สร้างความสุขด้วยหนังสือ 4 เล่มในช่วงกักตัวอยู่บ้าน

ในช่วงนี้หลายๆคนได้กักตัวอยู่ในบ้านและปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาจากการกักตัวนี้ อาจจะทำให้เกิดอาการเครียด วิตกกังวล เบื่อหน่าย เพราะกิจวัตรประจำวันได้ถูกทำให้เปลี่ยนแปลงไป จากต้องตื่นเช้าเพื่อไปทำงานแต่กลับต้องอยู่ในบ้าน ทำกิจกรรมวนเวียนซ้ำไปซ้ำมา ดังนั้นวันนี้ดิฉันขอนำเสนอ หนังสือ 4 เล่ม ที่สามารถสร้างความสุขเล็กๆน้อยๆได้ในช่วงที่กักตัวอยู่ในบ้านที่จะทำให้คุณใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และสร้างความรู้สึกดีๆแก่ตนเองและคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี

1.Practicing Happiness

ผู้เขียน Jeon Seung-Hwan

เป็นหนังสือสำหรับคนที่กำลังต้องการความสุขจากสิ่งรอบข้าง โดยหนังสือเล่มนี้จะสอนวิธีใส่ใจให้น้อยลงและรักให้มากขึ้น ในหนังสือนี้จะบรรยายเกี่ยวกับความสุขที่สามารถสร้างได้จากตัวเราเองและการเคารพตนเองแล้วเลิกเปรียบเทียบตนเองกับคนอื่นจนทำให้ตัวเราเองหมดความหวังลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงต้องให้เกียรติตนเองเพราะชีวิตของเรามีคุณค่าในตัวมันเองเสมอ

ความรู้สึกต่อหนังสือเล่มนี้ : ตอนที่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็เป็นช่วงที่กำลังสอบเข้ามหาวิทยาลัยเช่นกัน ความรู้สึกผิดหวัง เศร้า วิตกกังวลได้ถาโถมเข้ามาอีกครั้งจนบางทีก็รู้สึกว่าตนเองไม่มีอะไรดีแม้แต่อย่างเดียว จนไปเจอกับหนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่สอนให้เราคุยและทำความรู้จักกับตัวเอง บางครั้งก็จำเป็นต้องขอบคุณตัวเองที่อดทนและทำสิ่งที่วิเศษออกมาได้แม้ว่าในสายตาคนอื่นจะมองเป็นเรื่องธรรมดาแต่ในชีวิตของเราเราได้พยายามทำอย่างเต็มที่แล้ว ดังนั้นสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่วิเศษที่เราได้ทำออกมาจากใจจริงและสิ่งนี้ก็เพียงพอต่อชีวิตของเราในวันต่อ ๆไปแล้ว โดยในหนังสือเล่มนี้จะให้ความรู้สึกเป็นเหมือนเพื่อนที่ส่งอารมณ์ผ่านทางตัวอักษรและสร้างความรู้สึกประทับใจในทุกหน้าที่อ่านรู้ตัวอีกทีดิฉันก็หลงรักหนังสือเล่มนี้จนกลายเป็นหนังสือเล่มโปรดไปโดยปริยาย

เพราะคนที่คุณควรจะรักเขามากที่สุด ก็คือตัวคุณเอง

3.Don’t Get My Heart Hurt อย่าทำให้ใจเราเจ็บ

ผู้เขียน และผู้วาดประกอบ ซอลเลดา

บางครั้ง บางเวลาก็มักจะรู้สึกอยากอยู่คนเดียว อยากทบทวนเรื่องราวต่างๆ ต้องการความเงียบ ความสงบจนทำให้เราเผลอตัวออกมาอยู่คนเดียว รู้ตัวอีกทีหันหลังไปก็ไม่พบเจอใครเสียแล้ว ความเจ็บปวด ความเหงาที่ต้องอยู่โดดเดี่ยวนี้อาจสร้างบาดแผลขนาดใหญ่ให้กับตัวเราได้ ในหนังสือเล่มนี้จะช่วยเยียวยาจิตใจของคุณให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง โดยเล่าเรื่องผ่านซอลโทเจ้ากระต่ายสีเหลืองและตัวละครอื่นๆ  เสริมด้วยด้วยคำพูดที่สามารถปลอบโยนจิตใจ การให้ข้อคิดมากมาย จนทำคุณหลงรักหนังสือเล่มนี้ก็เป็นได้

