อื่นๆ
วิธีออมเงินง่ายๆ ของมนุษย์เงินเดือน

การออมเงินนั้น เพื่อนๆทุกคนคงจะทราบว่า มันเป็นเรื่องที่ดูเหมือนทำได้ง่าย แต่พอเอาเข้าจริงเราไม่สามารถทำตามที่ตั้งใจเอาไว้ได้เลย
เมื่อเงินเดือนออก โดยส่วนมากเราจะใช้จ่ายในส่วนที่เราเป็นหนี้สินต่างๆ และค่าใช้จ่ายประจำวันกันก่อน.. ก่อนที่จะตัดสินใจเก็บออมกัน ในวันนี้อยากจะนำความรู้ดีๆในการออมเงินง่ายๆ สำหรับมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆมาฝากกันค่ะ
ก่อนอื่นเลยต้องให้เครดิตกับ ช่องยูทูป https://www.youtube.com/user/ProjectLifeMastery ของ Mr. Stefan James ที่ช่วยจุดประกายให้ผู้เขียนเป็นคนใหม่ ที่อยากจะพยายามออมเงินให้ได้ด้วยวิธีการที่เป็นระบบและง่ายต่อการปฎิบัติค่ะ
แหล่งที่มาของข้อมูล: https://www.youtube.com/c/ProjectLifeMastery
ในแต่ละเดือนเราควรที่จะแยกเงินไว้ส่วนหนึ่งเพื่อการเก็บออม แต่ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือไม่ได้จัดทำ budget เอาไว้ว่าค่าใช้จ่าย ส่วนใดต้องใช้จ่ายไม่เกินเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดปัญหาที่ว่า รายรับ = รายจ่าย จึงทำให้ไม่มีเงินเหลือเก็บออม และปัญหาแบบนี้จะเป็นเดือนต่อเดือนต่อไปอีก จนกลายเป็นเป็นวัฐจักร และจะทำให้เราไม่สามารถเดินออกไปจากวังวน รายรับ = รายจ่าย นี้ได้เลย
Advertisement
Advertisement
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/person-counting-money-with-smartphones-in-front-on-desk-210990/
มาเข้าเนื้อหากันเลยดีกว่าค่ะ โดยหลักสำคัญในการออมเงินนั้น มีวิธีดังนี้ค่ะ
1. 55% (Necessities) แบ่งเอาไว้ใช้จ่าย ในรายจ่ายที่จำเป็น
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/man-holds-10-u-s-dollar-banknote-928201/
เป็นจำพวก ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนชำระบัตรเครดิต ค่างวดสินเชื่อรถยนต์ บิลค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร และค่าซื้อของใช้ภายในบ้านทั้งหมด ถ้าจำนวนที่เราแบ่งไว้ 55% ยังคงไม่พอกับค่าใช้จ่าย แนะนำว่าเพื่อนๆ ควรจะหาทางลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงมาบ้างคะ อาจจะเป็นการยกเลิกการเป็นสมาชิก fitness รายปีและหันมาออกกำลังกายเองที่บ้าน หรือยกเลิกสมาชิกรับนิตยสารรายเดือน แล้วมาอ่านออนไลน์แทนก็ได้ความรู้เช่นกันค่ะ
Advertisement
Advertisement
2. 10% (Long-term savings) แบ่งเก็บออมระยะยาว
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/abundance-bank-banking-banknotes-259027/
ส่วนนี้เราจะแบ่งเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน อย่างเช่น ช่วงโควิท-19 นี้เช่นกัน เราไม่สามารถออกไปทำงานได้ อยู่แต่ที่บ้าน บางคนทำงานที่บ้าน และบางคนที่ไม่ได้ทำงาน แน่นอนต้องใช้เงินเก่าของตัวเองไป แต่ถ้าเรามีเงินในส่วนนี้เก็บมาทุกๆเดือน เราก็จะไม่เจอสถานการณ์ที่เลวร้ายเรื่องการเงิน โดยคนส่วนมากมักจะไม่ได้คิดถึงเงินฉุกเฉินก้อนสำคัญก้อนนี้ เงินในส่วนนี้เราจำเป็นที่จะต้องมีไว้สำรองเป็นจำนวน 6-12 เท่าของเงินเดือนของเพื่อนๆนะคะ
3. 10% (Financial Freedoms) แบ่งไว้เพื่อการลงทุน
