อื่นๆ

รู้ไว้ใช่ว่า..กับประกันภัยรถยนต์ EP.1

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
รู้ไว้ใช่ว่า..กับประกันภัยรถยนต์ EP.1

รถชน

รู้หรือไม่ว่าประกันภัยรถยนต์โดยหลัก ๆ แล้วมีอยู่ด้วยกัน 2 ประเภท ได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ พ.ร.บ. ที่เจ้าของรถจะต้องซื้อด้วยทุกครั้งก่อนต่อภาษีรถยนต์ประจำปีและอีกประกันภัยรถได้แก่ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่เจ้าของรถยนต์มักจะทำเพิ่มเติม ทั้ง 2 ประกันภัยนี้ให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกัน

โดย พ.ร.บ. จะให้ความคุ้มครองเพียงผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเท่านั้น ในขณะที่ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจจะให้ความคุ้มครองผู้บาดเจ็บและทรัพย์สิน ขึ้นอยู่กับชนิดของประกันภัยในแต่ละระดับ เช่น ประกันชั้น 1 จะให้ความคุ้มครองทุกกรณี ไม่ว่าจะเป็น รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม อุบัติเหตุทั้งที่มีคู่กรณีและไม่มีคู่กรณี จึงทำให้ราคาค่าเบี้ยประกันชั้น 1 สูงกว่า ประกันภัยชั้นอื่น ๆ และที่สำคัญเจ้าของรถสามารถที่จะ ต่อประกันรถยนต์ ชั้น1 ได้สูงสุด 7 ปี นับจากวันที่ซื้อรถใหม่ป้ายแดง ซึ่งจริง ๆ แล้วเจ้าของรถสามารถต่อประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ได้ถึง 10 ปี โดยมีเงื่อนไขต่อไปนี้

Advertisement

Advertisement

- ทำประกันภัยกับบริษัทประกันภัยเดิมแบบต่อเนื่อง

- ไม่เคยมีประวัติเคลม

รถไฟไหม้

แต่ถ้าใครที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ แต่ต้องการความคุ้มครองที่ไม่ด้อยไปกว่าประกันชั้น 1 ยังมี ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ซึ่งประกันชั้น 2+ นี้ สามารถให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานนานสูงสุด 15 ปี นับจากวันที่ซื้อรถจากศูนย์ครั้งแรก ซึ่งจะมีค่าเบี้ยที่ถูกกว่า ประกันชั้น 1 เกือบ 40-50% แต่จะให้ความคุ้มครองที่แตกต่างกันเพียง การเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีเท่านั้น เช่น ชนต้นไม้ รั้วบ้าน หรือ การโดนชนแล้วหนี ตามคู่กรณีไม่ได้ นั่นเอง นอกนั้นให้ความคุ้มครองไม่แพ้ประกันชั้น 1 เลย เหมาะกับรถที่ใช้มามากกว่า 5-7 ปี และเจ้าของรถมีความชำนาญและประสบการณ์ในการขับขี่ที่มากพอ

โทรหาประกัน

อีกหนึ่งเคล็ดลับที่หลายคนยังไม่เคยรู้นั่นคือ การทำประกันภัยรถภาคสมัครใจ กับ พ.ร.บ. เจ้าของรถควรทำบริษัทเดียวกัน เพราะเวลาเกิดอุบัติเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจะได้ไม่ต้องปวดหัวและเสียเวลาทั้งเจ้าของรถและบริษัทประกันภัย เพราะร้อยทั้งร้อยเมื่อเกิดเหตุเจ้าของรถจะโทรหาบริษัทประกันภัยภาคสมัครใจก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งจากประสบการณ์จริงของผู้เขียนเอง ได้ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ชั้น 1 กับบริษัท A และทำ พ.ร.บ. กับบริษัท B เมื่อเกิดเหตุผู้เขียนขับรถชนกับรถจักรยานยนต์ ภายหลังเกิดเหตุได้ติดต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, กู้ภัยและบริษัทประกันภัยรถยนต์ โดยในขั้นตอนของการรักษาพยาบาลคู่กรณีผลปรากฏว่าบริษัทประกันภัยชั้น 1 ให้ติดต่อไปยังบริษัทประกันภัยในส่วนของ พ.ร.บ. เพื่อใช้สิทธิ์ในการรักษาเบื้องต้นให้กับคู่กรณีก่อน ส่วนที่เหลือหากเกินจากที่ พ.ร.บ. ให้ความคุ้มครอง จึงจะเป็นหน้าที่ของประกันชั้น 1 ซึ่งทำเอาผู้เขียนเองต้องวิ่งวุ่นหาเอกสาร พ.ร.บ.และเอกสารอื่น ๆ เพื่อให้คู่กรณีได้รับการรักษา

Advertisement

Advertisement

รถตกเขา

ดังนั้นในการทำ ประกันภัยรถยนต์ ภาคสมัครใจ อย่าลืมที่จะทำ พ.ร.บ. ให้เป็นบริษัทประกันภัยเดียวกันด้วย เมื่อเวลาเกิดปัญหาจะได้ไม่ปวดหัว ซึ่งใน EP หน้า ผู้เขียนจะมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับการใช้สิทธิ์ พ.ร.บ. ทั้งในส่วนของตัวผู้เขียนเองและคู่กรณีให้ทุกท่านได้อ่าน เพื่อเป็นแนวทางหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจริง แม้ว่าจะไม่มีใครอยากให้เกิดก็ตาม

บทความโดย Rum

ภาพปก ถ่ายโดย Gustavo Fring / Pixabay

ภาพที่ 1 ถ่ายโดย Artyom Kulakov / Pixabay

ภาพที่ 2 ถ่ายโดย Pixabay / Pixabay

ภาพที่ 3 ถ่ายโดย Gustavo Fring / Pixabay

ภาพที่ 4 ถ่ายโดย Dominika Kwiatkowska / Pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์