อื่นๆ

สัมพเวสีมารับส่วนบุญ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สัมพเวสีมารับส่วนบุญ

ลุงรงมีอาชีพขายน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ โดยแกจะทำขายทุกเช้าที่บริเวณหน้าบ้าน ซึ่งก็อยู่ติดกับที่ตลาด จุดเด่นร้านนี้ คือยังใช้เตาถ่านต้มน้ำเต้าหู้อยู่เลย ทุกวันแกจะขายอยู่กับเมียของแก แต่ถ้าหากวันไหนขายดีมาก ๆ ทำไม่ทันละก็ จะมีเปาลูกชายคนโตออกมาช่วยด้วย ซึ่งในแต่ละวันร้านของลุงรงจะขายดีมาก ขายหมดเกลี้ยงไม่เหลือแทบทุกวัน เพราะใครต่อใครก็บอกน้ำเต้าหู้ร้านนี้กินอร่อยไม่เหมือนใคร

จนวันนึง เปาลูกชายคนโตก็บอกพ่อแม่ว่าตนอยากที่จะบวช เพราะตอนนี่ตนเองก็อายุ 25 อยู่ในวัยเบญจเพสแล้ว ถึงเวลาที่จะต้องบวชทดแทนบุญคุณพ่อแม่สักที

วันบวชลูกชาย ลุงรงและเมียจัดงานบวชลูกชายตัวเองอย่างใหญ่โต มีการแห่นาค เช่าเครื่องเสียงราคาแพงมาให้กับสมกับที่ลูกชายคนโตของตัวเองบวชสักครั้งนึง

หลังจากนั้นแทบทุกวันลุงรงและเมียก็จะมาที่วัด หลังจากเลิกจากขายน้ำเต้าหู้และปาท่องโก๋ เพื่อมาหาลูกชาย ซึ่งตอนนี้เป็นพระแล้ว เป็นพระเปาไปแล้ว ลุงรงและเมียที่เมื่อก่อนนั้นไม่เคยที่จะได้เข้าวัดเลย ทั้งที่วัดก็อยู่ใกล้บ้าน แต่ตอนนี้มาวัดแทบทุกวัน บ่อยครั้งที่ลุงรงและเมียมานั่งสมาธิที่วัดแห่งนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง หรือแม้กระทั่ง เข้าไปนั่งฟังพระสวดมนต์ในโบสถ์อยู่บ่อย ๆ

Advertisement

Advertisement

ภาพโดยjunkoจากpixabayภาพโดยjunkoจากPixabay

มีอยู่วันนึงลุงรงกับเมียก็เข้าไปที่วัดเหมือนปกติเช่นทุกวัน แต่วันนี้ลุงรงสังเกตุเห็นคนมาเยอะมากกว่าวันอื่น ๆ มีผู้คนหลายคนที่หน้าดำคร่ำเครียดมาวัดนี้กันมาก แต่ละคนร่างกายซูบผอม อดอยาก แต่คนพวกนี้มักจะไม่ค่อยใส่รองเท้ากันมาเลย ซึ่งก็มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แรก ๆ ลุงรงก็ไม่ได้สนใจอะไรคิดว่าเป็นคนยากจนที่อยู่แถวนี้ คงมาขออาหารที่วัดกินกัน และคนพวกนี้ก็ชอบไปนั่งฟังพระสวดมนต์ที่โบสถ์อยู่เป็นประจำ แต่จะนั่งกันอยู่บริเวณหน้าโบสถ์เท่านั้น ไม่ยอมเข้าไปในโบสถ์เลยแม้แต่สักคนเดียว

หลัง ๆ มาลุงรงเริ่มที่จะสงสัย ว่าทำไมคนพวกนี้ไม่ยอมเข้าไปในโบสถ์เลย แต่ลุงรงสังเกตุได้ว่า หลังจากเข้ามาวัดแล้วพวกเขาเหล่านี้ หน้าตาจะสดชื่นขึ้น แจ่มใสขึ้น ร่างกายที่เมื่อก่อนซูบผอม กลับมีน้ำมีนวลอ้วนขึ้น บางครั้งลุงรงก็ได้เข้าไปทักทายพวกเขาเหล่านั้น แต่เหมือนพวกเขาไม่สนใจกับคำพูดของลุงรงเลย

Advertisement

Advertisement

ภาพโดยmarkusspiskeจากpixabayภาพโดยmarkusspiskeจากPixabay

แล้ววันนึงลุงรงก็ไปที่วัดเหมือนปกติทุกวัน แต่วันนี้ไม่เห็นพวกเขาเหล่านั้นแล้ว ลุงรงเลยนึกแปลกใจว่าทำไมวันนี้พวกเขาไม่มากันเลยแม้แต่คนเดียว

"แม่ วันนี้ไม่เห็นพวกคนที่ไม่ใส่รองเท้ามากันเลยนะ" ลุงรงพูดกับเมีย

"ใครเหรอพ่อ ไม่ใส่รองเท้า แม่ไม่เคยเห็น" เมียตอบไปด้วยความแปลกใจ

"ก็พวกที่มานั่งฟังพระสวดมนต์หน้าโบสถ์ไง"

"แม่ไม่เคยเห็นพ่อ อย่ามาล้อเล่นนะ อย่ามาอำกัน พ่อก็รู้แม่เป็นคนขี้กลัว"

ลุงรงแกก็บอกว่าแกเห็นคนพวกนั้นจริง ๆ ทุกวันเลย ส่วนเมียแกเริ่มกลัวมาแล้ว บอกไม่เคยเห็นแม้แต่คนเดียว จนเหมือนพระอาจารย์ท่านหนึ่งบังเอิญได้ยินเข้า

"โยมเห็นพวกเขาเหรอ พวกสัมพเวสีนะ พวกนี้จะเร่ร่อนไปทั่ว ตายแล้วก็ยังมีกรรมอยู่ ที่เขามาที่วัดนี้ เพราะต้องการรับส่วนบุญ ส่วนกุศล เพื่อจะได้ไปเกิดใหม่เสียที เลยมานั่งฟังพระสวดมนต์ที่หน้าโบสถ์ เพราะพวกเขาเข้าไปข้างในไม่ได้ ที่ไม่เห็นพวกเขาแล้ว อาจจะได้ไปเกิดใหม่แล้วละ"

Advertisement

Advertisement

สิ้นเสียงคำพูดของพระอาจารย์ท่านนั้น ลุงรงและเมียถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากนั้นลุงรงก็ได้ทำบุญไปให้วิญญาณสัมพเวสีพวกนั่นทันที

และหลังจากนั้น ลุงรงก็ไม่เคยเห็นสัมพเวสีพวกนั้นที่วัดนี้อีกเลย คงไปเกิดแล้วจริง ๆ

ภาพหน้าปกโดยJan-MallanderจากPixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์