ไลฟ์แฮ็ก

อยู่ให้รอด เมื่อโดนเลย์ออฟในวัย 30+

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อยู่ให้รอด เมื่อโดนเลย์ออฟในวัย 30+

โดนเลย์ออฟเหรอ !!  ช่วงนี้เค้าฮิตกันจริง ๆ ฮิตกันมาตั้งแต่ปีก่อน  แต่ปีนี้ก็ทำท่าจะติดเทรนด์อีก ยาวทั้งปี

แน่นอนว่า  สำหรับคนรุ่นใหม่ไฟแรง  วัยยี่สิบต้น ๆ มันไม่ได้ลำบากมากนักหรอก  กับการร่อนใบสมัคร หางานที่ใหม่ 

    แต่เมื่ออายุของเรา มาแตะที่หลักเลข 3  หน้าที่การงาน ของมนุษย์เงินเดือน ก็มักจะอยู่ในระดับของหัวหน้างาน  ผู้จัดการหรือผู้บริหารแล้ว ซึ่งตำแหน่งเหล่านี้ ในแต่ล่ะบริษัท มีจำนวนน้อยกว่า  พนักงานระดับปฎิบัติการ รวมทั้งมีเงินเดือนที่สูงลิ่ว มาพร้อมอายุที่มากขึ้น ทำให้การเริ่มต้นใหม่ไม่ได้ง่ายดายนัก  แต่อย่าเพิ่งกังวลใจไป ที่เห็นแต่ข้อเสีย ชวนละเหี่ยใจ สิ่งหนึ่งที่เรามีเหนือกว่าคนอายุน้อยกว่า คือ ประสบการณ์และความเก๋า  หลังจากตกใจกับซองขาวและข่าวร้าย ก่อนอื่นเรามาหาวิธี ที่จะอยู่ให้รอดได้อย่างไรกัน ระหว่างหางานใหม่ที่ลงตัว 

Advertisement

Advertisement

เงินภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay

1. เริ่มต้นด้วยเงินชดเชย      เรามาคำนวนจำนวนเงินชดเชยที่จะได้รับ  ซึ่งบางคนอาจโชคร้ายเพิ่มไปอีก เพราะบริษัทดันขาดสภาพคล่องอย่างหนัก  ขอผ่อนจ่ายตามมาทีหลัง ที่พึ่งต่อมา ที่ไม่ควรลืม คือ ประกันสังคม  ควรไปลงทะเบียนที่ประกันสังคมเขตใกล้บ้าน เพื่อขอรับเงินชดเชยการถูกเลิกจ้าง  จำนวนที่ได้แม้จะคำนวนให้มา 50 % จากเพดานสูงสุด เงินเดือน 15,000 บาทเท่านั้น ต่อให้เงินเดือนของเรา  จะทะลุไปหลักครึ่งแสนก็ตาม ก็ได้เท่านี้แหละ อย่างน้อย ๆ เราก็จะมีเงินก้อนนี้ ไว้เป็นค่าข้าว  ค่าเดินทางอีก 6 เดือนเชียวนะ  

เครื่องคิดเลขภาพโดย Steve Buissinne จาก Pixabay

 2.หนี้สิน  หนี้ก้อนไหนที่จำเป็นต้องจ่าย  ยิ่งก้อนไหนที่จ่ายช้า แล้วดอกเบี้ยสูง  รีบเคลียร์ก่อนเลย และหนี้ก้อนไหน ที่สามารถประวิงเวลาได้  ก็เรียงลำดับเวลาการจ่ายกันไป เพื่อลดภาระในเดือนต่อไป   

Advertisement

Advertisement

3.ทรัพย์สิน  รถ บ้าน คอนโด  ที่ดิน ทอง เงินเก็บสะสมในรูปแบบต่าง ๆ เรียงลำดับไว้เลยว่า  ทรัพย์สินชิ้นไหน ที่สามารถแปรสินทรัพย์เป็นทุนได้  ในกรณีที่ทรัพย์สินบางอย่าง ยังติดภาระหนี้ อาจจะต้องวางแผนไว้ล่วงหน้าว่า  ถ้าหากหางานไม่ได้ ภายในกี่เดือน คงต้องตัดใจปล่อย เพราะในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ การขายบ้าน รถ หรือคอนโดให้ได้ง่าย ๆ ต้องใช้เวลาพอสมควรทีเดียว  ถ้าเราขายแบบเร่งด่วน อาจทำให้ได้ราคาน้อยกว่าที่ควร  ทรัพย์สินเหล่านี้ เมื่อมีเงินก็สามารถซื้อหามาใหม่ได้  แม้บางอย่าง  เจ้าของอาจจะรักและผูกพัน จนยากจะตัดใจก็ตาม 

4.ค่าใช้รายเดือน  สำรวจในแต่ล่ะเดือนว่า  เรามีรายจ่ายอะไรบ้าง สามารถปรับลดรายจ่าย  ตรงส่วนไหนลง  พยายามบริหารตัวเลข  ให้มีเงินสำรองนานที่สุด เพื่อให้เรามีเวลาหางานทำ  มาถึงตอนนี้เราน่าจะรู้แล้วว่า เงินที่มีจะสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน

Advertisement

Advertisement

เรซูเม่

ภาพโดย Shari Jo จาก Pixabay

 5.หางานทำ    เมื่อคำนวนตัวเลขเสร็จสรรพ  เราก็เริ่มต้นมองหางานทำ  ทำเรซูเม่สวย ๆ ซึ่งสามารถเสิร์ชหาแนวทางได้ จากเวบไซต์ต่าง ๆ และในระหว่างรองานที่ใช่  ที่เ่หมาะสมนั้น เราอาจจะต้องวางหัวโขน  หน้าที่การงานเดิมลง มองหางานพาทไทม์  วันล่ะไม่กี่ร้อย  ซึ่งสามารถหาได้ไม่ยาก ทั้งในเวบไซต์ และเพจจากเฟสบุ๊คต่าง ๆ   หรือหากใครมีทักษะเฉพาะตัว   อาจจะใช้โอกาสนี้ เอาทักษะที่ตัวเองถนัด มาลงมือทำธุรกิจเล็ก ๆ ดู  แต่พึงระวัง ควรใช้เงินลงทุนให้น้อยที่สุด และพยายามนำทรัพยากร ที่เรามีอยู่แล้ว ยกตัวอย่างเช่น ชอบอ่านหนังสือ ชอบการเขียน  อาจจะลองเริ่มต้นงานเขียนดู หรือ ชอบทำขนมเป็นงานอดิเรก ที่บ้านมีเตาอบอยู่แล้ว ก็อาจลองทำขนมสูตรใหม่ ๆ  

sunshine ภาพโดย Marion Wellmann จาก Pixabay

 สุดท้าย  สร้างกำลังใจจากตัวเราเอง  ในยุคที่สื่อโซเชี่ยล  ทำให้เราสามารถสื่อสารกับผู้คนได้มากขึ้น  ช่องทางทำมาหากิน ย่อมไ่ม่อับจน โลกเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน   วางสิ่งที่เคยยึดติด และมองความเป็นจริงในปัจจุบัน จงใช้ประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา  และความเก๋าในการผ่านโลกมามากของเรา นำมาเป็นต้นทุน แต่ไม่เอามาเป็นตัวถ่วง  จนทำให้เราจมไม่ลง   แล้วเราจะเริ่มต้นใหม่ได้อย่างงดงาม

** ภาพหน้าปก โดย Republica จาก Pixabay

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์