อื่นๆ
วิธีสร้างกำลังใจให้ตนเอง
มีหลายครั้งที่ชีวิตช่างมืดหม่น รู้สึกท้อแท้ยากที่จะก้าวเดินต่อ ผู้เขียนเองซึ่งป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ในช่วงซึมเศร้านั้น หมดไฟที่จะทำทุกอย่าง รู้สึกอยากหายไปแต่ในความเป็นจริงนั้น เวลาไม่เคยหยุดรอเรา ชีวิตยังคงเดินต่อและเราต้องก้าวต่อไปเรื่อย ๆ แม้จะรู้สึกหมดสิ้นหนทางก็ตาม
วันนี้ผู้เขียนจะมาแชร์การสร้างกำลังใจให้กับตัวเองในมุมมองและรูปแบบของผู้เขียนเอง ที่ใช้เพื่อให้ตัวเองนั้นสามารถที่จะเรียนและใช้ชีวิตอย่างปกติสุขที่สุด
ขอขอบคุณรูปภาพโดยคุณ johnhain จาก Pixabay.com
1) ให้กำลังใจตัวเอง
สิ่งที่เบสิคที่สุดและสำคัญที่สุด ..แต่ยากที่สุด บอกตัวเองว่า เราทำได้! เรามีความสามารถที่จะก้าวผ่านอุปสรรคที่ขัดขวางเราในตอนนี้! Meke it happen!
ขอขอบคุณรูปภาพโดยคุณ JillWellington จาก Pixabay.com
Advertisement
Advertisement
2) มีความสุขกับสิ่งเล็ก ๆ
หลายครั้งหลายคราที่ผู้เขียนเอาแต่นอนทั้งวันแล้วรู้สึกไม่ได้ทำอะไรเลย ทำให้เป้าหมายในอนาคตที่ตั้งไว้ดูห่างไกล แต่จิตแพทย์ได้ถามว่า นอนเฉย ๆ ทั้งวันเลยหรอ? ไม่ได้กินข้าวกินน้ำเลยหรอ? หรือการฟังเพลงกล่อมนอนหรือแม้แต่การนอนที่ผู้เขียนทำก็ถือเป็นกิจกรรมอย่างนึง
"คนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยน่ะ ไม่มีจริงหรอก"
... เพราะงั้นจงมีความสุขกับทุกสิ่งที่ผ่านมา เช่น วันนี้ฉันพาตัวเองลุกมากินข้าวแล้ว! หรือแม้แต่มีความสุขกับความคิดที่ว่าแวบนึงอยากลุกมาอ่านหนังสือ(แม้ไม่ได้อ่านจริง ๆ ก็ตาม) การทำให้ตัวเองรู้สึกว่าทำอะไรสำเร็จจะทำให้มีกำลังใจในการทำสิ่งอื่น ๆ ต่อไป
ขอขอบคุณรูปภาพโดยคุณ geralt จาก Pixabay.com
3) สร้าง Mindset ใหม่
Mindset หรือกรอบความคิด หรือวิธีคิด ลบ Mindset เก่าที่ว่า เราท้อแท้ เราเหนื่อย เราทำไม่ได้ มันเป็นไปไม่ได้ เปลี่ยนใหม่ให้เป็นฉันทำได้ แน่นอนว่ามันไม่สามารถเปลี่ยนความคิดได้ภายในวันเดียว เพราะฉะนั้นเราต้อง "ฝืน" พูดหน้ากระจกทุกวันว่าเราเก่ง เราทำได้ และพาตัวเองไปอยู่ในสังคมที่มีแต่คนขยัน พฤติกรรมเราจะเปลี่ยนและ Mindset ก็จะเปลี่ยนด้วย เพราะวิธีคิดส่งผลถึงการแสดงออกของมนุษย์
Advertisement
Advertisement
ขอขอบคุณรูปภาพโดยคุณ jarmoluk จาก Pixabay.com
4) ขอกำลังใจจากคนข้างกาย
จงเข้าหาคนที่เขารักเรา อย่าคิดว่าเราโดดเดี่ยวเดียวดายบนโลกนี้ ชีวิตเรายังมีอีกหลายชีวิตรอบข้าง เพื่อนสนิท พ่อ แม่ แฟน หรือแม้แต่หมา แมวที่เลี้ยงไว้ แค่คิดว่ามีสิ่งเหล่านี้รอบข้างก็จะรู้สึกมีแรงหนุนเพิ่มขึ้นมาแล้ว และถ้าไม่ยากไปซักนิดก็ระบายสิ่งที่คิดให้เขาฟังแล้วขอกำลังใจเขาซักหน่อย แค่นี้ก็จะรู้สึกชีวิตมันสว่างสดใสขึ้นและอยากเดินต่อแน่นอน
ขอขอบคุณรูปภาพโดยคุณ Devanath จาก Pixabay.com
5) ฝึกจิตฝึกใจให้สงบ
การที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้หมายความว่าเราจะไม่คิดอะไรเลย การที่เราคิดว่าท้อแท้ เหนื่อย เบื่อหน่าย เศร้า เครียด จิตเราฟุ้งซ่านทั้งนั้น ฝึกสมาธิ กำหนดลมหายใจให้จิตใจสงบและโล่งขึ้นมาหน่อยก็ดี เพราะพอเราสงบ เรามีสติ เราจะรู้ถึงสิ่งที่ควรทำต่อไปและที่สำคัญการที่เราสงบ ผ่อนคลายจะช่วยไล่ความคิดที่แย่ ๆ ออกไปด้วย
Advertisement
Advertisement
ขอขอบคุณรูปภาพปกโดยคุณ FelixMittermeier จาก Pixabay.com
ความคิดเห็น