อื่นๆ

วิธีดูแลแคคตัส (Cactus) ให้รอดในช่วงหน้าฝน

1.1k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
วิธีดูแลแคคตัส (Cactus) ให้รอดในช่วงหน้าฝน

ขึ้นชื่อว่า แคคตัส เราจะรู้จักกันเป็นอย่างดีถึงพื้นเพ และถิ่นกำเนิดของพืชตระกูลนี้ โดยธรรมชาติแล้วนั้นแคคตัสคือพืชที่ทนทานกับสภาพอากาศแห้งแล้ง และมีความชื้นต่ำ ซึ่งมักจะเติบโตได้ดีในสภาพอากาศเช่นนั้น ทว่าสภาพอากาศในประเทศเรานั้นมีทั้งแล้ง และมีทั้งฝนตกเกือบตลอดทั้งปี ซึ่งหน้าฝนจะกินระยะเวลานานหลายเดือน แคคตัสที่เลี้ยงในประเทศเราจึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษในช่วงฤดูฝนhttps://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%8a%e0%b8%a3-%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b8%8a-%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%96%e0%b8%b2%e0%b8%87-5931130/

ปัจจัยที่จำเป็นชนิดใดบ้างที่จะช่วยให้ แคคตัส รอดตายในช่วงฤดูฝน?

  • โรงเรือน

โรงเรือน คือคำตอบที่ดีที่สุด การมีโรงเรือนสำหรับเลี้ยงแคคตัส คือสิ่งสำคัญเป็นอันดับแรก ๆ เลยก็ว่าได้ เพราะจะทำให้ผู้เลี้ยงสามารถควบคุมปัจจัยต่าง ๆ ได้ เช่น ปริมาณแสงแดด น้ำ สภาพความชื้น และอุณหภูมิ โรงเรือนที่ดีต้องมีคุณสมบัติหลัก ๆ เลยก็คือ ต้องสามารถป้องกันฝนและกรองแสงแดดได้ โรงเรือนนั้นมีหลากหลายขนาด และหลายรูปแบบแตกต่างกันออกไป สำหรับผู้เลี้ยงแคคตัสมือใหม่บางท่านอาจจะไม่มีงบประมาณในการสร้างโรงเรือนขนาดใหญ่ แต่เราสามารถสร้างโรงเรือนขนาดเล็กได้ด้วยงบที่มีจำกัด โดยคำนึงถึงปัจจัยหลัก ๆ ดังที่กล่าวไปข้างต้น หากเราเลี้ยงแคคตัสบริเวณระเบียงบ้านเราอาจติดพลาสติกใส หรือพลาสติกสีขาวขุ่นเพื่อป้องกันฝนก็ได้ ถือว่าเป็นโรงเรือน DIY ที่ประหยัดงบได้ไม่น้อย

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/th/photos/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%81-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81-%E0%B8%97%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2-%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B8%8A-768740/

  • การรดน้ำ

การรดน้ำแคคตัสสำหรับผู้เลี้ยงที่ไม่มีโรงเรือน โดยสภาพอากาศปกติในช่วงหน้าแล้งเรามักรดน้ำแคคตัสทุก ๆ 3-4 วัน หรือบางสายพันธุ์อาจจะรดน้ำทุก ๆ 7-10 วัน ดังนั้นในช่วงหน้าฝนที่สภาพอากาศมีความชื้นสูง การรดน้ำควรเว้นระยะห่างออกไปจากปกติ ตัวอย่างเช่น จากเดิมรดน้ำทุก ๆ 3-4 วัน ก็ให้เว้นระยะห่างออกไปเป็น 5-7 วัน หรือช่วงที่ฝนตกติด ๆ กันเป็นสัปดาห์ อาจเปลี่ยนมารดน้ำทุก ๆ 7-10 วัน แทนก็ได้ครับ

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%9a%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%8a%e0%b8%a3-%e0%b8%99%e0%b9%89%e0%b8%b3-%e0%b8%9b%e0%b8%a5%e0%b8%b9%e0%b8%81-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a7-%e0%b8%94%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b9%89-4864211/

