อื่นๆ
อยากมีความสุขในชีวิตต้องปล่อยวาง

เชื่อได้ว่าทุกคนล้วนต้องมีทั้งทุกข์ และสุขในชีวิตของคนเรา แต่ใครเล่าที่อยากจะมีความทุกข์ ก็ต้องอยากแต่จะมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น แต่ในความเป็นจริงนั้นชีวิตคนเรามันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดทาง ทุกคนต้องเจอกับขวากหนาม ไม่ว่าจะเป็นคนรวย หรือคนจน ก็ต้องเจอกับคำว่าความทุกข์ วันนี้อาจจะมีความสุข วันพรุ่งนี้อาจจะมีความทุกข์ก็ได้ หลายสาเหตุของความทุกข์ของมนุษย์ล้วนแล้วเกิดขึ้นจากจิตใจดังนั้นหากอยากใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเราต้องปฏิบัติตัวอย่างไรกันบ้าง
รู้จักลดละสละออก เป็นความสุขทางใจที่ได้สละ หรือให้สิ่งของบริจาคกับผู้อื่นบ้าง บางทีการเป็นผู้ให้เป็นสิ่งที่น่ายินดีและควรกระทำ เคยไหมที่เราให้ของอะไรใครไป แล้วผู้รับมีความสุข เราก็จะมีความสุขไปด้วย ถ้าจิตใจเราเห็นแก่ตัวไม่รู้จักการให้ก็ไม่รู้จักความสุขแบบนี้ เพราะจิตใจยังมีความเห็นแก่ตัวยึดติดถือมั่น ดังนั้นเราต้องปล่อยวางจึงจะช่วยให้เรามีความสุขได้ง่ายขึ้น
Advertisement
Advertisement
ความยึดมั่นถือมั่นทำให้เราเกิดความทุกข์ คนเรานั้นมีกิเลสตัณหาในจิตกัน อย่างเช่น ยึดติดในวัตถุ ยึดติดตัวบุคคล ยึดติดกับภาพลักษณ์ชื่อเสียงเป็น หากเรายืดยึดในสิ่งเหล่านี้จะเกิดความทุกข์แต่ถ้าหากเราปล่อยวางได้ก็จะไม่เป็น อย่าไปยึดติดถือมั่นว่าสิ่งเหล่านี้จะอยู่กับเราไปตลอด เพราะมันเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ดังนั้นเราควรปล่อยวาง ให้อยู่ด้วยความว่างเปล่า อย่าไปยึดถือกับสิ่งนั้น ใช้ปัญญาคิดเตือนสติตัวเองอยู่เสมอ
ยึดติดในอารมณ์ เช่น ความเกลียด ความโกรธ ความคับแค้นใจ และ ความน้อยเนื้อต่ำใจ ก็เป็นสิ่งที่เราต้องลดละด้วย เคยไหมที่เวลาเราไม่ชอบใคร ความคิดเรามุ่งมั่นเราจิตใจเราจะอยู่แต่กับเขาคิดย้ำ ๆ ซ้ำ ๆ อยากให้เขาไม่มีความสุข แต่เปล่าเลยเรานั้นเองแหละที่ไม่มีความสุขเพราะจิตใจของเราขุ่นมัวคิดไม่ดีคิดร้ายกับคนคนที่เราเกลียด ดังนั้นเราจึงต้องลดละเลิก ปล่อยวางอารมณ์ต่าง ๆ ที่ขุ่นมัวเหล่านี้ควบคุมกายวาจาให้มีสติ คิดดีจึงจะทำให้เรามีความสุขตามความคิดของเรานั้นเอง
Advertisement
Advertisement
ความยึดติดถือมั่น ในตัวเรา มีหลายแบบเช่นการไม่รู้จักพอ อยากเด่น หรือยึดติดในความเห็นของตนเอง ซึ่งตราบใดที่เรายังยึดติด ในตัวตนอย่างแน่นหนาไม่ยอมปล่อย ก็ยากที่จะมีความสุข บางคนมีพร้อมแล้วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงอำนาจเงินทอง แต่ก็ยังไม่พอจะมุ่งแสวงหาเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด ทำให้เกิดความอยากได้ไม่มีสิ้นสุด จะเกิดความสุขทางกายก็จริงกับสิ่งที่หาได้ แต่ในใจกลับไม่เป็นสุขเพราะวัน ๆ ต้องคิดหาหนทางมุ่งแสวงหาตลอดนั่นแหละความทุกข์ ดังนั้นจึงต้องย้อนมองดูตัวเองว่าพอแล้วหรือยังปล่อยวางบ้างจะเกิดความสุข

ดังนั้นทั้งหมดเป็นข้อยึดติดที่มนุษย์ยังคงวนเวียนอยู่กับความทุกข์ เราควรปล่อยวาง นำธรรมะมาเจริญภาวนานั้นชีวิตเราจะมีความสุขมากขึ้น เปรียบเสมือนเป็นเครื่องขัดเกลากิเลสของเราให้ออกจากจิตใจ เวลาทำบุญก็ให้ถึงประโยชน์ของผู้รับเป็นสำคัญโดยไม่นึกปรารถนาให้ตัวเอง ตั้งจิตปรารถนาให้กิเลสของเราลดลง หรือให้ความโลภในจิตใจเราเบาบางลง ผู้ที่ลดความยึดติดถือมั่น ในตัวตนได้ จิตใจจะสงบเย็นเป็นสุขมากขึ้น เป็นความสุขที่มาจากภายใน ทำให้พึ่งพาวัตถุ หรือสิ่งของภายนอกน้อยลง ดังนั้นถ้าหากเรามีชีวิตที่มีแต่ความสุขอย่างแท้จริง ก็ต้องรู้จัดปล่อยวาง
Advertisement
Advertisement
ความคิดเห็น