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/airport-bank-board-business-534216/
เราสามารถนำเงินออมในส่วนนี้ไปลงทุน ซึ่งการลงทุนนั้นก็มีหลากหลายประเภทด้วยกันค่ะ เช่น
Advertisement
Advertisement
- ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น หรือตราสารเงิน
- การลงทุนในพันธบัตรหรือหุ้นกู้ ระยะยาว
- การลงทุนในหุ้น
- การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
- การลงทุนในของสะสมมีค่าต่างๆ ที่เราชื่นชอบ
ถ้าคณิตศาสตร์ชั้นสูง จำเป็นต่อความสำเร็จในการลงทุน
ผมคงเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ไปตลอดชีวิต
วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) มหาเศรษฐีและนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของโลก
ข้อมูลแหล่งที่มาจาก https://www.finnomena.com/
https://www.finnomena.com/z-admin/20-warren-buffett-quotes/
4. 10% (Education) แบ่งไว้เพื่อการเรียนรู้
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/abstract-blackboard-bulb-chalk-355948/
อีกสิ่งหนึ่งที่เราสามารถลงทุนได้คือ การลงทุนให้กับตัวของเราเอง เพราะว่าเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้อย่างไรถ้าเราไม่มีเงินทุนสำหรับการเรียนรู้ อาจจะเป็นการเรียนรู้จากคนอื่นๆ โดยการประชุม การเข้าคอร์สฝึกหัด การเรียนรู้ online business หรืออื่นๆ เพื่อที่เราจะได้มีทักษะใหม่ๆ มาพัฒนาตัวเอง ซึ่งเมื่อเราเรียนรู้แล้ว เรายังสามารถนำความรู้ของเรานี้ เอาไปสร้างโอกาสในเงินออมของเราในส่วน Financial Freedom ที่เราแบ่งไว้เพื่อการลงทุนได้อีกด้วย
5. 10% (Fun) แบ่งไว้ซื้อของที่เราอยากได้
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/apple-coffee-computer-desk-356056/
เรายังคงมีเงินส่วนหนึ่ง แบ่งเอาไว้ซื้อของที่เราอยากได้ส่วนตัว แต่เมื่อเราเริ่มออมเงินตามวิธีนี้แล้ว เงินในส่วนนี้เหมือนจะเป็นเงินที่จะถูกใช้จ่ายแบบฟุ่มเฟือย เช่น เราอาจจะไปบาร์ ไปดูหนัง ฟังเพลง ไปร้านนวด และทำสิ่งต่างๆ แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนสามารถตัดรายจ่ายฟุ่มเฟือยนี้ออกไปได้อีก และนำเงินก้อนนี้ไปจ่ายค่าบัตรเครดิตที่เราเป็นหนี้แต่ละเดือน ให้หมดไปก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจนะคะ
6. 5% (Give) แบ่งไว้เพื่อการแบ่งปัน
แหล่งที่มาของภาพ: https://www.pexels.com/photo/pizza-in-a-box-3944307/
เงินในส่วนนี้ เป็นส่วนที่เล็กที่สุดในการออมเงินของเรา การให้หรือแบ่งปันนั้นไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่เรามีแล้วเราจะต้องให้ทั้งหมด เราอาจจะแบ่งปัน 5 บาท 10 บาท ให้กับคนยากไร้ หรือนำเงินส่วนนี้บริจาคให้กับเด็กด้อยโอกาศ หรือให้กับมูลนิธิต่างๆตามโรงพยาบาลก็ได้เช่นเดียวกันค่ะ
สุดท้ายนี้ ในส่วนของผู้เขียนเองได้เปิดบัญชีไว้แล้วทั้งหมด 6 บัญชี เพื่อป้องกันการสับสนในการเก็บออมของเราเองค่ะ :)
เป็นยังไงบ้างคะเพื่อนๆ หวังว่าคงจะไม่ยากจนเกินไป ขอให้มีเงินเก็บออมกันทุกคนนะคะ
ขอบคุณรูปภาพจาก https://www.pexels.com/
เพื่อนๆสามารถติดตามวิดีโอข้อมูลการออมได้เลยที่ https://www.youtube.com/watch?v=iMBikr7lKHI
ความคิดเห็น






