ไลฟ์แฮ็ก
วิธีชวนสาวคุยด้วยเทคนิค Negotiation
Negotiation ep1 : Mirroring เทคนิคในการชวนสาวคุย
.
โลกนี้มีวิธีเป็นร้อยเป็นล้านวิธีในการชวนสาวคุย บ้างก็ประสบความสำเร็จ บ้างก็ไม่ เคยสงสัยกันไหม ว่าทำไม บางคนทำไอเรื่องที่เราต้องใช้ความพยายามแล้วความพยายามอีกเป็นเรื่องที่ง่ายยิ่งกว่าปลอกกล้วย เข้าปากซะอีก ...
.
วันนี้ได้มีโอกาสอ่านหนังสือเกี่ยวกับการต่อรอง (Negotiation) ของ Chris Voss ซึ่งเป็นนักต่อรองที่ดังระดับโลก ซึ่งมันมีอยู่เทคนิคหนึ่งที่ไม่ได้ใช้สำหรับเฉพาะการ Negotiation เท่านั้น แต่ยังสามารถประยุกต์ในการเอามาชวนสาว ๆ คุยได้ด้วย
และในวันนี้เราจะมาชวนคุยเกี่ยวกับเทคนิคที่มีชื่อว่า Mirroring
.
Mirroring คือศาสตร์ในการเก็บข้อมูล (Gathering Information)
.
เป็นเทคนิคที่จะทำให้คนที่เราคุยด้วยรู้สึกว่าเราตั้งใจฟังเค้า เราเข้าใจในสิ่งที่เค้าพูด และ เราเป็นพวกเดียวกันกับเค้า ซึ่งนี่แหละคือจุดเริ่มต้นในการสร้างความสัมพันธ์กับคนที่เราคุยด้วย (Building Rapport)
Advertisement
Advertisement
.
ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้คนที่เราคุยด้วยรู้สึกสบายใจกับเรา (Comfort Zone) และอยากจะเล่าอะไรให้เราฟังมากขึ้น
.
วิธีการ Mirroring นั้นแสนจะง่าย เพราะชื่อก็บอกถึงวิธีการอยู่แล้วนั่นก็คือ “เลียนแบบเค้าซะ”
โดยเราจะแบ่งการเลียนแบบอกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ซึ่งก็คือ ท่าทาง การพูด และ คำพูด
.
1. เริ่มต้นจากการเลียนแบบท่าทางของเค้า เช่น เมื่อเค้านั่งไขว่ห้าง เราก็จะนั่งไขว่ห้างตามบ้าง หรือถ้าเค้าเอามือวางบนโต๊ะ เราก็จะเอามือมาวางบนโต๊ะตาม
.
แต่เดี๋ยว ! ถ้าเราทำตามเค้าทุกอย่างเป๊ะ เค้าทำปุ้ป เราทำปั๊ป เค้าอาจจะหาว่าเราบ้า ไม่ก็ กวนตีน เผลอโดนด่าเข้าให้อีก เพราะงั้น เราต้องมีศิลปะในการทำให้ดูธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น พอเค้าวางแขนไว้ที่โต๊ะ อีกสัก 5 วินาทีผ่านไปเราค่อยทำตาม พยายามทำให้คนที่เราคุยด้วยไม่สังเกตุเห็นถึงความผิดปกติ
Advertisement
Advertisement
.
2. เราควรใช้โทนเสียงและความเร็วในการพูดให้ใกล้เคียงกับคนที่เราคุยด้วย เพราะโทนเสียงคือสิ่งหนึ่งที่สามารถแสดงถึงอารมณ์ของคนเราได้
.
ในความเป็นจริงเราทุกคนก็คงอยากจะคุยกับคนที่อารมณ์เหมือน ๆ เราในตอนนั้น ลองนึกสถานการณ์ดูว่า ถ้าเรากำลังเล่าอะไรบางอย่างด้วยความตื่นเต้น เราอยากให้คนที่เราคุยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นตาม หรือน้ำเสียงที่เฉื่อยชาละ แน่นอนว่าตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นตามอยู่แล้วเพราะทุกคนก็คงอยากให้คนฟังรู้สึกตื่นเต้นเหมือนกับเรา ซึ่งแน่นอนว่าคนที่เรากำลังคุยด้วยก็คงรู้สึกแบบเดียวกัน
.
นึกภาพง่ายๆ ถ้าเราถูกหวย รางวัลที่ 1 เเล้วไป บอกใครสักคน เเต่ไม่มีใครดีใจด้วยเลย เราก็คงรู้สึกเฟลๆ
.
3. แล้ววิธีการเลือกใช้คำละ? หลายคนเริ่มต้นมาซะดี ดันมาตกม้าตาย ด้วย คำว่า “ไม่รู้จะชวนคุยอะไร” กลายเป็น dead air ซะงั้น ซึ่ง นี่เเหละ คือโอกาส ที่เราจะนำเทคนิค Mirroring มาใช้ได้
Advertisement
Advertisement
.
หลักการในการเลือกใช้คำ Mirroring กับคู่สนทนา นั้น มีอยู่ง่ายๆ คือการที่ให้เราเลือกตอบกลับด้วยพูดคำที่เค้าได้เคยพูดในประโยคที่แล้วออกมา ซึ่งมันจะเป็นการช่วยให้เค้าขยายความในคำ ๆ นั้นออกมา และจะช่วยต่อบทสนทนาให้เราได้
.
ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนคุยกันว่า
A : วันนี้ไปเดินเล่นแถวสวนมาอะ
B : ละเป็นไง สนุกปะ
A : ก็ดีมึง ชิวดี
B : ชิวดีอ่อ (Mirroring)
A : ใช่ๆๆ ก็แบบแม่งต้นไม่เยอะมาก ละลมพัดตลอด โคตรดี วันหลัง ลองมาดิ
เห็นมั้ยว่าการ Mirroring จะช่วยทำให้เค้าขยายความคำ ๆ นั้นอีกทำให้เราได้ข้อมูลมากขึ้นและยังชวนเค้าคุยได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การ ที่เราทำ Mirroring นั้นอาจจะต้องใช้สมาธิเยอะ ทำให้คนส่วนใหญ่เลยเลือกที่จะ ใช้ 1 ใน 3 คำสุดท้ายของประโยคในการ Mirroring ซึ่งนั่นก็ เป็นหนึ่งในเทคนิค อย่างนึง ที่จะทำให้เราต่อ บทสนทนา ได้ ทั้งกับ เพื่อนๆ หรือ สาวที่เรากำลังชวนคุยอยู่นั่นเอง
.
อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นเเค่หนึ่งในร้อยวิธีที่เราจะใช้
.
ถ้าอยากจะรู้ว่ามีเทคนิคอะไรอีกบ้างในการจีบสาว หรือ การต่อรอง (Negotiation) เพื่อนๆ ก็สามารถกดติดตามเพจของเราเพื่อให้เห็นโพสต์ใหม่ๆก่อนใคร หรือ ไลค์และแชร์โพสของเราเพื่อเป็นกำลังให้กับนักเขียนกันได้นะคร้าบบบบ
ติดตามเพจได้ที่ : ชีวิตนี้ขอมีสาระ l Life Sara
.
.
อ้างอิงจาก
หนังสือ Never Split the Difference ของ Chris Voss
ความคิดเห็น