วิธีค้นหาแรงจูงใจในการเรียนรู้ทุกสิ่งที่อยู่นอก Comfort Zone

วิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งที่เราสามารถทำให้แน่ใจว่าเราเติบโตและพัฒนาในฐานะผู้คนคือการเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ การเรียนรู้สอนให้เรามีความรู้ใหม่ ๆ และทักษะใหม่ ๆ และยังช่วยให้สมองของเราตื่นตัวและกระฉับกระเฉงอีกด้วย การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ดี แต่บางครั้งคุณอาจสูญเสียแรงจูงใจในการเรียนต่อไป สิ่งนี้อาจจะยากกว่าถ้าคุณเรียนรู้บางสิ่งที่อยู่นอกเขตความสะดวกสบายของคุณหรือสิ่งที่คุณไม่คิดจะเรียนรู้

สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้เมื่อพูดถึงการเรียนรู้ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเขตสบายของคุณก็คือแรงจูงใจที่คุณต้องค้นหา แต่คุณจะได้รับแรงจูงใจในการเรียนรู้ได้อย่างไร?

ต่อไปนี้เป็น 10 วิธีที่จะช่วยให้คุณพบแรงจูงใจในการเรียนรู้สิ่งต่างๆนอกเขตความสะดวกสบายของคุณ

1. ค้นหาว่าทำไมคุณถึงผัดวันประกันพรุ่ง

การผัดวันประกันพรุ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนไม่มีแรงจูงใจในการเรียนรู้ ดังนั้นการหาสาเหตุว่าทำไมคุณถึงผัดวันประกันพรุ่งและเลิกเรียนรู้เป็นขั้นตอนแรกในการค้นหาแรงบันดาลใจของคุณ

3. ทำลายมันลง

บางครั้งคุณอาจขาดแรงจูงใจเพราะคุณรู้สึกว่าต้องทำมากแค่ไหน อาจฟังดูชัดเจน แต่สิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณทำได้คือแยกเนื้อหาออกเป็นชิ้นส่วนที่จัดการได้ง่ายขึ้น ลองนึกดูว่าคุณสามารถใส่เป็นชิ้นเดียวได้ตามความเป็นจริงมากแค่ไหนจากนั้นจึงกำหนดช่วงเวลาให้กับมัน อาจเป็นหนึ่งวันหรือหนึ่งสัปดาห์ขึ้นอยู่กับกำหนดเวลาสิ้นสุดของคุณ เมื่อคุณทำลายมันลงคุณจะเห็นว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คุณกังวลว่าจะเป็นเช่นนั้นและคุณสามารถทำมันให้ลุล่วงได้ สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือคุณสามารถควบคุมชิ้นส่วนของคุณได้ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถตัดสินใจได้ว่าจะใหญ่แค่ไหนและคุณให้ความสำคัญกับมันบ่อยแค่ไหน

4. เลือกรางวัล

เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรียบง่ายโดยธรรมชาติและเมื่อเรารู้สึกว่าเราทำได้ดีเราก็จะต้องการรางวัลบางอย่าง ไม่สำคัญว่างานนั้นคืออะไรหรืออยากทำอะไรถ้าเราให้รางวัลตัวเองเราจะมีแนวโน้มที่จะพยายามให้มากขึ้นในครั้งต่อไป สิ่งนี้สามารถช่วยเราปรับปรุงแรงจูงใจในการเรียนรู้ได้อย่างมาก รางวัลไม่จำเป็นต้องใหญ่โตอะไร บางครั้งอาจเป็นเพียงช็อกโกแลตแท่งโปรดของคุณเวลาว่างในการอ่านหนังสือหรืออาจจะเป็นช่วงสั้น ๆ เพื่อแช่ตัวในอ่างน้ำร้อน ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตามคุณจะต้องพยายามอย่างเต็มที่หากคุณรู้ว่ามีอะไรดีๆเกิดขึ้นในอนาคต

5. ยึดติดกับกิจวัตร

ความคิดในการยึดติดกับกิจวัตรประจำวันอาจไม่ได้ฟังดูเป็นวิธีที่น่าตื่นเต้นในการทำให้คุณมีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ แต่ความจริงก็คือการมีแบบแผนอาจเป็นแนวทางที่มีค่าที่สุดวิธีหนึ่ง สิ่งที่เกี่ยวกับกิจวัตรก็คือสิ่งที่เราคุ้นเคย เมื่อคุณทำสิ่งเดียวกันและเวลาเดียวกันหรือในลำดับเดียวกันคุณจะเริ่มคิดว่ามันเป็นนิสัยที่คุณทำมากกว่าสิ่งที่คุณต้องใช้ความคิดให้มาก ในขณะที่คุณต้องจดจ่อกับการเรียนรู้ แต่ไม่ต้องคิดเกี่ยวกับงานที่ทำอยู่หมายความว่าคุณไม่จำเป็นต้องหาข้อแก้ตัวที่จะไม่ทำ

6. พยายามทำความเข้าใจไม่ใช่แค่จดจำ

เมื่อพูดถึงการเรียนรู้ส่วนใหญ่คุณจะรู้สึกเหมือนฟองน้ำพยายามดูดซับความรู้ทั้งหมดและเก็บไว้ในสมองของคุณ แน่นอนว่านี่เป็นความจริงส่วนหนึ่ง แต่คุณต้องพยายามอย่างดีที่สุดเสมอเพื่อทำความเข้าใจกับสิ่งที่คุณกำลังเรียนรู้ สิ่งนี้ไม่เพียง แต่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเรียนรู้ แต่ยังช่วยให้คุณมีสมาธิหากคุณพยายามทำความเข้าใจกับหัวข้อนั้น ๆ แทนที่จะอ่านอย่างเดียวและพยายามท่องจำ คุณจะพบว่ามันน่าสนใจกว่ามากซึ่งจะช่วยให้คุณมีแรงจูงใจและผลักดันไปสู่เป้าหมายสุดท้าย

