อื่นๆ
วิ่งหนีผี!
นัส ชายหนุ่มที่ชอบการเดินทางท่องเที่ยว เป็นผู้ชายสายติส และการเดินของนัสนั้นมักเดินทางคนเดียวเสมอ ครั้งนี้มีแพลนจะไปเที่ยวบนดอย ซึ่งการเดินทางไปเที่ยวบนดอยแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ครั้งนี้นัสวางแผนว่าจะไปกางเต็นท์นอน และถ่ายรูปวิวบนดอย
เช้าตรู่ของวันเดินทาง ผมขับรถออกจากบ้าน ขับรถมา 3 ชั่วโมง ผมก็ถึงจุดหมาย ผมขนของลงจากรถ ผมสะพายเป้ไว้ที่หลัง แล้วเริ่มเดินขึ้นไปที่จุดชมวิว
ผมเดินมาถึงจุดชมวิว ผมกางเต็นท์และจัดของในเต็นท์ พอทำทุกอย่างเรียบร้อยผมก็ถือกล้อง เพื่อไปถ่ายรูปวิวบนดอย ผมเดินเข้าไปในป่า ป่านี้ผมเคยเข้ามาแล้ว ผมถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนผมรู้สึกว่าเดินเข้ามาลึกเกินไป แล้วนี่ก็ใกล้จะมืดแล้ว
ผมปิดกล้อง แล้วนำมือถือขึ้นมาเพื่อเปิดโหมดไฟฉ่าย ผมหันหลังเดินกลับ แต่พอมองไปรอบ ๆ ก็มีแต่ต้นไม้ ผมเดินไปตามทางเรื่อย ๆ เผื่อจะเจอทางออกไปที่เต็นท์ แต่เดินมานานมาก ก็ยังไม่เจอทางออก ผมมองไปหน้าจอโทรศัพท์ สัญญาณโทรศัพท์ไม่มีเลย ผมเหนื่อยจึงนั่งพัก แล้วเอารูปในกล้องขึ้นมาดู
Advertisement
Advertisement
ผมเปิดรูปไปเรื่อย ๆ เมื่อผมเห็นรูปหนึ่ง ทำให้ถึงกลับต้องตกใจ ผมเลื่อนรูปต่อจากรูปนั้นไปเรื่อย ๆ ผมรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว
ขอบคุณภาพโดยmskathrynneจากpixabay
ผมเห็นร่างผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในรูปที่ผมถ่ายไว้เกือบทุกรูป ผมมองไปรอบ ๆ ด้วยความกลัว ผมลุกขึ้นและเริ่มเดินหาทางออกอีกครั้ง ระหว่างผมเดินนั้นฟ้ามืดแล้ว
เดินมาสักพักผมก็รู้สึกขนลุก และเหมือนมีใครกำลังเดินตาม ผมเริ่มใจไม่ดี รวบรวมความกล้าและหันไปมองข้างหลัง สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้านั้น ทำให้ผมตกใจจนสบถคำออกมาจนฟังรู้เรื่อง
ร่างผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างหลังผมนั้น เธอใส่ชุดกระโปงยาว ชุดเต็มไปด้วยเลือด เธอยิ้มได้สยองมาก แถมเลือดยังไหลออกมาจากตาอีก
ภาพที่ผมเห็นทำให้ผมวิ่งหนีแบบไม่รู้ทิศรู้ทาง คิดได้แค่ว่าวิ่งให้พ้นจากผีก่อน ค่อยหาทางออกทีหลัง
ผมที่ออกตัววิ่งมา ผมรู้สึกเหมือนผีตนนั้นกำลังวิ่งตามผมมาเหมือนกัน ผมจึงหันหน้าไปมองข้างหลัง
Advertisement
Advertisement
เห็นร่างผีตนนั้นกำลังวิ่งตามมาจริง ๆ เธอจ้องตามาที่ผมเหมือนกำลังจะฆ่าอย่างนั้นแหละ ผมรีบเร่งฝีเท้าอย่างไม่คิดชีวิต จนผมเห็นแสงไฟที่ลานจุดชมวิว ผมรีบวิ่งไปตรงแสงไฟ รีบมุดเข้าเต็นท์ไป ผมนั่งหอบอยู่ในเต็นท์สักพัก ผมได้ยินเสียงใครกำลังเดินวนอยู่รอบเต็นท์ผม
ผมกลัวมากจนไม่กล้าเปิดออกไปดูว่าใคร เสียงเดินรอบเต็นท์หยุดลง แต่อยู่ ดี ๆ เต็นท์ผมกลับขยับไปมา เหมือนใครกำลังขย้ำมัน
ผมคิดในใจคงเป็นผีตนนั้นแน่ ๆ ผมไม่รู้ทำยังไงถ้าออกไปต้องเจอผีตนนั้นแน่ ๆ ผมได้สร้อยพระที่แม่ผมให้ติดตัวมาออกมาจากกระเป๋า ผมคล้องสร้อยพระไว้แล้วแผ่เมตตาให้ผีตนนั้น สักพักเหตุการณ์ก็สงบลง ผมโล่งใจมาก ผมนอนลงแล้วก็หลับไป
เช้าวันต่อมา ผมรีบเก็บของลงจากดอย ผมยังขวัญเสียจากเรื่องที่เจอเมื่อคืนเป็นอย่างมาก ผมรีบขับรถกลับบ้าน.... และคงยังต้องทำใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น
ความคิดเห็น