ไลฟ์แฮ็ก

สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่ออายุเข้าเลขสาม (61 ข้อ)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
สิ่งที่ได้เรียนรู้เมื่ออายุเข้าเลขสาม (61 ข้อ)

ว่ากันว่าเมื่อชีวิตเดินทางมาถึงจุดๆ หนึ่ง จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่วัยที่มีเลขสามนำหน้า ซึ่งอาจเป็นช่วงวัยที่กำลังผันเปลี่ยนลอกคราบ กำลังอยู่ระหว่างช่วงปลายวัยรุ่น และเข้าสู่จุดเริ่มต้นของวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งเป็นวัยที่สั่งสมประสบการณ์ชีวิตมาประมาณหนึ่งจนเกิดกระบวนการตกผลึกทางความคิดในบางมิติ ซึ่งสิ่งที่ผู้เขียนได้เรียนรู้ในขวบวัยสามสิบนิดๆ สามารถเขียนกลั่นกรองได้ 61 ข้อ ดังต่อไปนี้

1. อย่าลังเลมากหรือนานเกินไป เวลาจะซื้อตั๋วเครื่องบิน เพราะนาทีที่เราตัดสินใจจะซื้อจริงๆ โปรโมชั่นมันจะหมดหรือตั๋วมันจะเต็ม

2. “ครอบครัว” ก็คือ “ครอบครัว” ต่อให้ทะเลาะกันกี่ล้านครั้ง ก็ยังคงเป็น “ครอบครัว” จงอย่าลืมข้อนี้

3. ถ้าเลือกได้ให้เข้าห้องน้ำที่มีสายฉีดชำระ หรือมีขันให้ตักน้ำ, ไม่เช่นนั้น เราจะ “แสบ” และ “ระคายเคืองมาก”

Advertisement

Advertisement

4. คนส่วนใหญ่ชอบแสดงชีวิตว่า “อุดมสุข” และเรามักเห็นคนอื่นอุดมสุขกว่าเราในโลกออนไลน์ แต่ความจริงเมื่อถึงคราว “อุดมทุกข์” หลายครั้งเขาก็โพสต์เงียบๆ ในใจคนเดียว

5. ภาคใต้ของไทย ไม่มีหน้าหนาว

6. การนอนและหัวเราะด้วยกัน ทำให้สนิทกันมากขึ้น

7. กับเพื่อนเก่าๆ เรื่องที่คุยเวลาพบกัน 90 % เป็นเรื่องของ "ความหลัง"

8. ตอนเรามีงานทำ เราจะบ่นว่า “เบื่อ”, ตอนไม่มีงานทำเราก็จะบ่นว่า “เบื่อ” เช่นกัน

9. มิตรจะกลายเป็นศัตรู, ศัตรูจะกลายเป็นมิตร, มิตรที่กลายเป็นศัตรู จะกลับกลายเป็นมิตรอีกครั้ง, ศัตรูที่กลายเป็นมิตร จะกลับกลายเป็นศัตรูอีกครั้ง ในช่วงชีวิตของคนเรา รู้สึกชอบและเกลียด รู้สึกเกลียดและชอบ วนไปวนมา แบบนี้ เป็นธรรมดา

10. หากอาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ที่รถติดมากๆ ไม่ต้องทำเท่ Fast and Furious ให้ซื้อรถเกียร์ออโต้ เพราะถ้าขับรถเกียร์ธรรมดา คุณจะปวดขามาก

Advertisement

Advertisement

11. คนเรามักทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่เชื่อลองมองย้อนกลับไปดูว่าเรื่องมันเล็กแค่ไหน จำเป็นต้องทะเลาะกันหรือเปล่า?