ความรู้สึกต่อหนังสือเล่มนี้ : เริ่มแรกที่ได้รู้จักกับหนังสือเล่มนี้คือตอนเดินเข้าไปร้านหนังสือพร้อมคิดไปว่าอยากได้หนังสือสักเล่ม เดินไปเดินมาจนไปสะดุดกับหนังสือเล่มนี้เข้าเพราะหน้าปกหนังสือเล่มนี้เป็นสีเหลืองและมีภาพวาดน่ารักพร้อมชื่อหนังสือที่น่าสนใจเลยตัดสินใจซื้อทันที พอได้ลองอ่านแล้วก็พบว่าเนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เอ่ยถึงความจริงในชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี สะท้อนความคิดของเราเวลาต้องการให้ใครสักคนสนใจ และภาพในหนังสือเล่มนี้ก็ได้อธิบายความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดีจนทำให้เข้าใจความรู้สึกของเจ้ากระต่ายซอลโทเลยว่าเจ็บปวดแค่ไหน ความรู้สึกหน่วงที่เกิดขึ้นบางครั้งก็ไม่รู้สาเหตุแต่เมื่อมองเข้าไปลึกๆแล้วก็พบว่าปัญหานั้นลึกซึ้งเข้าไปอีกจนต้องใข้เวลารักษาอาการหน่วงเหล่านี้ หลังอ่านจบก็พบว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยเยียวยาจิตใจและอยู่เป็นเพื่อนในยามเหงาได้เป็นอย่างดีเยี่ยมทีเดียว

แด่เธอผู้อยากอยู่คนเดียวแต่ไม่อยากโดดเดี่ยว

- ผลงานล่าสุดของซอลเลดา "แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นจริงๆนะ" เป็นเล่มที่เพิ่งออกมาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเราจะได้พบกับซอลโทกระต่างสีเหลืองตัวเดิมพร้อมคำพูดที่งดงามของซอลเลดาอีกครั้ง!

4.to every me who I remember

ผู้เขียน Twoego

คนเราส่วนใหญ่มักนำตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นๆอยู่บ่อยครั้ง ส่งผลให้เกิดอาการท้อ เจ็บปวดจิตใจ การผูกติดชีวิตเราไว้กับผู้อื่น จนบางครั้งเราก็มักเผลอทำตัวเหมือนกับคนอื่นโดยไม่รู้ตัว กลายเป็นคนอื่นทีละเล็กทีละน้อยจนสูญเสียความเป็นตัวเองไป โดยในหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้รู้สึกดีกับตัวเอง มองชีวิตในแง่บวกมากขึ้น และใช้ชีวิตในแบบที่เป็นตัวตนของตัวเองมากขึ้น

ความรู้สึกต่อหนังสือเล่มนี้ : ในหนังสือเล่มนี้ให้ความรู้สึกเหมือนการเล่าเรื่องชีวิตของผู้เขียนและสอดแทรกความคิด ข้อคิดลงไปจนทำให้หนังสือเล่มนี้มีความน่าสนใจจนทำให้เกิดความรู้สึกอยากอ่านต่อไปเรื่อยๆ เมื่อได้อ่านต่อไปก็จะได้พบกับความสุขเล็กๆในวันๆหนึ่ง บางครั้งความท้อใจก็อาจส่งผลให้เราล้มเลิกอะไรบางอย่างไป กังวลและกลัวไปหมดจนทำให้ไม่สามารถทำสิ่งใดได้ ในหนังสือเล่มนี้เปรียบว่าชีวิตก็เหมือนการวิ่งมาราธอนที่ต้องใช้กำลัง ความพยายามแม้จะมีการเหนื่อยล้าบ้างในบางทีและบางครั้งก็เริ่มรู้สึกไม่อยากวิ่งต่อไปเพราะวิ่งไปก็ยังไม่เห็นเส้นชัย แต่เชื่อเถิดว่าเมื่อเราได้วิ่งเข้าเส้นชัยแล้วการวิ่งที่ยาวนานนี้จะคุ้มค่ากับความเหนื่อยล้าแน่นอน

มีชีวิตอยู่ในแบบของเรา เท่านี้ก็เพียงพอต่อการมีชีวิตอยู่แล้ว

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ชีวิตขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยเฉพาะกำลังใจจากตนเอง ดังนั้นในช่วงกักตัวอยู่บ้านนี้ก็หวังว่าทุกคนจะได้ใช้เวลาว่างโดยการเลือกอ่านหนังสือสักเล่มเพื่อปลอบประโลมใจตนเองแต่ถ้าหากไม่รู้ว่าควรจะอ่านเล่มไหนดีก็ขอแนะนำให้ลองอ่านหนังสือที่ 4 เล่มนี้ได้และหวังว่าผู้อ่านจะได้รับความสุขจากหนังสือ 4 เล่มนี้ไม่มากก็น้อย แล้วพบกันใหม่ในบทความครั้งต่อไปนะคะ

.

. เครดิตรูปภาพประกอบโดยผู้เขียน