียก อย่าไปขานรับ ถึงแม้จะเป็นเสียงพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง ให้เดินไปหาแทนการขานรับ เพราะเราไม่รู้ว่าเสียงนั้นเป็นเสียงของคนจริงหรือไม่ ยายกลัวว่าถ้าเสียงนั้นเป็นเสียงผี เมื่อคนที่ถูกผีเรียกแล้วขานรับก็จะทำให้คนนั้นเดินออกจากบ้านและตามเสียงนั้นไป ก็คือการโดนผีอำพรางพาไปนั่นเอง

Advertisement

Advertisement

ภาพที่ 3 : https://unsplash.com/photos/tzQkuviIuHU

เรื่องนี้เป็นเรื่องความเชื่อของคนสมัยโบราณ แต่เหตุการณ์ที่ยายเล่าให้ฟัง ยายบอกยายอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริง ๆ  มิใช่การเล่าจากรุ่นสู่รุ่น อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละบุคคล และควรใช้วิจารณญาณในการอ่านนะค่ะ เป็นเรื่องเล่าจากยายเท่านั้น

เครดิตภาพ Unsplash : ภาพปก, ภาพที่1, ภาพที่2, ภาพที่3

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์