อื่นๆ

อัญมณี กับ ความเชื่อ

624
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อัญมณี กับ ความเชื่อ

               หินสี หรือ แร่ผลึก ที่เราเรียกกันว่า "อัญมณี" นั้น เป็นสิ่งสวยงามที่ธรรมชาติได้รังสรรค์ขึ้นมานานนับพันปี มนุษย์ในยุคโบราณได้นำอัญมณีมาทำเป็นเครื่องประดับรวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ เพื่อแสดงถึงฐานะทางสังคม นอกจากนี้ยังนำมาทำเป็นเครื่องรางของขลังตามความเชื่อซึ่งแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ บ้างก็ว่าช่วยปกปักรักษา บ้างก็ว่าจะนำโชคลาภมาสู่ผู้สวมใส่ บ้างก็ว่าจะทำสิ่งใดก็ได้ดั่งใจหวัง บ้างก็นำมาใช้ในการรักษาโรค ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้ดังนี้

กลุ่มสุขภาพ

  1. "ทับทิม" (Ruby) คนโบราณเชื่อกันว่าหากนำทับทิมมาลูบไล้ตามผิวกายจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง
  2. "สปิเนล" (Spinel) เดิมถูกจัดรวมอยู่ในกลุ่มเดียวกับทับทิม ดังนั้นความเชื่อเกี่ยวกับสปิเนลจึงมีลักษณะคล้ายกับทับทิม คือช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง และยังใช้เป็นยารักษาอาการตกเลือด
  3. "โกเมน" (Garnet) เชื่อกันว่าช่วยบำบัดโรคความดันโลหิตต่ำ โรคตับ ช่วยรักษาอาการตกเลือด และมีพลังคุ้มครองไม่ให้ฝันร้าย
  4. "โทแพซ" (Topaz) เชื่อกันว่าโทแพซสามารถช่วยบำบัดอาการคลุ้มคลั่ง
  5. "ไทเกอร์ส อาย" (Tiger's eye) เชื่อกันว่ามีพลังในการบรรเทาอาการปวดและความเครียด
  6. "บลัดสโตน" (Bloodstone) เชื่อกันว่าช่วยเสริมสร้างระบบไหลเวียนเลือด ให้การทำงานของเลือดเป็นไปด้วยดี ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดประจำเดือน เลือดกำเดาไหล หรืออาการเกี่ยวกับเลือดอื่นๆ
  7. "ทัวร์มาลีน" (Tourmaline) เชื่อกันว่าหากนำทัวร์มาลีนมาห่อด้วยผ้าไหม แล้วนำไปสัมผัสกับแก้มเด็กที่มีไข้สูงจะช่วยให้เด็กนอนหลับสนิท
  8. "เจต" (Jet) มีบันทึกจากโรมันบอกว่า ถ้านำเจตมาบดผสมกับไขกระดูกกวางตัวผู้ สามารถเป็นยาถอนพิษงูได้
  9. "คาร์เนเลียน" (Carnelian) เชื่อกันว่าช่วยให้ผู้สวมใส่มีอารมณ์สดใส สนุกสนาน ร่าเริง และยังเชื่อว่าช่วยบำบัดรักษาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย
  10. "โรโดโครไซต์" (Rhodochrosite) เชื่อกันว่าช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับระบบเลือดและช่วยปรับจิตใจให้สงบลง ช่วยควบคุมอารมณ์ให้ปกติ
  11. "โซดาไลต์" (Sodalite) เชื่อกันว่ามีพลังในการบำบัดรักษาเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ของร่างกาย และยังช่วยให้มีสมาธิ
  12. "ไข่มุก" (Pearl) เชื่อกันว่ามีอำนาจในการรักษาโรคได้แทบทุกชนิด
  13. "แคลไซต์" (Calcite) เชื่อกันว่าสามารถใช้ถอนพิษจากแมลงกัดต่อย โดยนำมาคลึงบริเวณที่ถูกพิษ ความเจ็บปวดก็จะลดลง และสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ที่เลวร้ายให้ดีขึ้น
  14. "คริสโซโคลลา" (Chrysocolla) เชื่อกันว่ามีพลังทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกกระฉับกระเฉง ไม่อ่อนเพลียง่าย ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายจากความเหนื่อยเมื่อยล้า และโรคภัยไข้เจ็บ
  15. "มรกต" (Emerald) เชื่อกันว่ามีอานุภาพในการบำบัดรักษาโรค โดยวางไว้บริเวณที่ต้องการรักษา หรือสวมใส่ไว้ที่คอจะช่วยบรรเทาอาการ
  16. "สโมกกี้ ควอตซ์" (Smoky Quartz) เชื่อว่ามีพลังในการบำบัดจิตใจ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เปิดใจและเข้าใจตัวเองมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่เคร่งเครียด ท้อแท้ สิ้นหวัง หรือคนป่วยที่อยู่ในระยะพักฟื้น
  17. "เฮมาไทต์" (Hematite) เชื่อกันว่าหินชนิดนี้มีพลังปกป้องคุ้มครองจากสัตว์ร้ายต่างๆ หากถูกสัตว์มีพิษกัด ให้นำเฮมาไทต์มากลิ้งวนรอบปากแผล หินจะดูดซับพิษนั้นเอาไว้
  18. "คาลซิโด" (Chalcedony) เชื่อกันว่าเป็นแร่ที่เสริมพลังของสตรีเพศ ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเพศหญิงให้สูงขึ้น

