อื่นๆ

วิญญาณหลอนสึนามิ

621
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วิญญาณหลอนสึนามิ

เหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 เป็นโศกนาฏกรรมที่แม้ว่าจะผ่านมาแล้วหลายปี แต่ยังคงมีสิ่งหนึ่งที่ยังคงวงเวียนอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ เฝ้ารอคอยที่จะได้ไปผุดไปเกิด


เมื่อปี 2555 ผมทำงานบริษัทแลกเงินตราต่างประเทศ(เอกชน) มีตำแหน่งเป็นผู้จัดการ มีสาขากระจายอยู่หลายจังหวัดทั้งภูเก็ต กระบี่ และพังงา ผมมีหน้าที่ดูแล ตรวจสอบ และทำเอกสารเกี่ยวกับบัญชีการเงินต่างๆของบริษัท ดังนั้นนอกจากดูแลงานในสาขาที่ภูเก็ตแล้ว ก็ต้องเดินทางไปดูแลงานสาขาอื่นๆด้วย ทุกครั้งที่ไปดูแลงานที่สาขาอื่นในเขตจังหวัดของกระบี่และพังงาก็จะเข้าพักที่บ้านพักของพนักงานที่บริษัทเช่าไว้ให้ ในตลอดระยะเวลาหลายปี ไม่เคยมีเหตุการณ์หลอนอะไรเกิดขึ้นกับตัวผม จนกระทั่งบริษัทได้เปิดสาขาใหม่อีกที่หนึ่ง ในเขตเขาหลัก จังหวัดพังงา บริษัทเช่าที่เปิดบูทแลกเงินต่างประเทศและดำเนินการสร้างจนเปิดทำการได้ 1 เดือนพอดี บูทนี้ตั้งอยู่ติดถนนอยู่ในเขตชุมชน ดูไม่น่ากลัวอะไรใช่ไหมครับ แต่!!! ที่เขาหลักที่นี่จะไม่เหมือนแหล่งท่องเที่ยวแหล่งอื่นๆนะครับ พอสักสองสามทุ่มที่นี่ก็จะเงียบยังกะป่าช้าแล้วครับ ไม่มีผับมีบาร์ มีแต่ 7-11 ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปเกือบๆ 100 เมตร เหตุการณ์แปลกๆก็เริ่มเกิดขึ้นจากที่นี่ครับ

Advertisement

Advertisement

เริ่มจากพนักงานประจำสาขานี้ เค้าเล่าให้ฟังว่า (ลืมบอกครับ เวลาทำงานที่นี่ 09.00-22.00น.) ช่วงดึกๆประมาณ สามทุ่มถึงสี่ทุ่ม ที่นี่จะเงียบมาก นานๆจะมีรถขี่ผ่านมาสักคัน คนก็แทบจะไม่มีเดินกันแล้ว แต่บางคืนน้องเค้ามักจะเห็นเงาคนยืนอยู่สะท้อนที่กระจกบูทที่ทำงาน แต่พอเงยหน้าคนมาก็ไม่เห็นอะไร บางทีก็มีเสียงทักทายจากฝรั่ง Hello !!! แต่พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบแต่ความว่างเปล่า จนน้องสาขานี้ต้องวานให้คนที่อยู่สาขาอื่นให้รีบปิดบัญชีแล้วมานั่งเป็นเพื่อนจนกว่าจะเลิกงาน น้องเค้าเองได้พูดคุยกับคนแถวนั้นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็ได้รู้ความจริงว่า เมื่อตอนเหตุการณ์สึนามิสงบลง ทางมูลนิธิได้รวบรวมศพผู้เสียชีวิตบางส่วนมาวางไว้บริเวณนี้จำนวนมาก พอน้องเค้ารู้ความจริง ก็ต้องเดือดร้อนบริษัทหาคนที่ไม่กลัวมานั่งบูทนี้แทน หลังจากนั้นเรื่องหลอนแบบนี้ก็เงียบๆไปบ้าง