  • การเปลี่ยนดิน

เมื่อเราปลูกแคคตัสในกระถางเดิมเป็นเวลานานโดยไม่เปลี่ยนดิน จะทำให้ดินในกระถางนั้นเกาะตัวกันแน่น และจะทำให้การระบายน้ำหรือความชื้นเป็นไปได้ช้า ส่งผลทำให้ต้นอาจเน่าตายได้ ดังนั้น ก่อนจะถึงฤดูฝนควรเปลี่ยนดินเพื่อให้ดินมีความโปร่ง และระบายน้ำได้ดี ดินที่โปร่งจะสามารถระบายน้ำ และช่วยลดปริมาณความชื้นในดินได้

Advertisement

Advertisement

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99-%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%ad-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99-%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%81-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%87-%e0%b8%82%e0%b8%b8%e0%b8%94-690940/

  • กระถางดินเผาคือทางเลือกที่ดี

กระถางแต่ละชนิดมีความสามารถในการเก็บ หรือระบายน้ำได้แตกต่างกัน กระถางดินเผาจะมีรูพรุนรอบ ๆ กระถาง ทำให้ความชื้นถูกระบายออกได้ตลอดเวลาหลังจากรดน้ำ ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่กระถางที่สวยงามมากนัก แต่ก็มีความสามารถในการช่วยลดความชื้นในดินได้ดีที่สุด เมื่อเทียบกับกระถางชนิดอื่น ๆ เหมาะกับแคคตัสสายพันธุ์ที่มีขนหนามมาก ๆ และแคคตัสที่ไม่ค่อยชอบความชื้น อย่างเช่น แคคตัสตระกูล แมมมิลลาเรีย (Mammillaria) เป็นต้น

https://pixabay.com/th/photos/%e0%b8%ab%e0%b8%a1%e0%b9%89%e0%b8%ad-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%99-%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%99-%e0%b8%95%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%87-6520444/

*คำแนะนำเพิ่มเติม*

สำหรับโรคในช่วงหน้าฝน หากบริเวณที่เลี้ยงแคคตัสมีสภาพอากาศที่อับชื้นติดต่อกันหลายวัน แคคตัสอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคเชื้อราในดิน โรคราสนิม โรครากเน่า หรืออาการเน่าคอดิน สามารถสังเกตได้ง่าย ๆ จากส่วนโคนต้นจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาลเข้ม ลำต้นนิ่ม หรือยุบ

Advertisement

Advertisement

นอกจากวิธีการดูแลและป้องกันตามที่กล่าวข้างต้นไปแล้วนั้น การรดน้ำแคคตัสในช่วงหน้าฝนควรผสมยากันรา หรือแคปแทน (Captan) ก็จะสามารถช่วยลดโอกาสการเกิดโรค และเชื้อราจากความชื้นในดินได้ สำหรับผู้เลี้ยงแคคตัสในโรงเรือนแบบปิด สามารถติดพัดลมระบายอากาศเพื่อช่วยระบายความชื้นในโรงเรือนได้เช่นกัน

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักสะสม หรือมือใหม่ที่รักในการเลี้ยงแคคตัส การมีโรงเรือนถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด และอย่าลืมหมั่นใส่ใจในการดูแลต้นไม้ที่ท่านเลี้ยงทุกช่วงเวลา ทุกฤดูกาล เพื่อให้เขาได้เติบโตและแข็งแรงไปพร้อม ๆ กับเราครับ

เครดิต

  • รูปภาพหน้าปก จาก tylost โดย pixabay
  • ภาพประกอบ 1จาก khw80 โดย pixabay
  • ภาพประกอบ 2จากFree-Photos โดย pixabay
  • ภาพประกอบ 3 จาก renateko โดย pixabay
  • ภาพประกอบ 4 จาก Free-Photos โดย pixabay
  • ภาพประกอบ 5 จาก Nietjuh โดย pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์