ไลฟ์แฮ็ก
อย่าคิดถึงอนาคตมากจนลืมปัจจุบัน
สวัสดีผู้อ่านทุกๆท่านนะครับ วันนี้นักเขียนก็จะมาพูดถึงประเด็น อย่าคิดถึงอนาคตมากจนลืมปัจจุบัน เพราะอะไรรู้ไหมครับ?การคิดถึงอนาคตก็เหมือน การฉายภาพในจินตนาการให้เราคิดถึงสิ่งที่ตัวเองต้องการอยู่ในโลกของความฝันว่าเราจะต้องมีชีวิต ตามความฝันของตัวเอง ถ้าเรามัวแต่คิดถึงเรื่องในอนาคตปัจจุบันก็จะหายไปจริงไหมครับ? การคิดถึงอนาคตก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดนะครับ แต่เราก็ต้องคิดถึงความเป็นจริงว่ามันจะเป็นไปได้ไหมถ้าเราเอาแต่คิดถึงอนาคต แต่ปัจจุบันไม่มีการวางแผนลงมือทำอะไร ไม่มีการพัฒนาตัวเอง มัวแต่รออนาคต ถามว่าอนาคตจะเป็นจริงได้ไหม? คำตอบคือ ไม่แน่นอนครับ อนาคตเราจะเป็นยังไงก็ขึ้นอยู่กับว่า วันนี้ ณ ปัจจุบันเราทำอะไร ถ้าเราคิดถึงในอนาคตว่า อยากเป็นคนที่มีเก็บ มีเงินใช้ ความเป็นอยู่สบาย แต่เราไม่ยอมลงมือทำอะไรเลย มัวแต่อยู่เฉยๆ ไม่รู้จักลงทุน ไม่ขยันทำงาน แบบนี้อนาคตเห็นทีก็จะแทบเป็นไปไม่ได้เลย เพราะโลกของความฝันกับโลกความเป็นจริงมันต่างกัน บางคนอาจจะวาดฝันไว้ในหัวเยอะแยะมากมาย แต่พอเอาเข้าจริงก็ไม่ได้ดั่งใจหวัง หรือบางครั้งเราก็กำลังรู้สึกกังวลกับอนาคตมากเกินไป(อันนี้นักเขียนเป็นค่อนข้างบ่อย😅😅) กังวลกับเรื่องที่มันยังไม่เกิดขึ้น กังวลกับสิ่งที่เราไม่สามารถควบคุมมันได้ ยกตัวอย่าง นักเขียนตอนนี้กำลังเรียนอยู่ ปี2 คณะศึกษาศาสตร์ สาขาพลศึกษา ที่มหาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตไหนก็เก็บไว้เป็นความลับ ในเทอมที่2 นี้ นักเขียนก็ได้เรียนวิชาว่ายน้ำ ซึ่งเป็นวิชาที่ตัวเองไม่ชอบสักเท่าไหร่เพราะไม่ชอบว่ายน้ำ แต่ถ้าเล่นน้ำพอได้อยู่(😂😂😂) ก็รู้ว่าเรียนครูพละต้องเจออยู่แล้ว ทุกๆครั้งก่อนที่จะถึงวันเรียน ทุกชั่วโมง เราจะเกิดความรู้สึกกังวลว่า กลัวจะผ่านไปไม่ได้ กลัวทำไม่ได้ กลัวทำได้ไม่ดีพอ มันเกิดความกังวลขึ้นมากมายภายในใจ เรารู้สึกได้หัวใจเต้นไม่ปกติ มันร้อนวูบวาบภายในใจ ซึ่งเป็นสัญญาณของภายในที่กำลังบอกเราว่า เรากังวลมากเกินไป วิธีแก้ของนักเขียนก็คือ หาอะไรทำ ดึงตัวเองกลับมาโฟกัสกับสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ ณ ตอนนั้น มันก็ค่อยๆดีขึ้นเริ่มมีสติมากขึ้น เราควรจะปล่อยให้มันเป็นไปตามทางของมัน เราไม่สามารถหนีหรือโดดเรียนได้เพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องเจออยู่ดี ทางเดียวที่จะหายกังวลก็คือการมีสติ ยกตัวอย่างอีกกรณี ถ้าสมมุติว่า เรากำลังจะลงทุนเปิดร้านกาแฟสักร้านหนึ่งเป็นร้านที่ไม่ต้องใหญ่มาก