Advertisement

Advertisement

หินภาพที่ 1 โดย ponce_photography จาก Pixabay

กลุ่มปกป้องคุ้มครอง

  1. "เพชร" (Diamond) ชาวกรีกโบราณเชื่อว่า เพชรสามารถป้องกันยาพิษได้           
  2.  "เซอร์คอน" (Zircon) เชื่อกันว่าเมื่อใดที่เซอร์คอนไม่มีประกายแวววาว แสดงว่าเจ้าของกำลังมีอันตราย
  3. "อำพัน" (Amber) เชื่อกันว่ามีอำนาจปกป้องคุ้มครองสูง คนโบราณนิยมฝังเครื่องรางที่ทำจากอำพันลงในหลุมศพ เพื่อให้คุ้มครองตนไปจนถึงภพหน้า
  4. "ลีโอพาร์ด สกิน แจสเพอร์" (Leopard Skin Jasper) เชื่อกันว่าเมื่อสวมใส่แล้วจะมีพลังป้องกันอันตราย ช่วยให้รู้สึกปลอดภัย และปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ใหม่ๆ ได้ดี   
  5. "แซปไฟร์" (Sapphire) เชื่อกันว่ามีรังสีศักดิ์สิทธิ์แผ่ออกมาจากแซปไฟร์ซึ่งสามารถฆ่าสัตว์มีพิษได้ และ ชาวเปอร์เซียเชื่อว่าโลกตั้งอยู่บนแท่งแซปไฟร์ขนาดใหญ่ที่สะท้อนแสงให้ท้องฟ้าเป็นสีฟ้า           
  6. "หยก" (Jade) ชาวจีนโบราณนิยมนำหยกมาทำเป็นเครื่องรางให้เด็กๆ เพื่อป้องกันโรคภัยต่างๆ และยังมีการนำหยกไปบดเป็นผงและชงกับน้ำค้างแล้วดื่ม เชื่อว่าทำให้จิตใจสงบ 
  7. "งา" หมายถึง งาช้าง ฟัน และเขี้ยวของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เชื่อกันว่าใครได้ครอบครองงาจะมีพลังอำนาจเหนือศัตรู ปัจจุบันไม่สนับสนุนให้คนนำงามาทำเครื่องประดับแล้ว   
  8. "ลาพิส ลาซูลี" (Lapis lazuli) ชาวอียิปต์บูชาหินชนิดนี้เพราะเชื่อว่าเป็นตัวแทนพลังอำนาจจากเทพเจ้าบนสวรรค์   
  9. "โอปอล" (Opal) เชื่อกันว่าโอปอลเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง นิยมให้สตรีมีครรภ์สวมใส่เพื่อให้คลอดบุตรง่าย 
  10. "เพริดอต" (Peridot) เชื่อกันว่าเพริดอตช่วยปัดเป่าความมืดและความน่ากลัวของรัตติกาล                 
  11. "เทอร์คอยส์" (Turquoise) เชื่อกันว่าเป็นหินของเทพเจ้า ช่วยคุ้มครองชีวิต เป็นสิ่งนำโชค และช่วยบันดาลความสุข
  12. "อะซูไรต์" (Azurite) เชื่อกันว่าช่วยปกป้องคุ้มครองจากสิ่งชั่วร้าย ยิ่งมีสีเข้มมากเท่าไรก็ยิ่งมีอานุภาพมากขึ้นเท่านั้น     
  13. "มาลาไคต์" (Malachite) ชาวอียิปต์โบราณเชื่อกันว่าช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากตัว และยังเชื่อว่าเป็นเครื่องรางที่ใช้ปกป้องเด็กทารก 
  14. "คริโซเบริล" (Chrysoberyl) คริโซเบริลที่น่าสนใจจะมีลักษณะแบบตาแมว เรียกว่า ไซโมเฟน เชื่อกันว่าเป็นเครื่องรางป้องกันไม่ให้โชคร้ายเข้ามากล้ำกราย
  15. "ร็อกคริสตัล" (Rock Crystal) เชื่อกันว่าเป็นน้ำแข็งชนิดหนึ่งที่พระเจ้าสร้างขึ้น ปัจจุบันมีการนำร็อกคริสตัลมาทำป็นลูกแก้วทำนาย

Advertisement

Advertisement

มุกภาพที่ 2 โดย qiye จาก Pixabay

กลุ่มโชคลาภ

  1. "โมรา" (Agate) เชื่อว่าช่วยเพิ่มความร่ำรวย พร้อมทั้งป้องกันภัยอันตรายต่างๆ ได้ และเชื่อกันว่าช่วยดูดซับความรู้สึกที่ไม่ดีออกจากร่างกายและจิตใจ

กลุ่มความรัก 

  1. "อความารีน" (Aquamarine) เชื่อกันว่าอความารีนช่วยให้คู่รักรักกันไม่เสื่อมคลาย เป็นเครื่องรางช่วยให้ทหารมีชัยชนะเหนือข้าศึก และยังเชื่อกันว่าอความารีนเป็นอัญมณีของกะลาสีเรือ คอยคุ้มครองให้เดินทางฝ่าพายุร้ายในทะเล   
  2. "คันไซต์" (Kunzite) เชื่อกันว่ามีพลังอำนาจในเรื่องความรัก ช่วยกระตุ้นและขับพลังความรักให้เปิดเผยออกมา ทำให้มีความกล้าในเรื่องของความรักมากขึ้น และเสริมสร้างความเป็นผู้หญิงให้แก่สตรีผู้เป็นเจ้าของอีกด้วย     
  3. "โรสควอตซ์" (Rose Quartz) เชื่อกันว่าเป็นหินแห่งความรักและการให้อภัย และเชื่อกันว่ามีพลังช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจให้ดีขึ้นด้วย

Advertisement

Advertisement

ควอตซ์ภาพที่ 3 โดย KAVOWO จาก Pixabay

กลุ่มการงาน/การเรียน 

  1. "ไทเกอร์ ไอออน" (Tiger Iron) เป็นอัญมณีที่มีสีผสมจากไทเกอร์ส อาย เฮมาไทต์ และเรด แจสเพอร์ ดังนั้นจึงมีพลังหรือคุณสมบัติต่างๆ จากอัญมณีสามชนิดนี้รวมอยู่ด้วยกัน เหมาสำหรับคนทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์มากเป็นพิเศษ 
  2. "มูนสโตน" (Moonstone) เชื่อกันว่าผู้ที่สวมใส่มูนสโตนจะมีสติปัญญาดี ร่ำรวย และมีชัยชนะในการรบ 
  3. "รูไทล์ ควอตซ์" (Rutile Quartz) เชื่อกันว่าแร่ชนิดนี้ช่วยดึงพลังความสามารถหรือศักยภาพที่แฝงอยู่ในตัวของผู้สวมใส่ออกมาได้   
  4. "ซูกิไลต์" (Sugilite) เชื่อกันว่าหินชนิดนี้มีพลังในการพัฒนาจิตหรือพัฒนาพลังสมาธิของคนเรา 
  5. "บุษราคัม" (Citrine) เชื่อกันว่าพลังของชิทรินช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้มีเหตุผล เพิ่มความคิดสร้างสรรค์แก่ผู้สวมใส่   
  6. "ฟลูออไรต์" (Fluorite) เชื่อกันว่ามีพลังทำให้จิตใจสงบและมีสมาธิขึ้นด้วย   
  7. "อเมทรีน" (Ametrine) เชื่อว่ามีพลังในการประสานความขัดแย้ง ช่วยให้เกิดความเข้าใจ หรือใช้ปรับสภาพร่างกายยามเจ็บป่วย   
  8. "อเวนเจอรีน" (Aventurine) เชื่อกันว่าเป็นหินที่มีพลังผลักดันให้เกิดความคิดอิสระ มีความคิดสร้างสรรค์ และยังทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ทำให้ผู้สวมใส่รู้สึกสดชื่น แข็งแรง กระฉับกระเฉง มีสุขภาพดีอยู่เสมอ   
  9. "แอเมทิสต์" (Amethyst) เชื่อกันว่าช่วยให้มีสติสัมปชัญญะ นอกจากนี้ในสมัยจีนโบราณยังใช้ผงแอเมทิสต์ในการรักษาโรคกระเพาะอาหารด้วย

มูนสโตนภาพที่ 4 โดย WhisperedSecrets จาก Pixabay

               เพราะมีความเชื่อจึงเกิดการกระทำบางอย่างเพื่อสนองความเชื่อนั้น สำหรับผู้เขียนแล้วความเชื่อเกี่ยวกับอัญมณีถือเป็นสิ่งที่มีคุณประโยชน์เพราะเป็นความเชื่อที่เป็นด้านบวก มีแต่ความสิริมงคล สามารถสร้างความมั่นใจแก่ผู้สวมใส่ และยังเป็นไอเทมที่ช่วยเพิ่มความสวยงามเก๋ไก๋อีกด้วย อย่างไรก็ดี การเลือกหาเครื่องรางของขลังมาไว้ในครอบครอง ควรทำอย่างมีวิจารณญาณเพื่อไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพที่แสวงหาผลประโยชน์จากความเชื่อของมนุษย์

ข้อมูลจาก : อัญมณีกับชีวิต.นานมีบุ๊คส์

ภาพปกจาก : ColiN00B / Pixabay

อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์