ไลฟ์แฮ็ก
สิ่งแรกที่ควรทำ เมื่อกระเป๋าหาย
เมื่อไม่นานมานี้เราเพิ่งทำกระเป๋าหายตอนไปสอบราชการ! ขนาดว่าอยู่ในจุดที่เจ้าหน้าที่คุมสอบบอกให้วางกระเป๋าไว้ได้แท้ๆ แต่ช่วงที่เจ้าหน้าที่เผลอ กระเป๋าเราก็หายจนได้! เศร้าเลย! โทรศัพท์เพิ่งซื้อได้ครึ่งปีผ่อนยังไม่หมด ไหนจะบัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต กุญแจห้องอีกอะไรอีก! กว่าจะจัดการอายัดบัตร ติดต่อขอใบแจ้งความ หมายเรียกพยานเอกสาร ใช้เวลาไป 4-5 วันเลยทีเดียว
วันนี้เลยอยากมาแชร์ให้ฟังกันว่า เราควรทำอะไร "ก่อน-หลัง" เพื่อไม่ให้หัวเสีย เพราะของที่หายก็หลายหมื่น ทำใจอยู่หลายวัน กว่าจะรู้สึก "ช่างมัน" ได้จริงๆ ตามที่พูดไว้
ก่อนอื่นจะบอกก่อนว่า ถ้ากระเป๋าหาย แต่โทรศัพท์ไม่ได้หายด้วย! แสดงว่าแต้มบุญยังมีอยู่มาก สิ่งที่ต้องจัดการคือ แจ้งความ และจัดการเรื่องอายัดบัตรและจัดการพวกพวงกุญแจรถ กุญแจบ้านต่างๆ
แต่ถ้า "โทรศัพท์หาย" สิ่งแรกที่ควรทำ ไม่ใช่การมาสืบสาวราวเรื่องในตอนนั้นว่าหายได้ยังไง ในกระเป๋ามีอะไรบ้าง (ไว้ทำทีหลัง) แต่สิ่งแรกที่ควรทำคือ ยืมโทรศัพท์ใครสักคนมาหาโทรศัพท์ก่อนเลย
Advertisement
Advertisement
จำไว้ว่าไม่จำเป็นต้องใช้ระบบปฏิบัติการเดียวกัน เช่น ใช้ iPhone ต้องใช้ iPhone มาล็อคอินเข้า Apple ID ใช้ได้ทั้งหมด (แค่มีเน็ต ทำผ่าน Chrome เอา) สิ่งที่เราควรทำคือ แข่งกับเวลา!!!!! โอกาสจะได้คืนมีสูง เพราะฉะนั้นเมื่อรู้ตัว รีบหาโทรศัพท์ทันที
โดยเพื่อนๆ สามารถล็อคอินผ่าน Chrome ได้ทั้งหมด ใครใช้ Android ก็ง่ายหน่อย ล็อคอินผ่านบัญชี Google เสิร์ชหาคำว่า Find my Device แล้วรีบหาเลย ส่วน iOS ก็ล็อคอิน Apple ID ในเว็บด้วยเช่นกัน
เมื่อล็อคอินแล้ว ก็รีบกดตามหาโทรศัพท์ ให้เครื่องมันร้องตามดังๆ ขั้นตอนนี้ถือเป็นนาทีทอง ถ้าเราทำได้ทันเวลา (ก่อนที่โจรจะปิดเครื่อง) เราจะได้ของคืน คิดว่าถ้ากระเป๋าหายอีกในครั้งหน้า โทรศัพท์เราไม่หายแน่ๆ 55555
ต่อมาสิ่งที่เราควรทำคือ รีบไปแจ้งความที่สน.ที่ใกล้ที่สุด (ตามสถานที่เกิดเหตุ) ช่วงที่เราไปรอตามหมายเรียกพยานเอกสาร มีคนมาแจ้งความผิดด้วย โดนโกงของออนไลน์ตอนอยู่ที่ทำงาน แต่ดันไปแจ้งสน.แถวที่พัก เพราะคิดว่าแจ้งที่ไหนก็ได้ ต้องแจ้งที่เกิดเหตุเลย เมื่อไปถึงสน.แล้ว เราจะต้องขอ "ใบแจ้งความ" จำไว้ว่า เราต้องให้เลข IMEI เครื่องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยเลย เพื่อนำใบแจ้งความ +หมายเรียกพยานเอกสาร ไปให้ค่ายมือถือ เอไอเอส-ดีแทค-ทรู (3 ค่าย ช่วยตามเครื่อง)
Advertisement
Advertisement
เพราะถ้าเราแจ้งความอย่างเดียว ไม่มีเลข IMEI เราจะต้องวนลูปไปแจ้งความใหม่ เท่ากับเสียเวลาไปเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเราควรเก็บเลข IMEI ไว้ในเมลล์ หรือระบบคลาวด์ที่เราจะค้นหาได้ทันทีในตอนที่หาย
จำไว้ให้ขึ้นใจ IMEI ก็เหมือนบัตรประชาชนของโทรศัพท์มือถือ หากสามารถแจ้งเร็ว ก็มีโอกาสเจอได้ก่อนที่โจรจะเอาไปเปลี่ยนซิมใช้ หรือเอาไปขายต่อ เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน จะช่วยเราตามอีกทางด้วย
สรุปนะ
1.ตั้งสติ (ไว้เสียใจทีหลัง)
2.รีบค้นหาโทรศัพท์ผ่าน Find my iPhone /Find my devide ในทันที มันจะปุ่ม emergency ให้กดตามหา
3.แจ้งความ (ใช้เวลาประมาณเกือบ 1 ชม.) และต้องย้ำว่า "ขอหมายเรียกพยานเอกสาร" ด้วย เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่ อาจจะเพราะเป็นเคสเล็กๆ น้อยๆ
4.อายัดบัตร ATM และบัตรเดบิต
5.นำเอกสาร (ใบแจ้งความ+หมายเรียกพยานเอกสาร) ไปให้ Operator ค่ายมือถือ
และสุดท้าย
Advertisement
Advertisement
6.วางแผนเวลาดีๆ อย่างเรากว่าจะแจ้งความเสร็จทุ่มครึ่ง กว่าจะไปถึงห้าง ช้อปมือถือปิดแล้ว!! ไปถามข้อมูลจาก iCare Apple ก็ไม่ได้อะไรมาก
วิธีป้องกัน
1.เมื่อรู้ตัวว่าต้องไปที่คนเยอะๆ ไม่ควรพกสัมภาระไปเยอะๆ แม้ไปสอบแล้วเค้าจะมีล็อคเกอร์ให้ก็ตาม เพราะเมื่อของเราหายจริงๆ เราคนเดียวที่เสียความรู้สึกและเสียเงิน ส่วนคนอื่นจะแค่ทำตามหน้าที่ของเค้า
2.ทำประกันมือถือ เราเห็นที่เอไอเอส มีเอไอเอสแคร์ เป็นบริการรายเดือน รายปี กันกรณีทำตก-หาย เข้าใจว่าค่ายอื่นๆ ก็น่าจะมี เหมือนเราซื้อประกันสุขภาพ ก็ดีนะ เสียเงินเพิ่มหน่อย แต่เกิดโทรศัพท์หายขึ้นมา ก็ได้เครื่องใหม่เลย
กันไว้ดีกว่าแก้ :) หวังว่าวิธีรับมือเหล่านี้ จะมีประโยชน์นะ
เครดิตรูป : https://pixabay.com/th/
ความคิดเห็น