12. ถ้าเราไม่ใส่ถุงเท้าตอนไปทำงาน รองเท้าเราจะเหม็นเร็วมาก

13. เย็นนี้กินอะไรดี? เป็นปัญหา Classic ของชีวิตคู่

14. ในระยะยาวของการทำงาน...เพื่อนร่วมงานจะชอบเราเพราะ “ความดี ความรับผิดชอบ และอัธยาศัย” ไม่ใช่เพราะ “ความเก่ง” แต่เพียงอย่างเดียว

15. ทุกครั้งที่เราซื้อหนังสือ HOW TO หรือหนังสือ Best Seller เราหวังว่าเมื่ออ่านแล้ว มันจะเปลี่ยนแปลงชีวิตเรา แต่ความจริงการเปลี่ยนแปลงไม่ได้อยู่ที่หนังสือ หากแต่มันอยู่ที่การกระทำของเรา

16. เวลาที่เราหลับ ดอกเบี้ยยังคงทำงาน

17. หลายคนอยากเป็น “ข้าราชการ” แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เป็น “ข้าราชการ”

18. เก็บกระเป๋าออกไปอยู่เกาะ อยู่ทะเล ขึ้นเขา ลงดอยบ้าง เครื่องบินไม่ได้ตก และซึนามิก็ไม่ได้เกิดทุกวัน

Advertisement

Advertisement

19. ไม่จำเป็นต้องเสพอะไรที่เคร่งเครียดตลอดเวลา เพียงเพราะว่าเราเป็นผู้ใหญ่ ดูการ์ตูนบ้าง เพราะการ์ตูนไม่เคยไร้สาระและทำให้สมองปลอดโปร่ง

20. เวลาที่เราจะนอนหลับ...การห่มผ้าห่มปิดปลายเท้ามันทำให้เรารู้สึกปลอดภัย และผีจะไม่มาจับขาเรา (เราคิดว่าผีเปิดผ้าห่มไม่เป็น?...)

21

21. ความไม่สบายใจ ไม่เคยถูกขจัดไปอย่างถาวร ด้วยการ shopping กินเหล้า และใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือย

22. การปั่นจักรยานเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ในระยะแรกๆ เราจะปวดก้นมาก ซึ่งเป็นถือเรื่องธรรมดา ไม่ต้องตกใจ

23. สิวจะชอบขึ้น ในวันที่เราต้องการสวย/หล่อ เพื่อออกงานสำคัญเสมอ

24. ถ้าเป็นไปได้อย่าติดบุหรี่และกาแฟสด เพราะว่ามันแพงและสุขภาพจะพัง

25. อย่าแก่กะโหลก กะลา ทำตัวให้เด็กนับถือด้วยความจริงใจ

26. เวลาบ่นว่าไม่มีไรทำ ให้ลองอ่านหนังสือธรรมะ, Harry Potter หรือวรรณกรรมเยาวชนบ้าง

27. ชื่อเล่นของ “Smart Phone” คือ “Stupid Human” (หากใช้งานมันไม่เป็น)

28. คำสอนของศาสนา (ที่ไม่ใช่เพียงพิธีกรรม) เป็นทางออกเดียว ที่จะทำให้เราผ่านบททดสอบต่างๆ ของชีวิตได้

29. โดยเฉลี่ยอายุของคนเรามีอยู่ราว 70-80 ปี อย่าไปเสียเวลา"จ่ายต้นทุน"ให้กับเรื่องแย่ๆ คนแย่ๆ มากเกินไปนัก ให้ใช้เวลาไปกับเรื่อง
ที่ควรทำความเข้าใจจริงๆ ว่าชีวิตนี้ เราเกิดมาบนใบโลกนี้แท้จริงเพื่อทำสิ่งใด

30. คนที่ปลูกกระบองเพชร แล้วสามารถเลี้ยงให้มันตายได้ เขาคือคนที่สุดยอดมาก (ตัวข้าพเจ้าเอง)

31. อัตตา หรือ Ego ที่มากเกินไป เป็นต้นเหตุที่ทำให้คนเรามี"สติ"และ"ปัญญา"อ่อน (ลง)

32. ให้ “รัก” และ “จริงใจ” ต่อครอบครัวของคนรัก เสมือนครอบครัวของเราเอง แล้วจะอยู่กันยืดยาว