Advertisement

Advertisement

จนกระทั่งมีอยู่เดือนนึงที่ผมต้องลงมาดูงานที่สาขานี้และต้องพักอยู่หลายวันเพราะพนักงานประจำสาขานี้ลาพักกลับบ้าน ผมเลยต้องมาทำหน้าที่แทนด้วย เรื่องหลอนๆที่เคยได้ยินได้ฟังมา ก็กลับมาเกิดขึ้นกับผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้ หลอนกว่าเก่า !!! ในสองคืนแรกที่ผมนั่งทำงาน มีหลายครั้งที่ผมรู้สึกว่ามีคนมายืนจ้องอยู่ข้างๆบูท แต่พอหันหน้าไปมองก็ไม่พบอะไร บางครั้งก็ได้ยินเสียงคนต่างชาติเดินคุยกัน แต่ก็มีแต่เสียง จนมาคืนที่สามคืนนี้ผมต้องทำงานจนดึก เพราะเข้ารอบปิดบัญชีประจำเดือน ต้องนั่งเครียงานจนถึงตีสาม ช่วงตีสองถึงตีสามเป็นความรู้สึกที่วังเวงมาก ไม่มีคน ไม่มีแม้แต่รถสักคันที่จะวิ่งผ่านมา ผมนั่งเครียงานจนเสร็จก็เริ่มง่วง จะขี่รถกลับที่พักก็ไม่ไหวแล้ว ก็เลยจัดแจงนอนในบูทที่ทำงานเลย ถามว่ากลัวไหม ก็กลัวนะครับ แต่ง่วงมากๆ ก็เลยสวดมนต์ไหว้พระก่อนนอน จังหวะที่เอนหลังลงไปนอนแค่ไม่ถึง 10 วินาที!!! ผมก็ต้องตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏขึ้น มีคนนั่งค่อมทับตัวผมไว้ รูปร่างมันสูงใหญ่มาก ร่างกายผมแทบจะขยับไม่ได้ จะเปล่งเสียงเรียกให้คนช่วยก็ไม่มีเสียงเล็ดรอดออกมาจากปากเลย ช่วงเวลานั้นถึงแม้จะมีแต่ความกลัวเกิดขึ้น ผมก็พยายามที่จะท่องบทสวดมนต์ต่างๆที่พอจะนึกขึ้นได้ในตอนนั้น แต่ท่องไปกี่บทก็ไม่ทำให้ร่างปริศนาหลุดออกจากตัวผมได้ กลับยิ่งหลอนหนักกว่าเก่า จากร่างที่เห็นแค่เงาดำๆ กลับเริ่มเห็นเป็นรูปร่างที่ชัดขึ้นใบหน้าชัดขึ้น เป็นลักษณะรูปร่างอ้วนใหญ่ใบหน้าดูบูดบวมคล้ำม่วง ก็ยังดูออกว่าเป็นคนต่างชาติ หัวล้าน ผมเห็นภาพชัดเจนขนาดนั้นเพียงไม่กี่วินาทีก็หลับตาปี๋ไม่กล้าที่จะมอง ตอนนั้นนึกขึ้นได้ว่ากระเป๋าสะพายผมที่อยู่ปลายเท้ามีโทรศัพท์อยู่ก็พยายามใช้เท้าเขี่ยขึ้นมาเพื่อจะเอาโทรศัพท์ออกมาโทรหาน้องๆที่ทำงานที่บ้านพักให้มาช่วย แต่ก็ไร้ผล ผมเขี่ยขึ้นมาได้เพียงคืบเดียว เพราะร่างกายอันใหญ่โตนั่งทับร่างของผมไว้ ผมเริ่มหลับตาและลองอุทิศบุญกุศลให้กับร่างนั้นทันที หลังจากนั้นผมก็พยายามรวบรวมกำลังอีกครั้งดีดตัวลุกขึ้น คราวนี้ได้ผลครับ ตัวผมลุกขึ้นมานั่งได้ ร่างวิญญาณนั้นหายไป ผมรีบหยิบกระเป๋าสะพายแล้วรีบเปิดประตูออกไปจากบูททันที แล้วก็รีบวิ่งไปที่รถ สตาร์ทรถได้ก็รีบบึ่งไปออกจากบริเวณนั้นอย่างรีบร้อนจนลืมว่า!!! ผมลืมปิดประตูบูทที่ทำงาน ทั้งโมโหตัวเองทั้งอยากจะร้องไห้ สุดท้ายก็แข็งใจขี่รถกลับไปปิดประตูบูทอีกครั้ง โชคดีที่ไม่มีใครมาช่วยผมปิดประตู ไม่งั้นรอบนี้คงได้ช็อคเป็นแน่แท้ หลังจากเรื่องคืนนั้นผมก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้คนที่ทำงานฟังเลยสักคน ขืนเล่าก็คงไม่มีพนักงานคนไหนกล้าไปนั่งทำงานแน่ๆ แต่ก็แปลกครับ หลังจากนั้นก็ไม่มีพนักงานคนไหนเจอเรื่องหลอนแบบผมอีกเลย หรือว่าบุญกุศลที่ผมอุทิศให้เค้าจะได้รับและไปผุดไปเกิดแล้ว!!!!

Advertisement

Advertisement


ข้อมูลภาพจาก : pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์