แล้วก็ตกแต่งภายในร้านให้สวยงาม ข้างนอกก็มีมุมถ่ายรูปไว้ให้สำหรับคนที่มาใช้บริการ แต่เราก็กำลังกังวลว่า ร้านที่กำลังจะเปิดนี้มันจะรอดไหม มันจะไปได้ไกลแค่ไหน หรือมันจะเจ๊งไหม เกิดความกังวลขึ้นเพราะกลัวขาดทุน กลัวไม่ได้กำไร กลัวไม่คุ้มกับเงินทุน อย่างนี้เป็นต้น ไม่แปลกครับที่จะกังวล การลงทุนย่อมมีความเสี่ยงเสมอ ถ้าเราไม่ลองก็ไม่รู้แต่ถ้าเราชอบซะอย่าง เราก็ไม่ต้องกังวลครับอนาคตไม่รู้จะเป็นยังไง แต่ถ้าวันนี้เรามีความสุขกับร้านกาแฟนี้ ก็ทำต่อไป อนาคตอะไรจะเกิดก็เกิดเราควบคุมไม่ได้ เราไม่รู้อนาคต แต่เราควบคุมปัจจุบันได้ อนาคตก็จะเกิดจากสิ่งที่เราทำในปัจจุบันจนกลายมาเป็นอนาคตของเรานั่นเอง นักเขียนเชื่อว่าก็ยังมีหลายคนนะครับ ที่ใช้ชีวิตวันนี้ด้วยความรู้สึกของอนาคตที่ยังมาไม่ถึง สิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น เราไม่สามารถควบคุมเหตุการณ์ข้างหน้าได้ ก็ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวางจากอนาคตบ้าง คิดไปก็เท่านั้นปวดหัว~~~ อย่าไปคิดอะไรเยอะเลย อยู่กับความรู้สึกของปัจจุบัน เราต้องดึงสติกลับมาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วปล่อยออกมาอย่างช้าๆ ทำวนไปจนกว่าจะรู้สึกตัว การทำแบบนี้จะช่วยให้เราโฟกัสกับลมหายใจเข้าออก เมื่อเราโฟกัสได้ก็แสดงว่าเรากำลังรู้สึกตัว แล้วสติก็จะกลับมาอยู่กับเอง อนาคตเป็นสิ่งสำคัญแต่ปัจจุบันก็สำคัญไม่แพ้กัน จะมีอนาคตที่ดีได้ ปัจจุบันก็ต้องทำให้ดีด้วย อย่ามัวแต่กังวลจนไม่ลงมือทำอะไรเลย เพราะสุดท้ายแล้วอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด!! ทุกคนเคยได้ยินคำนี้ไหมครับ จงอย่ายึดติดกับอดีตและจงอย่าโหยหาอนาคตไม่เช่นนั้นปัจจุบันจะหายไป คำนี้นักเขียนเอามาจากภาพยนตร์เรื่อง 4Kingsมีอยู่ฉากหนึ่งในหนังที่มีตัวละคนหนึ่งที่ชื่อ รูแปงพูดกับดา พอได้ยินแล้วเราก็รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องจริง เขาพูดถูกเลย มันทำให้เราคิดได้ว่าการอยู่กับปัจจุบันเป็นเรื่องที่สำคัญจริงๆ อย่าเอาแต่จมปลักกับอดีต อย่าเอาแต่กังวลกับอนาคตที่ยังมาไม่ถึง อยู่กับวันนี้ก็พอ สุดท้ายนักเขียนก็หวังว่าบทความอันนี้จะช่วยเตือนสติของผู้อ่านได้บ้าง ก็ขอขอบคุณที่อ่านจนจบ แล้วเจอกันใหม่บทความต่อไป ถ้าผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย #การอยู่กับปัจจุบัน
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
ชอบเขียนเกี่ยวกับการสร้างกำลังใจให้กับตัวเอง แล้วก็เรื่องทั่วๆไป ฝากติดตามด้วยครับ🤟🤟
ความคิดเห็น