33. เกรดเฉลี่ยไม่ได้วัดทุกอย่าง แต่เวลาสมัครงานหรือเรียนต่อ เกรดเฉลี่ยเป็นอันดับแรกที่ถูกพิจารณา

34. คนอื่นเขาจะพูดด่า ต่อว่า หรือกระทำสิ่งไม่ดีต่างๆ ต่อเราอย่างใดก็ได้ มันเป็นสิทธิ์ของเขา แต่เราเลือกที่จะแบกรับไว้ หรือกระทำสิ่งใดๆ กลับไป นั่นก็เป็นทางเลือกของเรา ฉะนั้นจงคิดไต่ตรองให้ถี่ถ้วน

35. ชื่อและตำแหน่งใดๆ ที่คนอุปโลกน์สมมติขึ้นมามอบให้เรา ต่อให้ยิ่งใหญ่แค่ไหนมันไม่ได้มีความหมายอะไร เมื่อเราใส่ชุดนอนอยู่บ้านหรือเมื่อเทียบกับโลกที่ยิ่งใหญ่ใบนี้

36. ในปี 2563 ที่สุดเราก็หนีภาษาอังกฤษและภาษาจีนไม่พ้น

37. การที่เราเห็นใครสักคนทำสิ่งใดสำเร็จ เรามักคิดว่าเขาโชคดี หรือเก่งมาตั้งแต่เกิด แต่ที่จริง เขาเพียรพยายามหนักมาก...มากอย่างที่เรานึกไม่ถึง

38. ไม่มีใครเก่งไปทุกเรื่อง เราอาจฉลาดในเรื่องหนึ่งและอาจโง่สุดๆ ในเรื่องหนึ่ง

39. ในช่วงชีวิตของคนเรา จะรู้สึกชอบและเกลียด รู้สึกเกลียดและชอบ วนไปวนมาแบบนี้...ถ้าไม่อยาก"ทุกข์"มากก็จงอย่า"เกลียด"

40. ถ้าบ้านของเรา ไม่มีวัตถุสิ่งของมีค่าอื่นใดมากมาย มีแต่หนังสือ เวลาที่โจรขึ้นบ้าน เราจะมีโอกาสได้แบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น (หัดใช้ชีวิตให้เรียบง่ายและสมถะ)

41. "เพื่อน" ไม่จำเป็นต้องตายแทนกัน แค่ไม่หันหลังทิ้งกัน ในวันลำบากก็พอ...หน้าที่ที่ดีสุดของเพื่อนคือ "ฟัง"และ"ตอบ" ตอนที่มันถาม

42

42. "สัตว์เลี้ยง" ถ้ามันไม่เป็น "บ้า" มันคือสิ่งมีชีวิตที่ "ซื่อสัตย์" กับเราที่สุด

43. “เพื่อน" สมัยประถมฯหรือมัธยมฯ อาจไม่ใช่เพื่อนที่ดีที่สุด...แต่"พวกมัน" คือ"เพื่อน"ที่ดีที่สุด

44. เวลาที่ใครบอกว่า สิ่งนั้น สิ่งนี้ ไม่เหมาะกับเรา, ให้ดูเจตนาผู้พูด ถ้าเขา "หวังดี"ให้ฟังและไตร่ตรอง แต่ถ้า"ไม่"ให้เพิกเฉยเสีย

45. เราไม่ต้องพยายามเข้าใจ "พ่อ"กับ"แม่" แค่พยายามทำทุกอย่างเพื่อท่านก็พอ

46. ความสวย หล่อ ไม่ได้ทำให้"รัก"ยืนยาว หากแต่มันคือ"ความเข้าใจ" การไม่คาดหวังในตัวอีกฝ่ายมากเกินไป รวมทั้งให้การยอมรับนับถือซึ่งกันและกัน

47. เสื้อและกางเกงใน "ตราห่านคู่ (Double Goose)" ของไทยเรา ใส่สบายที่สุด บางเบาดุดซีทรู