7. ทำให้สั้นและหวาน

โอกาสที่คุณจะพบว่ามันยากที่จะศึกษาเป็นเวลานานโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณมีสิ่งอื่น ๆ มากมายในชีวิตที่ต้องมุ่งเน้น ซึ่งหมายความว่าสิ่งที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณสามารถทำได้เพื่อรักษาแรงจูงใจในการเรียนรู้คือการทำให้มันสั้นและไพเราะ เมื่อคุณศึกษาในช่วงสั้น ๆ คุณจะปล่อยให้จิตใจจดจ่อกับงานนั้นแล้วหยุดพัก วิธีนี้จะช่วยให้คุณมีแรงบันดาลใจและคุณสามารถมีการเรียนรู้ที่สั้นลงหลายครั้ง แต่กระจายออกไปตลอดทั้งวัน

8. ตระหนักว่าคุณไม่สามารถมีแรงจูงใจได้ตลอดเวลา

ในขณะที่คุณควรทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีแรงจูงใจ แต่คุณต้องจำไว้ว่าบางครั้งคุณก็จะไม่รู้สึกถึงมัน ไม่มีใครแม้แต่คนที่ประสบความสำเร็จที่สุดที่นั่นจะรู้สึกมีแรงบันดาลใจตลอดเวลา นี่ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาทุ่มเทให้กับสิ่งที่อยากทำน้อยลงหรือไม่มีโอกาสไปถึงจุดนั้น เมื่อคุณรู้ว่าไม่เป็นไรที่จะไม่ถูกกระตุ้นตลอดเวลาคุณสามารถเริ่มเข้าใจสิ่งที่ทำได้เพื่อดึงแรงจูงใจนั้นกลับมาและขับเคลื่อนตัวเองไปข้างหน้า

9. เรียนกับใครสักคน

คุณอาจพบว่าการเหงาและเรียนคนเดียวคือสิ่งที่อยู่เบื้องหลังการขาดแรงจูงใจในการเรียนรู้ เราเป็นสังคมซึ่งหมายความว่าเราต้องอยู่ใกล้คนอื่นเพื่อให้รู้สึกดีที่สุด สิ่งนี้ไม่เพียง แต่ในมิตรภาพ แต่ยังรวมถึงการเรียนรู้ด้วย การมีคนอื่นเรียนด้วยทำให้คุณรู้สึกมีแรงบันดาลใจในการเรียนรู้มากขึ้น ไม่เพียง แต่คุณจะตั้งหน้าตั้งตารอเวลาอยู่ด้วยกัน แต่คุณยังสามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากกันและกันได้อีกด้วย นอกจากนี้คุณจะรู้สึกค่อนข้างจำเป็นที่จะต้องศึกษากับพวกเขาซึ่งหมายความว่าคุณจะต้องการเรียนรู้และต้องการค้นหาให้ได้มากที่สุด

10. ดูแลตัวเอง

เมื่อคุณต้องการให้สมองของคุณทำงานได้ดีที่สุดคุณจะต้องแน่ใจว่าคุณได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การดูแลตัวเองอาจฟังดูเหมือนง่ายที่สุด แต่ก็คุ้มค่าจริงๆ เมื่อคุณดูแลตัวเองคุณกำลังคิดถึงสุขภาพจิตสุขภาพกายและปัญหาความสัมพันธ์ที่คุณอาจมี มีหลายวิธีที่คุณสามารถดูแลตัวเองและคุณควรรู้พื้นฐานบางอย่างหากคุณต้องการมุ่งเน้นไปที่งานพิเศษของคุณ สิ่งสำคัญที่คุณต้องจำไว้ว่าต้องทำคือกินให้ดีและดื่มน้ำมาก ๆ และเครื่องดื่มที่ให้ความชุ่มชื้นอื่น ๆ นอกจากนี้คุณยังต้องมีความกระตือรือร้นและออกกำลังกายให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เนื่องจากการมีความกระตือรือร้นเป็นที่ทราบกันดีว่าจะส่งผลดีต่อการโฟกัสของคุณอย่างมาก คุณต้องแน่ใจว่าคุณกำลังนอนหลับให้มากที่สุดเพราะความเหนื่อยไม่เคยดีกับการเรียนรู้ อาจทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชาและเสียสมาธิได้

ความคิดสุดท้าย

คุณต้องค้นหาแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วยตัวเอง ดังนั้นสิ่งที่คุณรอ?

ลองนึกถึงสิ่งที่คุณกำลังศึกษาคุณมีเวลามากแค่ไหนและคุณจะจัดการสิ่งต่างๆที่ง่ายขึ้นเล็กน้อยได้อย่างไร จากนั้นคุณสามารถเริ่มต้นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณบรรลุเป้าหมายสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม

บทความโดย Dolphoenix

ภาพปก ภาพถ่ายโดย Gabby K จาก Pexels

ภาพที่ 1 ภาพถ่ายโดย Gabby K จาก Pexels

ภาพที่ 2 ภาพถ่ายโดย Mary Taylor จาก Pexels

ภาพที่ 3 ภาพถ่ายโดย ShotPot จาก Pexels

ภาพที่ 4 ภาพถ่ายโดย RODNAE Productions จาก Pexels

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !