อื่นๆ
ฮัลโหล! วันนี้คุณทำสิ่งที่คุณกลัวหรือยัง?
ตอนที่เอเลนอร์ รูสเวลท์ (Eleanor Roosevelt) พูดว่า “Do one thing every day that scares you” เธอไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนไปดูหนังผีหนังซอมบี้หรืออะไรที่ทำให้คุณกลัวขนหัวลุก แต่นักคิดนักเขียนอดีตสตรีหมายเลข 1ของสหรัฐอเมริกา ตั้งใจบอกทุกคนว่า “กล้าออกมาจากมุมปลอดภัยบ้าง”
เราทุกคนต่างชอบอยู่ในมุมสบาย พื้นที่ที่เราซุกได้อย่างมั่นใจ ว่าจะใช้ชีวิตอย่างปลอดภัยในทุกวัน พื้นที่ซึ่งความเสี่ยงภัยกับเราจะไม่มีวันได้เปิดประตูมาเจอกัน อาจนาน ๆ ที่เราจะแง้มประตูโผล่มาดูโลกภายนอกสักที ถ้าเห็นอะไรไม่เข้าที เราจะรีบวิ่งหนีกลับเข้าไปขังตัวเองในพื้นที่เดิมของเราเสมอ
เรื่องนี้ฉันเข้าใจ ใครล่ะจะไปอยากทำในสิ่งที่ตัวเองกลัว แต่การหลบอยู่ในที่ปลอดภัยก็ไม่ทำให้ปัญหาบางอย่างจบสิ้น นั่นล่ะเอเลนอร์ถึงเตือนเราว่า “ทุกวันจงลงมือทำหนึ่งอย่างที่คุณกลัว”
Advertisement
Advertisement
Cover Photo by Alexas_Fotos on Pixabay
ฉันไม่แน่ใจว่าประโยคทองนี้สามารถนำไปใช้ได้กับทุกเรื่องราวในชีวิตไหม แต่มั่นใจ 100% ว่ามันใช้ได้แน่ ๆ กับเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
พวกเราหลายคนทำงานกันคล่องแคล่วเก่งกาจ แต่เรามักเงอะงะผิดพลาดกับเรื่องเงินของเราเอง บางคนให้ไปร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำไม่เคยหวั่น แต่เรื่องเงินแค่คิดจะบริหารก็เหงื่อตกติ๋ง ๆ แล้ว
ในเรื่องของการลงทุน สิ่งที่ทำให้เรากลัวนั้นไม่ใช่ตัวเงิน แต่ที่กลัวสุด ๆ คือกลัวเสี่ยง คุณผู้อ่านคงเคยทำแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงการลงทุนกันมาบ้างไม่มากก็น้อย ฉันคงไม่ถามหรอกว่าแต่ละคนได้คะแนนเท่าไหร่ แต่เชื่อไหมว่างานวิจัยของ Northwestern Mutual พบว่าคนอเมริกันเฉลี่ยส่วนใหญ่รู้สึกว่ารับความเสี่ยงได้กับการลงทุนไม่เกิน 4.9
ก็แน่ล่ะเรื่องนี้ต้องเข้าใจ ใครจะอยากเอาเงินที่มีอยู่ไม่มากมายไปเสี่ยงกับการขาดทุนกันล่ะ เมื่อระดับความอดทนรับการขาดทุนนั้นต่ำ ผลคะแนนจากแบบสอบถามจึงพบว่าคนส่วนใหญ่รับความเสี่ยงการลงทุนได้ไม่มาก
Advertisement
Advertisement
ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ปลอดภัยดีที่จะไม่ลงทุนอะไรเสี่ยง ๆ แต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ลืมเฉลียวใจ การไม่ยอมให้ตัวเองเสี่ยงกับอะไร คือการไม่ยอมให้โอกาสอะไรกับตัวเองด้วย
Photo by Moose Photos from Pexels
ขณะที่คุณหลบหนีความเสี่ยงจนหัวซุน “ความรวย” ก็ผละจากคุณไปพร้อมกันด้วย เพราะคนที่ลงทุนจนร่ำรวย (ด้วยลำแข้งของตัวเอง) กว่าจะรวยแบบที่คุณเห็นนี้ได้ ล้วนต้องก้าวข้ามความเสี่ยงน้อยใหญ่กันมาแล้วทั้งสิ้น
การที่คุณฝากเงินปลอดภัยในบัญชีธนาคาร แต่หวังจะให้ร่ำรวยเท่าเศรษฐีร้อยล้านที่ลงทุนในหุ้น ก็ไม่ต่างอะไรจากการที่คุณอยากถูกรางวัลที่หนึ่งโดยที่ไม่ยอมซื้อแม้แต่ล็อตเตอรี่
แน่นอนบนเส้นทางระหกระเหินของการลงทุนย่อมทำให้คุณใจไม่ดีเป็นบางช่วง ให้คุณนึกถึงประโยคนี้ของเอเลนอร์ไว้ ทุกวันคุณต้องก้าวข้ามความกลัวให้ได้ ถ้าคุณสตรองพอที่จะผ่านมันไป สิ่งที่คุณกลัวแทบเป็นแทบตายนั่นล่ะจะมอบรางวัลอันยิ่งใหญ่ให้คุณ
Advertisement
Advertisement
นี่ไม่ใช่ความเชื่อแต่มีวิทยาศาสตร์รองรับ งานวิจัยพบว่ายิ่งมนุษย์ทำสิ่งที่กลัวมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างผลงานที่ดีขึ้นได้เท่านั้น ยิ่งเสี่ยงบ่อยก็ยิ่งมีภูมิคุ้มกันต่อความกลัวมากขึ้น ยิ่งนานวันก็ยิ่งกลัวความเสี่ยงน้อยลง และยิ่งกลัวความเสี่ยงน้อยลง ก็ยิ่งพบความล้มเหลวน้อยลงเรื่อย ๆ
Photo by Julian Jagtenberg from Pexels
เมื่อคุณก้าวข้ามความกลัวได้ ทุกครั้งขอบเขตหรือข้อจำกัดของคุณก็จะถูกผลักออกไปเรื่อย ๆ คุณจะเลิกซุกตัวอยู่ในกรอบเก่า ๆ คุณจะกล้าสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ตรงกันข้ามกับคนที่ซุกอยู่ในที่ปลอดภัย แม้อาจไม่เคยสูญเสียอะไร แต่ก็ไม่เคยได้อะไรเช่นกัน
นอกจากเรื่องการเงิน ประโยคนี้ยังนำไปใช้กับการงานได้ เมื่อใดก็ตามที่คุณจำเป็นต้องรวบรวมความกล้าทำอะไรสักอย่าง และความกลัววิ่งมาขวางคุณข้างหน้า ให้บอกตัวเองว่า วันนี้ฉันกำลังลงมือทำหนึ่งอย่างที่ฉันกลัว แล้วเขี่ยความกลัวให้พ้นจากเส้นทางไป
คุณอาจรวบรวมความกล้าแล้วเดินเข้าไปหาเจ้านาย พูดในสิ่งที่คุณต้องการอย่างตรงมาตรงไปสักครั้ง คุณคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณควรได้เงินเดือนขึ้น คุณอยากได้ตำแหน่งที่ท้าทายกว่านี้ คุณมีไอเดียธุรกิจใหม่มานำเสนอ หรือคุณอยากเสนอตัวเป็นผู้ดูแลโครงการใหม่
การเสี่ยงเข้าไปเจรจา ผลออกมาอาจจะสำเร็จหรือล้มเหลวก็ได้ แต่อย่างน้อยคุณก็ให้โอกาสตัวเอง 50-50
แต่หากคุณซุกอยู่ในมุมปลอดภัย ไม่ยอมเสี่ยงที่จะลงมือทำอะไร คุณอาจไม่ต้องเสียอะไร แต่โอกาสที่จะได้ในสิ่งที่คุณอยากได้คือ 0 แน่นอน!
ความคิดเห็น