48. คนอื่นๆ เขามองเราที่การแต่งตัว ทรงผม ใบหน้า ต่อให้เราจะเป็นคนดีอย่างไร, ถ้าเราไว้หนวดเครา เบื้องต้นเขาจะคิดว่าเราเป็นโจร

49. ในคืนที่เรามีเงิน เราไปในที่ๆ เป็นนายของใครบางคน ในเช้าวันรุ่งขึ้น เรากลับไปทำงานเพื่อแลกเงิน จากใครบางคน ฉะนั้นศักดิ์ศรีและความเป็นคนของเราทุกคนมีเท่าๆ กัน...เราจึงไม่ควร"ตัดสิน"และดูถูกใคร

50. "สื่อ"ที่เราเลือกเสพ เป็นเครื่องช่วยขัดเกลาสภาพจิตใจของเรา

51. ถ้าจะตอแหลและมีจริตจะก้าน ให้ทำแต่พอประมาณ แบบเป็นธรรมชาติ แต่อย่าให้มากเกินพอดี

52. ควรเป็นผู้ใหญ่ที่มีความคิดและเหตุผล...แต่จงเป็นวัยรุ่นอยู่เสมอ ในแง่ของ"พลังงาน"และ"ความอิสระ"

53. ถ้าเราพูดว่า"ไม่มีเวลาออกกำลังกาย" ไม่ว่าจะชาตินี้ ชาติหน้า ชาติไหน มันก็คือ "ไม่มี"

54. ตัวเราเล็กลงเมื่ออยู่ท่ามกลางคนจำนวนมาก ปัญหาของเราก็เช่นกัน มันเล็กมากเมื่ออยู่ท่ามกลางปัญหาของคนอื่นๆ

55. อย่าสระผม แล้วไปกินหมูกระทะ

56. "ความปกติ" และ "ความธรรมดา" ของชีวิตคือ "สภาวะ" ที่ดีที่สุดแล้ว

57. จงใช้ชีวิตอยู่ร่วมและเข้าใจความเป็นไปของธรรมชาติ อย่าไปดันทุรังและฝืนสิ่งต่างๆ มากเกินความจำเป็นเลย

58. ลองมองรอบตัวดูดีๆ บางทีสิ่งที่เราคิดว่ายังไม่พอดี ไม่พอใจ แท้ที่จริงแล้วมันก็ดีหรือมากเกินพออยู่แล้ว

59. ทุกอย่างในโลกใบนี้ สามารถมองเป็นศิลปะได้หมด แม้กระทั่งการเก็บขี้หมาใส่ถุง

60. ในชีวิตของเราทุกคนไม่ช้าก็เร็ว ทุกคนต้องพบเจอกับปัญหา อุปสรรค ความเจ็บปวดในรูปแบบใด รูปแบบหนึ่ง ให้อดทนและมองว่า
มันเป็นเรื่องธรรมดา...ตั้งแต่เล็กจนโต มันมีเรื่องที่เราคิดว่าจะผ่านไปไม่ได้ใช่ไหม?...แต่แล้วสุดท้ายเราผ่านมันมาได้หรือเปล่า?

61. ใช้ชีวิตให้ดี ไม่ประมาท เชื่อมั่น ไม่ย่อท้อในความดี บุญ(ความดี) รักษาครับ.

หวังว่าสิ่งที่ผู้เขียนได้เรียนรู้ทั้ง 61 ข้อดังกล่าว จะไปช่วยกระตุกต่อมคิดในบางประเด็นของท่านผู้อ่าน หรืออาจนำไปประยุกต์ใช้เป็นแง่คิดเพื่อเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิตได้บ้างไม่มากก็น้อย บางข้ออาจดูยียวน กวนๆ ไปบ้าง แต่หากท่านลองพิจารณาดีๆ อาจเห็นบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น...ขอบคุณที่สละเวลาอ่าน หวังว่าคงได้พบกันอีกครับ.

e4

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์