สนุกกับสิ่งที่ทำและทำอย่างมีความสุข

รอยยิ้มและเสียงหัวเราะคือสิ่งที่ช่วยให้เรามีความสุข แต่ในช่วงมีเรื่องให้คิดจนเครียดที่เข้ามารุมเร้าจนแทบจะทำให้เกิดอาการที่เรียกว่าจิตตก ทำให้ความสุขที่เคยมีหายไป ถ้าเราไม่รีบสลัดความทุกข์ร้อนออกไป เรานั่นแหละจะมีแต่ทุกข์จนหาความสุขไม่เจอ

เคยสังเกตบ้างไหม บางคนมีแต่ความสุข ไม่เห็นเขาทุกข์ร้อนแต่อย่างใด ไม่ว่าทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนจะได้ยินแต่เสียงหัวเราะ ทำให้คนรอบข้าง มีความสุขตามไปด้วย เขาใช้ชีวิตอย่างไร ทำไมถึงมีแต่เรื่องสนุกเข้ามาในชีวิต

จากที่ได้พูดคุยกับคนนั้น เขาบอกว่าอย่าเครียด อย่าทุกข์เพราะสองสิ่งนี้จะทำให้ชีวิตไร้ความสุข ถ้าจะให้ดีก็คือจงสนุกกับสิ่งที่ทำ ซึ่งเป็นแนวความคิดของคนที่มองโลกในแง่ดี

การเต็มที่กับทุกสิ่งที่ทำ โดยตัดความเบื่อหน่ายออกไป แม้ว่าสิ่งที่ทำนั้นไม่ใช่เรื่องสนุกก็ตาม ถ้าหากว่าเราทำใจให้สบายแล้วคิดว่าสิ่งที่กำลังทำเป็นเรื่องที่ดี เพียงแค่นี้ความสุขก็จะเกิด

ทำงาน เมื่อพูดถึงการทำงานหลายคนส่ายหน้าเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหน่าย ไม่เห็นจะสนุกตรงไหน มีแต่ความเครียด อ่อนล้า เพลีย ถ้าหากเป็นงานที่ใช้แรงจะทำให้เหนื่อยมาก ถ้าเราคิดว่าการทำงานแล้วแย่อย่างนั้นก็คงไม่มีความสุขจนคิดอยากจะลาออกวันละหลาย ๆ ครั้ง ในทางกลับกันถ้าเราทำงานอย่างมีความสุข เราก็จะสนุกกับงาน อาการแย่ ๆ ก็จะไม่เกิด

ออกกำลังกาย ความจริงแล้วถ้าเรามีความตั้งใจที่จะออกกำลังกายก็ต้องเตรียมพร้อมทั้งกายและใจ แต่การออกกำลังกายบางอย่างกลับทำให้เกิดความเบื่อหน่ายจนกลายเป็นเกลียดและหันไปกินเพียงอย่างเดียว สุดท้ายเกิดโรคต่าง ๆ ตามมา

ออกกำลังกายถ้าจะให้มีความสุขนั้น เราจะต้องสนุกกับทุกท่าที่เคลื่อนไหวร่างกาย แม้ว่าท่าจะยากแต่ส่งผลให้ร่างกายแข็งแรงก็ต้องทำ เมื่อเราสร้างความสุขตรงนี้ การออกกำลังกายก็จะมีแต่ความสุข

ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แม้ว่าสถานการณ์รอบตัวเราเต็มไปด้วยเรื่องแย่ ๆ ทั้งเศรษฐกิจ มลพิษและเชื้อโรคร้ายที่บั่นทอนความสุขในการใช้ชีวิตให้ลดน้อยลง ถ้าเราทำใจยอมรับกับความเป็นจริง อย่าคิดมาก เมื่อรู้ว่าค่าครองชีพสูงก็ต้องตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออกไปและอย่าไปอยู่ในสถานที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค ควรปกป้องตัวเองให้ดีที่สุดและหาความสุขให้แก่ตัวเองในแบบที่ชอบ เพียงเท่านี้ก็อยู่ได้โดยไร้ความทุกข์

เมื่อเราเต็มที่กับสิ่งที่ทำ โดยตัดความรู้สึกแย่ ๆ ออกไป สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความสนุก ซึ่งซื้อหาไม่ได้ อยู่ที่ตัวเราเป็นผู้กำหนดขึ้นมา ว่าจะให้ความรู้สึกนั้นไปในทิศทางใด

ความรู้สึกติดลบเปรียบกับขยะที่อยู่ในใจ ถ้าหากว่าเราหมั่นทำความสะอาดด้วยการปัดกวาด เราก็มีความสุข แต่ว่าเราจะใช้อะไรในการปัดกวาดล่ะ ถ้าไม่ใช่ความคิดในแง่บวกและอย่าคล้อยตามกับความคิดแย่ ๆ

แม้ว่าจะต้องใช้เวลาในการขจัดขยะออกไปจากใจ แต่ก็ดีกว่าปล่อยให้มันรกและสกปรกอยู่อย่างนั้น ทุกครั้งที่รู้ว่าไม่สนุกในทุกเรื่องที่ทำ จงตั้งสติแล้วสลัดความรู้สึกแย่ ๆ ออกไป เพียงเท่านี้เราก็มีความรู้สึกที่ดี

ถ้าจะว่าไปแล้วสุขหรือทุกข์อยู่ที่ความคิดของเราว่าจะเลือกเอาสิ่งใดไว้ เหมือนจะง่ายแต่หลายคนบอกว่าปฏิบัติยาก เรื่องแบบนี้ก็ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ซึ่งผู้เขียนรู้ว่าคนเราต้องการความสนุกด้วยกันทั้งนั้น เพียงแค่ทำใจให้ได้ เราก็จะสนุกกับสิ่งที่ทำและทำอย่างมีความสุขค่ะ

จรรยา เลิศพงษ์ไทย

รูปปก ภาพโดย madzart จาก pixabay

ภาพประกอบ 1 ภาพโดย pexels จาก pixabay

ภาพประกอบ 2 ภาพโดย sasint จาก pixabay

ภาพประกอบ 3 ภาพโดย silviarita จาก pixabay

ภาพประกอบ 4 ภาพโดย ryanmcguire จาก pixabay

ภาพประกอบ 5 ภาพโดย myriams-fotos จาก pixabay